ปัญหาการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดกรณีมีความผิดฐานอื่น ตามพระราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ. 2545

Main Article Content

ณัฐธิดา อรรคทิมากูล
สัญญพงศ์ ลิ่มประเสริฐ

บทคัดย่อ

บทความวิจัยฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแนวคิด ทฤษฎีและข้อจำกัดการเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูสมรรถภาพกรณีมีความผิดฐานอื่นตามพระราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ. 2545 เปรียบเทียบกฎหมายต่างประเทศ และวิเคราะห์พร้อมเสนอแนวทางในการปรับปรุงแก้ไขข้อจำกัดดังกล่าวต่อไป ทั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพศึกษาจากตัวบทกฎหมาย บทความทางวิชาการ คำพิพากษาศาลฎีกา วิทยานิพนธ์ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนแหล่งสืบค้นข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต โดยวิธีการวิเคราะห์เปรียบเทียบกฎหมายไทยกับกฎหมายต่างประเทศในเรื่องดังกล่าวและนำมาปรับใช้แก้ไขกฎหมาย เนื่องจากพระราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ. 2545 จำกัดให้เฉพาะผู้เสพยาเสพติดที่ไม่ต้องหาหรืออยู่ระหว่างถูกดำเนินคดีในความผิดฐานอื่นที่มีโทษจำคุก หรืออยู่ในระหว่างรับโทษจำคุกตามคำพิพากษาของศาลเข้ารับการฟื้นฟูสมรรถภาพได้ มีผลทำให้บุคคลดังกล่าวไม่ได้รับการบำบัดอย่างเหมาะสมในระหว่างถูกดำเนินคดีความผิดฐานอื่น ก่อให้เกิดปัญหาในการดำเนินคดีและความพยายามในการหลีกเลี่ยงการฟื้นฟู จากผลการวิจัยพบว่า ข้อจำกัดตามพระราชบัญญัติดังกล่าว ไม่สอดคล้องกับหลักแก้ไขฟื้นฟู หลักที่ถือว่าผู้เสพยาเสพติดเป็นผู้ป่วยที่ต้องได้รับการรักษาและหลักข้อสันนิษฐานความบริสุทธิ์ นอกจากนี้ก็มิได้มุ่งเน้นการคัดกรองผู้กระทำความผิดซ้ำออกจากกระบวนการ แต่แท้จริงแล้วกฎหมายมีเจตนารมณ์ที่จะแก้ไขฟื้นฟูอย่างถูกต้องและเหมาะสม ขณะที่ประเทศมาเลเซียและรัฐโรดไอแลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา มิได้มีข้อจำกัดดังกล่าว ดังนี้ จึงควรแก้ไขกฎหมายนี้โดยให้ผู้ติดยาเสพติดซึ่งแม้ต้องหาหรืออยู่ระหว่างถูกดำเนินคดีในความผิดฐานอื่นที่มีโทษจำคุก เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูสมรรถภาพในระหว่างการดำเนินคดีจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาลงโทษจำคุกในคดีความผิดฐานอื่น

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
อรรคทิมากูล ณ. ., & ลิ่มประเสริฐ ส. . (2021). ปัญหาการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดกรณีมีความผิดฐานอื่น ตามพระราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ. 2545. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์, 8(8), 135–148. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/JMND/article/view/254273
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม. (2563). รายงานสถิติคดีฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดของสำนักงานคุมประพฤติทั่วประเทศ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 – 2563. เรียกใช้เมื่อ 25 ธันวาคม 2563 จาก https://data.go.th/dataset/item_54856cb2-e10d-4eb5-865c-af8032b84a5d

กองพัฒนาการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด. (2546). รวมกฎหมายพระราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ. 2545. กรุงเทพมหานคร: กรมคุมประพฤติ.

เกียรติขจร วัจนะสวัสดิ์. (2551). คำอธิบายกฎหมายอาญาภาค 1. (พิมพ์ครั้งที่ 10). กรุงเทพมหานคร: พลสยามพริ้นติ้ง.

ชูทิตย์ ปานปรีชา. (2530). คู่มือสุขภาพจิตสำหรับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์การศาสนา.

ฐิยาพร กันตาธนวัฒน์. (2560). กระบวนทัศน์การปฏิบัติงานด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดของภาคประชาชน. กรุงเทพมหานคร: จรัลสนิทวงศ์การพิมพ์.

พระราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ. 2545. (2545). ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 119 ตอนที่ 96 ก หน้า 26.

วิทูร จันทร์แจ้งดี. (2556). ปัญหาเกี่ยวกับการฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด. กรุงเทพมหานคร: สถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม.

อัจฉรียา ชูตินันท์. (2557). อาชญาวิทยาและทัณฑวิยา (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพมหานคร: วิญญูชน.

Britannica. (2020). Cesare Lombroso. Retrieved December 5, 2020, from https://www.britannica.com/biography/Cesare-Lombroso

Drug Dependants (Treatment and Rehabilitation) Act. (1983). WHO MiNDbank: More Inclusiveness Needed in Disability and Development. Retrieved December 5, 2020, from https://www.mindbank.info/item/4218

Sharda Sekaran. (2015). Drug Use Is Not a Crime in This Country. Drug Policy Alliance Headquarters. Retrieved November 15, 2020, from https://www.drugpolicy.org/blog/drug-use-not-crime-country

State of Rhode Island General Laws. (2020). Title 21 Food and Drug. Chapter 21-28 Uniform Controlled Substances Act, Rhode Island. Retrieved December 5, 2020, from http://webserver.rilin.state.ri.us/Statutes/TITLE21/21-28/INDEX.HTM

United Nation. (1961). Single Convention on Narcotic Drugs. Vienna: United Nation.

United Nation Office on Drug and Crime. (2009). From coercion to cohesion: Treating drug dependence through health care,not punishment. Vienna: United Nation.