การเตรียมความพร้อมผู้สูงอายุและพัฒนาความรู้ผู้ดูแลต่างวัย

Main Article Content

ปิยะวรรณ ศรีสุรักษ์
เพ็ญณี แนรอท

บทคัดย่อ

บทความวิจัยฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ เตรียมความพร้อมผู้สูงอายุและพัฒนาความรู้ผู้ดูแลต่างวัย โดยเป็นการวิจัยแบบผสมผสานวิธี  กลุ่มตัวอย่าง ประกอบด้วย 2 กลุ่ม คือ ผู้ดูแลผู้สูงอายุจำนวน 40 คน และผู้สูงอายุ  จำนวน 40 คน ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น รวมจำนวน 80 คน เลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง  เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แบบวัดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการตอบสนองความต้องการของผู้สูงอายุ  2) ชุดกิจกรรมพัฒนาความรูสำหรับผู้สูงอายุที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น  3) แบบวัดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการตอบสนองความต้องการของผู้สูงอายุ และ 4) แบบวัดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ชีวิตช่วงสูงวัย สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า1) ผู้สูงอายุ มีความรู้ความเข้าใจในวัยของตน เมื่อเปรียบเทียบคะแนนก่อนและหลังเข้ารับการอบรม  ผู้สูงอายุที่เป็นกลุ่มตัวอย่าง มีความรู้ความเข้าใจเพิ่มขึ้น จึงกล่าวได้ว่า ผู้สูงอายุได้รับการเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่วัยผู้สูงอายุ  2) การพัฒนาความรู้ความเข้าใจของผู้ดูแลผู้สูงอายุ มีทัศนคติและความรู้  ความเข้าใจ  แตกต่างจากก่อนเข้ารับการอบรมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ทั้งสองกลุ่ม กล่าวคือ กลุ่มผู้เข้าอบรมมีทัศนคติ เชิงบวก และมีความรู้ความเข้าใจมากกว่าก่อนเข้ารับการอบรม ซึ่งแสดงว่ากลุ่มตัวอย่างมีความพร้อมในการดูแลผู้สูงอายุ ดังนั้นหลักสูตรที่พัฒนาขึ้นจึงมีคุณภาพเพียงพอที่จะนำไปให้กลุ่มเป้าหมายที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกันได้ การดูแลผู้สูงอายุควรให้ความสำคัญกับการพัฒนาในลักษณะองค์รวม ทั้งในส่วนของตัวผู้สูงอายุเองบุคคลที่เกี่ยวข้องและชุมชนเพื่อให้สามารถเข้าใจในบริบทของตัวผู้สูงอายุ พร้อมทั้งให้การดูแลผู้สูงอายุในทางปฏิบัติ

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
ศรีสุรักษ์ ป. ., & แนรอท เ. . (2021). การเตรียมความพร้อมผู้สูงอายุและพัฒนาความรู้ผู้ดูแลต่างวัย. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์, 8(9), 105–115. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/JMND/article/view/255011
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

จินตนา อาจสันเที๊ยะ และรัชณีย์ ป้อมทอง. (2561). แนวโน้มการดูแลผู้สูงอายุในศตวรรษที่ 21 ความท้าทายในการพยาบาล. วารสารพยาบาลทหารบก, 19(1), 39-46.

ปราโมทย์ ประสาทกุล และคณะ. (2555). ผู้สูงอายุ:คนวงในที่จะถูกผลักให้ไปอยู่ชายขอบ ประชากรและสังคม. นครปฐม: สำนักพิมพ์ประชากรและสังคม.

เพ็ญณี (กันตะวงษ์) แนรอท และณรงค์ เกียรติคุณวงศ์. (2562). การดูแลผู้สูงอายุบทเรียนจากเมืองโกเบ. ขอนแก่น: พิมพ์ถูกขอนแก่น.

เพ็ญพิไล ฤทธาคณานนท์. (2550). พัฒนาการมนุษย์ - Human development. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพมหานคร: คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ศศิพัฒน์ ยอดเพชร และคณะ. (2556). สถานการณ์ ศักยภาพและความพร้อมของไตรภาคีในการพัฒนาระบบสุขภาพชุมชนใน พื้นที่ 12 ตำบล. วารสารระบบ สาธารณสุข , 3(3), 389-394.

สุพัตรา ศรีวณิชชากร และคณะ. (2556). สถานการณ์ ศักยภาพและความพร้อมของไตรภาคีในการพัฒนาระบบสุขภาพชุมชนใน พื้นที่ 12 ตำบล. วารสารระบบ สาธารณสุข, 3(3), 389-394.

Campbell, A. (1976). Subjective measures of Well-being. American Psychologist, 31(2), 117-124.

Dalkey, N. C. & Helmer, O. (1963). An experimental application of the Delphi method to the use of experts. Management Science, 9(3), 458-467.

Ferrens, C. & Powers, M. (1985). Quality of Life Index: Development and psychometric Properties. Advances in Nursing Science, 8(1), 15-24.

Lim, H. & Kim, K. H. (2019). A study on how elderly people are preparing for dying well. Journal of the Korea Academia-Industrial, 20(9), 432-439.

Orem, D. E. (1991). Nursing: Concepts of practice. (4th Ed.). St. Louis: C. V. Mosby.