ผลของการใช้แบบฝึกทักษะโฟนิกส์เพื่อพัฒนาการเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2

Main Article Content

วรกานต์ โสคะโน
กนกกาญจน์ กิตติชาติเชาวลิต
พนาน้อย รอดชู

บทคัดย่อ

          บทความฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ สร้างแบบฝึกทักษะโฟนิกส์และเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ด้านการเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษก่อนและหลังใช้แบบฝึกทักษะโฟนิกส์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนโรงเรียนชุมชนวัดท่าสุธาราม เครือข่ายทุ่งตะโก จังหวัดชุมพร จำนวน 20 คน ซึ่งได้มาโดยวิธีการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) โดยใช้หน่วยโรงเรียนในเครือข่ายเป็นหน่วยในการสุ่มทำการทดลองโดยให้นักเรียน เรียนด้วยแบบฝึกทักษะโฟนิกส์ จำนวน 6 ชุด ชุดละ 3 ชั่วโมง รวมทั้งสิ้น 18 ชั่วโมง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แบบฝึกทักษะโฟนิกส์เพื่อพัฒนาการเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษ ประกอบด้วยแบบฝึกทักษะโฟนิกส์ จำนวน 6 ชุด ซึ่งมีค่าความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา 0.95 2) แผนการจัดการเรียนรู้ด้านการเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษ จำนวน 18 แผน ซึ่งมีค่าความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา 0.90 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ด้านการเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษก่อนเรียนและหลังเรียน มีค่าความเชื่อมั่น 0.87 มีค่าอำนาจจำแนก 0.33 และ มีค่าความยากง่าย 0.59 และ 4) เกณฑ์การประเมินผลสัมฤทธิ์ด้านการเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะ ค่าดัชนีความสอดคล้อง ค่าอำนาจจำแนก ค่าความเชื่อมั่น สถิติทดสอบทีในการทดสอบสมมติฐาน ผลการวิจัยพบว่า 1) แบบฝึกทักษะโฟนิกส์เพื่อพัฒนาการเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นมีประสิทธิภาพที่ 84.29/82.50 เป็นไปตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 2) ผลสัมฤทธิ์ด้านการเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษก่อนและหลังใช้แบบฝึกทักษะโฟนิกส์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 หลังเรียนสูงขึ้นกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .05

Article Details

How to Cite
โสคะโน ว., กิตติชาติเชาวลิต ก., & รอดชู พ. (2020). ผลของการใช้แบบฝึกทักษะโฟนิกส์เพื่อพัฒนาการเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์, 7(9), 236–249. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/JMND/article/view/246739
บท
บทความวิจัย

References

กระทรวงศึกษาธิการ. (2553). ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด.

ชัยยงค์ พรหมวงศ์. (2556). การทดสอบประสิทธิภาพสื่อหรือชุดการสอน. วารสารศิลปากรศึกษาศาสตร์วิจัย, 5(1), 7-20.

ณัฐพล สุริยมณฑล. (2561). การสอนแบบโฟนิกส์เพื่อส่งเสริมการออกเสียงและความรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1. วารสารมหาวิทยาลัยนครพนม, 8(2), 117-123.

ดวงใจ ตั้งสง่า. (2555). ชวนลูกเรียนภาษาอังกฤษ ตอน โฟนิกส์คืออะไร ทำไมต้องเรียน. เรียกใช้เมื่อ 15 สิงหาคม 2562 จาก http://taamkru.com/th/โฟนิคส์คืออะไร-ทำไมต้องเรียน/.

ทิศนา แขมมณี. (2551). ศาสตร์การสอนองค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ. (พิมพ์ครั้งที่ 7). กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ประภาพร ถิ่นอ่อง. (2553). การพัฒนาแบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง การแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสอง สาหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. ใน วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิจัยและประเมินผลการศึกษา (วิจัยและพัฒนาการศึกษา). มหาวิทยาลัยนเรศวร.

ปัญจลักษณ์ ถวาย. (2556). การศึกษาผลสัมฤทธิ์และความคงทนในการจำคำสัพท์ภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฎบ้านสมเด็จเจ้าพระยาที่เรียนโดยใช้แบบฝึกกิจกรรมเพิ่มพูนคำศัพท์ร่วมกับการอ่าน. ใน วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการสอนภาษาอังกฤษในฐานะภาษาต่างประเทศ. มหาวิทยาลัยศิลปากร.

ปิยมาศ กิ่งน้ำฉา. (2559). การใช้วิธีการสอนแบบโฟนิกส์ผสมผสานกลวิธีช่วยจำ เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์และความคงทนในการจดจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. ใน วิทยานิพนธ์ครุศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาการสอนภาษาอังกฤษเพื่อวิชาการและงานอาชีพ. มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี.

ลักษณพันธ์ บำรุงรัตนกุล. (2555). การพัฒนาการสะกดคำและออกเสียงภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ของโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ด้วยวิธีการสอนแบบโฟนิกส์. ใน วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาภาษาอังกฤษเพื่อวิชาชีพ. มหาวิทยาลัยรังสิต.

ศิตา เยี่ยมขันติถาวร. (2557). เปลี่ยนมุมมองใหม่เพื่อพัฒนาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร. วารสารปัญญาภิวัฒน์, 5(พิเศษ), 208-222.

สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน). (2561). รายงานผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. เรียกใช้เมื่อ 14 กรกฎาคม 2562 จาก http//www.niets.or.th.

สุนันทา ปัญญารัตน์. (2554). การพัฒนาการสอนอ่านออกเสียงและเขียนสะกดคำภาษาอังกฤษด้วยวิธีการสอนแบบโฟนิกส์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนลำสนุ่น อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี. ใน วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา. มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร.

อำนวย เลื่อมใส. (2546). การสร้างหนังสือและแบบฝึกทักษะประกอบการเรียนภาษาไทย เรื่องผาน้าอ้อย แบบมุ่งประสบการณ์ภาษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4. ใน วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.

Bock, S. (1993). Developing materials for the Study of Literature. English Teaching Forum, 31(63), 2-4.

Fitzgerald, J.A. & Fitzgerald, P.G. (1967). Fundamental of Reading Instruction. America: The Bruce.

Grant, M. (2014). Longitudinal Study from Reception to Year 2: The Effects of a Systematic Synthetic Phonics Program on Reading, Writing and Spelling Reading Reform Foundation. Retrieved July 12, 2019, from https://www.google.com/urlsa=t&rct=j&q=&esrc=s&source=web&cd=&cad=rja&uact=8&ved=2ahUKEwipiMW16YjrAhUGA3IKHRCsA6oQFjAAegQIBBAB&url=http%3A%2F%2Fwww.rrf.org.uk%2Fpdf%2FGrant%2520Follow-Up%2520Studies%2520-%2520May% 25202014.pdf&usg= AOvVaw2kc Pq0UbREvjJkWJys

Jones, S. A. & Deterding, D. (2007). Phonics and beginning reading: a practical guide for teachers in Southeast Asia. Singapore: McGraw-Hill Education (Asia).

Krashen, S. D. (1987). Principles and Practice in Second Language Acquisition. New York: Prentice Hall.

Lapp, D. & Flood, J. (1992). Teaching reading to language. New York: Macmillan.

NIH/National Institute Of Child Health And Human Development. (2004). Imaging Study Reveals Brain Function Of Poor Readers Can Improve. Retrieved July 12, 2019, from www.sciencedaily.com/releases/ 2004/04 / 040420011157.htm