ทักษะการคิดวิเคราะห์คลื่นไฟฟ้าหัวใจด้วยวิธีการนิรนัย: การจัดการเรียนรู้จากภาคทฤษฎีสู่การฝึกปฏิบัติการพยาบาล
Main Article Content
บทคัดย่อ
ทักษะการคิดวิเคราะห์ด้วยวิธีการนิรนัย เป็นแนวคิดที่ใช้กระบวนการหรือขั้นตอนในการช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์ สามารถนำมาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับบริบทของการบริการสุขภาพ ในจัดการเรียนรู้ของนักศึกษาพยาบาลภาคทฤษฎี เพื่อให้เกิดความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงลักษณะของคลื่นไฟฟ้าหัวใจแบบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นทั้งในภาวะปกติและภาวะผิดปกติของผู้ป่วยก่อนการฝึกทักษะการปฏิบัติการพยาบาลในโรงพยาบาลฝ่ายกาย โรงพยาบาลฝ่ายจิต และในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพระดับตำบล คลื่นไฟฟ้าหัวใจ (Electrocardiogram) เป็นเครื่องมือสำคัญที่ใช้ในการคัดกรองผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคหัวใจและหลอดเลือด พยาบาลเป็นบุคลากรทางสุขภาพที่ต้องดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา ความรู้ ความเข้าใจในการคิดวิเคราะห์ลักษณะของคลื่นไฟฟ้าหัวใจจะช่วยให้ผู้ป่วยเกิดความปลอดภัย และใช้ในการเฝ้าระวังและติดตามขณะส่งต่อผู้ป่วยระหว่างโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษาในขั้นสูงกว่า และหากมีความผิดปกติเกิดขึ้น จะสามารถให้การช่วยเหลือได้ทันท่วงที แนวทางการจัดการเรียนรู้ทักษะการคิดวิเคราะห์คลื่นไฟฟ้าหัวใจสำหรับนักศึกษาพยาบาลด้วยวิธีการนิรนัยมี 5 ขั้นตอนคือ 1) ผู้สอนถ่ายทอดความรู้ทฤษฎี/หลักการ/กฎ หรือข้อสรุปเกี่ยวกับลักษณะของคลื่นไฟฟ้าหัวใจด้วยวิธีการบรรยาย 2) ผู้สอนให้ผู้เรียนนำความรู้ ความเข้าใจไปใช้ในการคิดวิเคราะห์โดยใช้กระบวนการจำแนกแยกแยะความสำคัญ ความสัมพันธ์ และหลักการของคลื่นไฟฟ้าหัวใจจากตัวอย่างที่หลากหลาย 3) ผู้สอนให้ผู้เรียนได้ฝึกปฏิบัตินำความรู้ ความเข้าใจ ที่เกิดขึ้นไปใช้ในการคิดวิเคราะห์โดยใช้กระบวนการจำแนกแยกแยะความสำคัญ ความสัมพันธ์ และหลักการของคลื่นไฟฟ้าหัวใจในสถานการณ์ใหม่ ๆ 4) ผู้สอนให้ผู้เรียนอภิปรายผลการเรียนรู้ที่เกิดขึ้น 5) ผู้สอนวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียน
Article Details
เอกสารอ้างอิง
จุฑารัตน์ พันธุ. (2556). การพัฒนาการคิดวิเคราะห์โดยกระบวนการคิดวิเคราะห์ 5W1H สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนดอนเมืองทหารอากาศบำรุง ในรายวิชาโลจิสติกส์. ใน รายงานการวิจัย. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
ชญาภา น่าบัณฑิต. (2556). รูปแบบการพัฒนาครูด้านกระบวนการสอนคิดอย่างมีวิจารณญาณโรงเรียนขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต 1. ใน ดุษฎีนิพนธ์ครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารจัดการการศึกษา. มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.
ชัยวัฒน์ สุทธิรัตน์. (2554). 80 นวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ. (พิมพ์ครั้งที่ 4). กรุงเทพมหานคร: แดแน็กซ์ อินเตอร์คอร์ปอเรชั่น.
ทิศนา แขมมณี. (2561). ศาสตร์การสอน องค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์แห่งจุฬางกรณ์มหาวิทยาลัย.
ธารทิพย์ พจน์สุภาพ. (2559). การจัดการเรียนการสอนแบบการปฏิบัติงานกลุ่มหรือแบบทีม : สภาพปัญหาระดับการมีส่วนร่วม และผลสัมฤทธิ์ของนักศึกษา. วารสารพัฒนาการเรียนการสอน มหาวิทยาลัยรังสิต, 10(1), 36-46.
ประพันธ์ศิริ สุเสารัจ. (2556). การพัฒนากระบวนการคิด. (พิมพ์ครั้งที่ 8). กรุงเทพมหานคร: 9119 เทคนิคพริ้นติ้ง.
ราชบัณฑิตยสถาน. (2556). พจนานุกรมฉบับราชบัญฑิตยสถาน พ.ศ. 2554. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพมหานคร: พิมพ์ลักษณ์.
ลัดดา เหลืองรัตนมาศ และวรพนิต ศุกระแพทย์. (2559). การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนที่เน้นทักษะกระบวนการเพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักศึกษาพยาบาลวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ชลบุรี. วารสารวิจัยทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ, 10(2), 127-139.
วิจารณ์ พานิช. (2555). วิถสีร้างการเรียนรู้เพื่อศิษย์ในศตวรรษที่ 21. กรุงเทพมหานคร: บริษัท ตถาตา พับลิเคชั่น จำกัด.
สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ. (2559). คู่มือบริหารจัดการเวลาเรียน “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” ปีการศึกษา 2559. กรุงเทพมหานคร: สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ. (2560). แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560 - 2579. กรุงเทพมหานคร: บริษัท พริกหวานกราฟฟิค จำกัด.
Bloom, Benjamin S. (1956). Taxonomy of Education Objectives Handbook I: Cognitive Domain. New York: David McKay Company. Inc.
Krathwohl, D. R. et al. (1964). Taxonomy of Educational Objectives, the classification of educational goals–Handbook II. Affective Domain: New York: McKay.