การพัฒนารูปแบบการเสริมสร้างพลังอำนาจในผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักที่ได้รับเคมีบำบัด

Main Article Content

รุ่งพร ภู่สุวรรณ์
นฤมล จันทร์สุข

บทคัดย่อ

          บทความฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพการณ์การดูแลผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักที่ได้รับยาเคมีบำบัด 2) พัฒนารูปแบบการเสริมสร้างพลังอำนาจในผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักที่ได้รับเคมีบำบัด และ 3) ศึกษาประสิทธิผลของรูปแบบการเสริมสร้างพลังอำนาจในผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่และ ทวารหนักที่ได้รับเคมีบำบัด แบ่งการศึกษาออกเป็น 3 ระยะ คือศึกษาสถานการณ์ ดำเนินการพัฒนารูปแบบและศึกษาประสิทธิผลของรูปแบบที่พัฒนาขึ้น กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษาเลือกแบบเจาะจงเป็นแพทย์และพยาบาลประจำหน่วยเคมีบำบัด โรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร จำนวน 10 คน และผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักที่ได้รับยาเคมีบำบัด จำนวน 50 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แนวทางการสนทนากลุ่ม รูปแบบการเสริมสร้างพลังอำนาจและแบบประเมินคุณภาพชีวิต วิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพโดยการวิเคราะห์เนื้อหาและสร้างข้อสรุป ข้อมูลเชิงปริมาณ วิเคราะห์โดยการแจกแจงความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ Pair t-test ผลการวิจัยพบว่า สภาพการณ์ของการดูแลผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักที่ได้รับยาเคมีบำบัด ได้แก่ ไม่มีแผนและกิจกรรมการดูแลที่ชัดเจนในการเสริมพลังอำนาจ และผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตไม่ดี ระยะพัฒนารูปแบบ ได้รูปแบบการเสริมสร้างพลังอำนาจในผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักที่ได้รับเคมีบำบัด คือ โปรแกรมการเสริมสร้างพลังอำนาจ ประกอบด้วยกิจกรรม 4 ขั้นตอน ได้แก่ 1) การค้นพบสภาพการณ์จริง 2) การสะท้อนคิดอย่างมีวิจารณญาณ 3) การตัดสินใจเลือกวิธีปฏิบัติกิจกรรมที่เหมาะสม และ 4) การคงไว้ซึ่งการปฏิบัติที่มีประสิทธิภาพ ผลลัพธ์ภายหลังใช้รูปแบบ พบว่า กลุ่มทดลองมีคุณภาพชีวิตดีกว่าก่อนการทดลองและดีกว่ากลุ่มควบคุม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 (p < .01)

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
ภู่สุวรรณ์ ร., & จันทร์สุข น. (2020). การพัฒนารูปแบบการเสริมสร้างพลังอำนาจในผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักที่ได้รับเคมีบำบัด. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์, 7(9), 316–327. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/JMND/article/view/246746
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

จุฬารัตน์ สุริยาทัย. (2547). ผลของการเสริมสร้างพลังอำนาจแบบกลุ่มต่อความสามารถในการดูแลตนเองของผู้ติดเชื้อเอชไอวี. ใน วิทยานิพนธ์พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการพยาบาลผู้ใหญ่. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

เยาวภา พรเวียง และคณะ. (2555). ผลของการเสริมสร้างพลังอำนาจแบบกลุ่มต่อพฤติกรรมการดูแลเท้าและคุณภาพชีวิตในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่มีแผลที่เท้า. วารสารพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข, 22(2), 85-97.

โรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร. (2561). สถิติผู้ป่วย. ชัยนาท: โรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร.

สถาบันมะเร็งแห่งชาติ. (2552). สถิติโรคมะเร็ง. เรียกใช้เมื่อ 22 พฤษภาคม 2561 จาก http://www.nci.go.th

สุวัฒน์ มหัตนิรันดร์กุล และคณะ. (2561). เครื่องชี้วัดคุณภาพชีวิตขององค์การอนามัยโลกชุดย่อฉบับภาษาไทย. เรียกใช้เมื่อ 20 พฤษภาคม 2561 จาก http://www.dmh.go.th /test/whoqol

อุบล จ๋วงพานิช และคณะ. (2558). ศึกษาการใช้แนวปฏิบัติการพยาบาลในการเสริมพลังอำนาจในผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับยาเคมีบำบัด. วารสารการพยาบาลและการดูสุขภาพ, 33(3), 127-135.

Cronbach, L. J. (1990). Essentials of psychological testing. (3rd ed.). NewYork: Harper & Collins.

Evan, S. & Savage, P. (2008). Practical issues in cytotoxic chemotherapy usage. New York: Cambridge University press.

Fraas, M. R. (2011). Enhancing Quality of life for Survivors of Stroke through Phenomenology. Top Stroke Rehabil, 18(1), 40-16.

Gibson, C. H. (1995). The process of empowerment in Mothers of chronically ill Children. Journal of Advanced Nursing, 21(6), 1201-1210.

Vatanasapt, V. et al. (1993). Cancer in Thailand. Lyon Cedex: International Agency for Research on Cancer.