ผลของโปรแกรมการเตรียมความพร้อมในการฝึกปฏิบัติการพยาบาลต่อความเครียดและการรับรู้สมรรถนะการปฏิบัติการพยาบาลรายวิชาปฏิบัติการพยาบาลเด็กและวัยรุ่น ของนักศึกษาพยาบาล
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยฉบับนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาการรับรู้สมรรถนะการปฏิบัติการพยาบาลรายวิชาปฏิบัติการพยาบาลเด็กและวัยรุ่นของนักศึกษาพยาบาล 2) เพื่อเปรียบเทียบความเครียดในการฝึกปฏิบัติการพยาบาลก่อนและหลังโปรแกรมการเตรียมความพร้อมเป็นการวิจัยกึ่งทดลองแบบกลุ่มเดียว มีกลุ่มตัวอย่างคือนักศึกษาพยาบาลศาสตรบัณฑิตชั้นปีที่ 3 วิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม มีจำนวน 134 ราย ของปีการศึกษา 2562 กลุ่มตัวอย่างทั้งหมดได้รับการเตรียมความพร้อมในการฝึกปฏิบัติการพยาบาล ซึ่งประกอบไปด้วยกิจกรรม 4 กิจกรรม โดยใช้เวลา 1 สัปดาห์ รวม 30 ชั่วโมง เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลประกอบด้วย แบบสอบถามความเครียดของนักศึกษาพยาบาลในการฝึกปฏิบัติการพยาบาลบนหอผู้ป่วย และแบบสอบถามการรับรู้สมรรถนะการปฏิบัติพยาบาลสำหรับนักศึกษาพยาบาลซึ่งเครื่องมือทั้งหมดผ่านการตรวจสอบความตรงของเนื้อหาเท่ากับ 1.00 และ 0.90 ตามลำดับ และมีค่าความเที่ยงด้วยการหาค่าสัมประสิทธิ์แอลฟ่าของคอนบาค ได้เท่ากับ 0.83 และ 0.74 ตามลำดับ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบ t - test ผลการวิจัยพบว่า 1) นักศึกษามีคะแนนเฉลี่ยความเครียดในการฝึกภาคปฏิบัติบนหอผู้ป่วยหลังการเตรียมความพร้อม ต่ำกว่าคะแนนเฉลี่ยความเครียดในการฝึกภาคปฏิบัติบนหอผู้ป่วยก่อนการเตรียมความพร้อมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .001 2) นักศึกษามีการรับรู้สมรรถนะการปฏิบัติพยาบาลเด็กและวัยรุ่นอยู่ระดับปานกลาง ( = 69.72, S.D. = 8.31) ดังนั้นการเตรียมความพร้อมการฝึกปฏิบัติงาน อาจารย์ควรจัดกิจกรรมให้นักศึกษาได้ทบทวนองค์ความรู้ และฝึกทักษะการพยาบาลที่สำคัญเพื่อช่วยลดความเครียด และเพื่อให้เกิดความมั่นใจในการฝึกปฏิบัติการพยาบาล
Article Details
เอกสารอ้างอิง
นพรัตน์ จำปาเทศ และคณะ. (2558). ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยด้านนักศึกษาและด้านการจัดการเรียนการสอนกับความสุขในการเรียนรู้รายวิชาปฏิบัติการพยาบาลพื้นฐานของนักศึกษาพยาบาล คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ. วารสาร มฉก.วิชาการ, 19(37), 1-14.
นิภา รุจนันตกุล และจงกล พุฒิกุล. (2554). การประเมินตัดสินความเครียดในการฝึกปฏิบัติ วิชาปฏิบัติหลักการและเทคนิคการพยาบาล ของนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ ชั้นปีที่ 2 วิทยาลัยพยาบาลพระจอมเกล้าจังหวัดเพชรบุรี. จังหวัดเพชรบุรี: วิทยาลัยพยาบาลพระจอมเกล้าเพชรบุรี.
มณฑา ลิ้มทองกุล และสุภาพ อารีเอื้อ. (2552). แหล่งความเครียด และผลลัพธ์การเผชิญกับความเครียดของนักศึกษาพยาบาล. รามาธิบดีพยาบาลสาร, 15(2), 192-205.
มารุต พัฒนพล. (2550). การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยบางประการกับความสุขในการเรียนรู้ของผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในจังหวัดสุพรรณบุรี. ใน วิทยานิพนธ์ศิลปะ ศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการวิจัยและพัฒนา. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
ยุพเรศ พญาพรหม. (2562). การพัฒนารูปแบบกิจกรรมส่งเสริมการรับรู้สมรรถนะแห่งตนของนักศึกษาพยาบาลในการให้ความรู้เพื่อเสริมสร้างสุขภาพแก่ผู้สูงอายุในชุมชน. วารสารครุศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 47(4), 386-406.
เยาวเรศ ประภาษานนท์ และคณะ. (2559). การรับรู้สมรรถนะปฏิบัติการพยาบาลครอบครัวและชุมชนของนักศึกษาพยาบาลวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีสรรพสิทธิประสงค์. วารสารพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข, 26(2), 23-33.
ศุภรัตน์ แจ่มแจ้ง และคณะ. (2561). ผลการเตรียมความพร้อมในการฝึกปฏิบัติการพยาบาลบนหอผู้ป่วยอย่างมีแบบแผนสำหรับนักศึกษาพยาบาลศาตรบัณฑิตชั้นปีที่ 2 วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ราชบุรี. วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี, 20(3), 147-163.
สภาการพยาบาล. (2556). สมรรถนะผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล และการผดุงครรภ์ (Competencies of Registeres Nurses). (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพมหานคร: ศิริยอดการพิมพ์.
Burns, N. & Grove, S. (2009). The practice of nursing research: Appraisal, synthesis ,and generation of evidence (6th ed.). St. Louis: W. B. Saunders.
Kaplagawanni, N. C. & Useh, U. (2013). Analysis of nursing students learning experiences in clinical practice. literature review. Studies on Ethno - Medicine, 7(3), 181-185.