กลยุทธ์การบริหารกิจกรรมพัฒนาสุขภาวะของโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

Main Article Content

ทรงธรรม พลับพลา
สุบิน ยุระรัช

บทคัดย่อ

            บทความวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ของการบริหารกิจกรรมพัฒนาสุขภาวะ 2) ประเมินและวิเคราะห์ความต้องการจำเป็นในการพัฒนากิจกรรมสุขภาวะ 3) ออกแบบกลยุทธ์การบริหารกิจกรรมพัฒนาสุขภาวะ วิธีวิจัยแบบพหุระยะ เน้นข้อมูลเชิงปริมาณ มากกว่า เชิงคุณภาพ ประชากร คือ โรงเรียนระดับมัธยมศึกษา สังกัดสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา จำนวน 2,358 โรงเรียน ทั่วประเทศ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ โรงเรียนมัธยมศึกษา จำนวน 410 โรงเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้มี 4 ฉบับ ได้แก่ 1) แบบสอบถามกลยุทธ์ 2) แบบประเมินกลยุทธ์ 3) แบบสัมภาษณ์กลยุทธ์ และ   4) แบบบันทึกการสนทนากลุ่ม วิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป SPSS โดยใช้สถิติ ความถี่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และวิเคราะห์จัดลำดับความต้องการจำเป็นด้วยวิธีการหาค่า PNImodified ผลการวิจัยพบว่า 1) สภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ของการบริหารกิจกรรมพัฒนาสุขภาวะของโรงเรียนมัธยมศึกษา โดยภาพรวม พบว่า มีสภาพปัจจุบันอยู่ในระดับ ปานกลาง มีสภาพที่พึงประสงค์อยู่ในระดับ มากที่สุด 2) ประเมินและวิเคราะห์ความต้องการจำเป็นในการพัฒนากิจกรรมสุขภาวะของโรงเรียนมัธยมศึกษาโดยมีความต้องการจำเป็นในการพัฒนา ด้านสุขภาวะทางปัญญา รองลงมาด้านด้านสุขภาวะทางสังคม ด้านสุขภาวะทางจิต ด้านสุขภาวะด้านทางกาย เป็นอันดับสุดท้าย 3) กลยุทธ์การบริหารกิจกรรมพัฒนาสุขภาวะของโรงเรียนมัธยมศึกษา ประกอบด้วย 4 ด้าน คือ กลยุทธ์ด้านที่ 1 ด้านสุขภาวะด้านสุขภาวะทางปัญญา กลยุทธ์ด้านที่ 2 ด้านสุขภาวะด้านสุขภาวะทางสังคม กลยุทธ์ด้านที่ 3 ด้านสุขภาวะด้านสุขภาวะทางจิต กลยุทธ์ด้านที่ 4 ด้านสุขภาวะด้านสุขภาวะด้านทางกาย

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
พลับพลา ท. ., & ยุระรัช . ส. . (2021). กลยุทธ์การบริหารกิจกรรมพัฒนาสุขภาวะของโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์, 8(9), 238–251. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/JMND/article/view/255148
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กมลทิพย์ ทองกำแหง. (2554). กลยุทธ์การพัฒนาภาวะผู้นาเชิงจริยธรรมสำหรับผู้บริหาร โรงเรียนเอกชน. ใน วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาบริหารการศึกษา . จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

กรมสุภาพจิต. (2562). ปิดสถิติ โรคใหม่ ใน โลกใหม่. เรียกใช้เมื่อ 10 มิถุนายน 2562 จาก http://www.tcdc.or.th

ธัญญภรณ์ เลาหะเพ็ญแสง. (2554). การวิเคราะห์ความต้องการจำเป็นและการนำเสนอกระบวนการ นำนโยบายวิจัยในชั้นเรียนสู่การปฏิบัติในโรงเรียน. ใน วิทยานิพนธ์ครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิธีวิทยาการวิจัยการศึกษา. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ประเวศ วะสี. (2551). สุขภาวะที่สมบูรณ์. กรุงเทพมหานคร: หมอชาวบ้าน.

พระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550. (2550). ราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 124 ตอนที่ 16 ก.

วรรณี แกมเกตุ. (2555). วิธีวิทยาการวิจัยทางพฤติกรรมศาสตร์ (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. (2563). นโยบายสำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ.2563. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ชุมนุมการเกษตรแห่งประเทศไทย.

สุวิมล ว่องวาณิช. (2558). การวิจัยประเมินความต้องการจำเป็น. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

Donettelle, R.J. & Davis. L.G. (1998). Access to Health (5thed). Boston: Allyn and Bacon.

Pender, J.N. (1996). Health Promotion in Nursing Practice 3 rd ed. Connecticut: Appleton and Lange.

Wongwung, A., et al. (2014). Change model of the attribute of students in terms of discipline, sufficiency living and . Procedia-Social and Behavioral Journal, 116, 3996-3999.

World Health Organization. (1998). Towards Health Schools. New Delhi: Regional Office for South East Asia.