การพัฒนาแนวปฏิบัติการลดความปวดในสตรีผ่าตัดคลอด โรงพยาบาลเกาะสมุย

Main Article Content

เพ็ญศรี เรืองศรี

บทคัดย่อ

บทความวิจัยฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาแนวปฏิบัติการลดความปวด                 2) ศึกษาประสิทธิผลแนวปฏิบัติการลดความปวด ในสตรีผ่าตัดคลอด โดยการวิจัยแบบกึ่งทดลอง กลุ่มตัวอย่างเป็นสตรีไทยที่ได้รับการพิจารณาจากแพทย์ให้ผ่าตัดคลอด โดยการดมยาสลบ จำนวน 70 คน แบ่งเป็นกลุ่มทดลอง (กลุ่มที่ใช้แนวปฏิบัติการลดความปวดที่พัฒนา) และกลุ่มเปรียบเทียบ (กลุ่มที่ใช้แนวปฏิบัติแบบเดิม) กลุ่มละ 35 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แนวปฏิบัติการลดความปวดในสตรีผ่าตัดคลอด และคู่มือการจัดการความปวด เครื่องมือ ในการรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบสอบถามการจัดการความปวดหลังผ่าตัด และผลลัพธ์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา Chi-square test, Independent t-test และ Paired sample t-test ผลการวิจัย พบว่า แนวปฏิบัติการลดความปวดที่พัฒนา คือ ให้ความรู้ ฝึกปฏิบัติการลดความปวด แนะนำให้พลิกตะแคงตัว/เปลี่ยนอิริยาบถ และวิธีอื่น ๆ ในการลดความปวด หรือใช้ยาตามการรักษาหากไม่ได้ผล ประเมินความปวด สังเกตชีพจร ความดันโลหิต และให้ปฏิบัติตัวตามที่ได้ให้คำแนะนำไว้ เยี่ยม และติดตามดูแล ผลการใช้พบว่า สตรีผ่าตัดคลอดมีความปวดลดลงเมื่อรู้สึกตัว ก่อนออกจากห้องพักฟื้น และหลังผ่าตัด 24 ชั่วโมง              ส่วนแนวปฏิบัติแบบเดิม สตรีผ่าตัดคลอดมีความปวดลดลงหลังการผ่าตัดเมื่อรู้สึกตัว และหลังผ่าตัด 24 ชั่วโมง แต่ก่อนออกจากห้องพักฟื้นความปวดไม่ได้ลดลง เมื่อเปรียบเทียบการใช้             แนวปฏิบัติที่พัฒนา กับแบบเดิม พบว่า ไม่ได้ทำให้ความปวดลดลงแตกต่างกัน แต่ทำให้สตรีผ่าตัดคลอดมีความพึงพอใจต่อการจัดการลดความปวดโดยรวม และแต่ละด้าน มากกว่าแบบเดิมที่เคยปฏิบัติ ดังนั้น จึงควรนำแนวปฏิบัตินี้ไปใช้ที่โรงพยาบาลต่อไป

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
เรืองศรี เ. . (2021). การพัฒนาแนวปฏิบัติการลดความปวดในสตรีผ่าตัดคลอด โรงพยาบาลเกาะสมุย. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์, 8(9), 144–160. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/JMND/article/view/255014
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

ดวงกมล ปิ่นเฉลียว และพรพรรณ ภูสาหัส. (2558). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความทุกข์ทรมานของสตรี หลังผ่าตัดคลอดทางหน้าท้อง. วารสารพยาบาลทหารบก, 16(1), 101-108.

พจนี วงศ์ศิริ และศุภดีวัน พิทักษ์แทน. (2562). ผลการใช้โปรแกรมการจัดการความปวดต่อการลดความปวด ความวิตกกังวลและความพึงพอใจในผู้ป่วยผ่าตัดคลอดบุตรที่ได้รับการระงับความรู้สึกชนิดดมยาสลบ ห้องพักฟื้น โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี. วารสารวิชาการแพทย์เขต 11, 33(3), 441-460.

ฟองคำ ดิลกสกุลชัย. (2559). การปฏิบัติการพยาบาลตามหลักฐานเชิงประจักษ์ : หลักการและวิธีปฏิบัติ. กรุงเทพมหานคร: พรี -วัน.

โรงพยาบาลเกาะสมุย. (2563). สถิติผู้มารับการผ่าตัดโรงพยาบาลเกาะสมุย ปี 2558 – 2562. สุราษฎร์ธานี: โรงพยาบาลเกาะสมุย.

สมพร ชินโนรส และคณะ. (2555). การจัดการกับความปวด และความพึงพอใจต่อการจัดการกับความปวดในผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดมดลูกออกทางหน้าท้อง. วารสารสภาการพยาบาล, 15(3), 327-343.

เสาวนิตย์ กมลวิทย์ และปิ่นอนงค์ รัตนปทุมวงศ์. (2557). การพัฒนาแนวปฏิบัติทางคลินิก ด้านการจัดการความปวดในผู้ป่วยหลังผ่าตัด โรงพยาบาลระนอง. วารสารกองการพยาบาล, 41(2), 23-40.

อิศราภรณ์ กันวี และคณะ. (2555). สถานการณ์การจัดการความปวดในห้องพักฟื้นสําหรับผู้ป่วยที่ได้รับยาระงับความรู้สึก. วารสารบําราศนราดูร, 6(2), 87–97.

Joshi, G.P. (1999). Pain Management after ambulatory surgery. Ambulatory Surgery, 7(1), 3-12.

National Health and Medical Research Council. (2021). A guideline to the development, implementation and evaluation of practice guidelines. Retrieved March 21, 2021, from http://www. health.gov.au/nhmrc/publi cation/pdf/cp.30.pdf

Obrien, D. (1994). Post anesthesia care of the gastrointestinal abdominal and anorectal surgical patient. In C.B. Drain (Eds.), the post anesthesia care unit: A critical care approach to post anesthesia nursing (3rd ed.). Philadelphia: W.B.Saunders.

Pillitteri, A. (2010). Maternal & Child health nursing. (5th ed.). Philadelphia: Lippincott.

Registered Nurse Association of Ontario [RNAO]. (2002). Nursing best practice guideline: Assessment and management of pain. [Internet]. Retrieved December 20, 2020, from http://www.rnao.org