ปัญญาบำบัด: นวัตกรรมการพัฒนาจิตใจผู้ต้องขังอย่างยั่งยืน

Main Article Content

นงนุช โกมลหิรัณย์
พระสุธีรัตนบัณฑิต .
โกนิฏฐ์ ศรีทอง

บทคัดย่อ

บทความฉบับนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อประเมินผล และศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการทำปัญญาบำบัด ที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรมของผู้ต้องขังที่เข้าร่วมโครงการปัญญาบำบัด ว่ามีความยั่งยืนในการป้องกันการกลับมาทำผิดซ้ำของผู้ต้องขัง ภายหลังการสิ้นสุดโครงการฯ ด้วยวิธีวิจัยแบบผสานวิธี เก็บรวมรวมข้อมูล โดยใช้แบบสอบถาม การสัมภาษณ์เชิงลึก การประชุมกลุ่มย่อย วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณด้วยสถิติ และวิเคราะห์เชิงคุณภาพด้วยวิธีวิเคราะห์เนื้อหาแบบสร้างข้อสรุป ผลการศึกษาวิจัย พบว่า กระบวนการพัฒนาจิตใจผู้ต้องขังในเรือนจำด้วยการทำปัญญาบำบัด ทั้งก่อนและหลังเข้าร่วมโครงการฯ นั้นมีประสิทธิผล อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ซึ่งกระบวนการทำปัญญาบำบัด เป็นกระบวนการที่เน้นแก้ไขฟื้นฟูพื้นฐานทางความคิดของผู้ต้องขัง โดยเริ่มจาก “สติ” ไปสู่ “ปัญญา” เพื่อให้ผู้ต้องขังได้เริ่มรู้จักตัวเองและได้เห็นคุณค่าในตัวเอง จึงเกิดกระบวนการ “คิดใหม่ ทำใหม่” ใน“ชุดความรู้ ความคิดใหม่” เมื่อความคิดเปลี่ยน จิตใจ และพฤติกรรมก็จะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น พร้อมสำหรับการเริ่มต้น “ชีวิตใหม่” ที่ส่งผลต่อพัฒนาการการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้ต้องขังหลังจากที่    เข้าร่วมโครงการปัญญาบำบัดทั้ง 5 ด้าน ประกอบด้วย 1) พัฒนาการด้านศีล 2) พัฒนาการด้านกาย 3) พัฒนาการด้านสังคม 4) พัฒนาการด้านจิตใจ และ 5) พัฒนาการด้านปัญญา ส่งผลให้มีภูมิคุ้มกันทางจิตใจที่จะไม่กระทำความผิดอีก ซึ่งเป็นกระบวนการสร้างความยั่งยืนในการป้องกันการกลับมาทำผิดซ้ำของผู้ต้องขัง ภายหลังการสิ้นสุดโครงการปัญญาบำบัดฯ ข้อเสนอแนะ ควรมีการติดตามประเมินผลผู้ต้องขังที่พ้นโทษออกไปแล้วอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการป้องกันการกลับมากระทำผิดซ้ำอีก

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
โกมลหิรัณย์ น. ., . พ. ., & ศรีทอง โ. . (2020). ปัญญาบำบัด: นวัตกรรมการพัฒนาจิตใจผู้ต้องขังอย่างยั่งยืน. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์, 7(8), 411–426. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/JMND/article/view/246273
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม. (2563). คู่มือการจัดโปรแกรมการแก้ไขฟื้นฟูผู้ต้องขังตามลักษณะแห่งคดีและพฤติการณ์การกระทำผิด. เรียกใช้เมื่อ 27 เมษายน 2563 จาก http://br.correct.go.th/br_wp/?p=26

ธานี วรภัทร์. (2558). การบังคับโทษและวัตถุประสงค์ของการบังคับโทษจำคุก. วารสาร กำลังใจ, 3(4), 57-62.

นัทธี จิตสว่าง. (2545). หลักทัณฑวิทยา: หลักการวิเคราะห์ระบบงานราชทัณฑ์. (พิมพ์ ครั้งที่ 3). กรุงเทพมหานคร: กรมราชทัณฑ์.

ผู้ให้ข้อมูลสำคัญคนที่ 1. (10 กรกฎาคม 2562). ปัญญาบำบัด: นวัตกรรมการพัฒนาจิตใจผู้ต้องขังอย่างยั่งยืน. (นงนุช โกมลหิรัณย์, ผู้สัมภาษณ์)

ผู้ให้ข้อมูลสำคัญคนที่ 2. (10 กรกฎาคม 2562). ปัญญาบำบัด: นวัตกรรมการพัฒนาจิตใจผู้ต้องขังอย่างยั่งยืน. (นงนุช โกมลหิรัณย์, ผู้สัมภาษณ์)

ผู้ให้ข้อมูลสำคัญคนที่ 3. (10 กรกฎาคม 2562). ปัญญาบำบัด: นวัตกรรมการพัฒนาจิตใจผู้ต้องขังอย่างยั่งยืน. (นงนุช โกมลหิรัณย์, ผู้สัมภาษณ์)

ผู้ให้ข้อมูลสำคัญคนที่ 4. (10 กรกฎาคม 2562). ปัญญาบำบัด: นวัตกรรมการพัฒนาจิตใจผู้ต้องขังอย่างยั่งยืน. (นงนุช โกมลหิรัณย์, ผู้สัมภาษณ์)

ผู้ให้ข้อมูลสำคัญคนที่ 5. (10 กรกฎาคม 2562). ปัญญาบำบัด: นวัตกรรมการพัฒนาจิตใจผู้ต้องขังอย่างยั่งยืน. (นงนุช โกมลหิรัณย์, ผู้สัมภาษณ์)

ผู้ให้ข้อมูลสำคัญคนที่ 6. (10 กรกฎาคม 2562). ปัญญาบำบัด: นวัตกรรมการพัฒนาจิตใจผู้ต้องขังอย่างยั่งยืน. (นงนุช โกมลหิรัณย์, ผู้สัมภาษณ์)

ผู้ให้ข้อมูลสำคัญคนที่ 7. (10 กรกฎาคม 2562). ปัญญาบำบัด: นวัตกรรมการพัฒนาจิตใจผู้ต้องขังอย่างยั่งยืน. (นงนุช โกมลหิรัณย์, ผู้สัมภาษณ์)

ผู้ให้ข้อมูลสำคัญคนที่ 8. (10 กรกฎาคม 2562). ปัญญาบำบัด: นวัตกรรมการพัฒนาจิตใจผู้ต้องขังอย่างยั่งยืน. (นงนุช โกมลหิรัณย์, ผู้สัมภาษณ์)

พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ (อนิลมาน ธมฺมสากิโย.). (2561). จิตตมนต์ปัญญาบำบัด. สำนักกิจการในพระราชดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชราชธิดา. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานกระทรวงยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม.

ศูนย์ศึกษาเรือนจำนานาชาติ (International Centre for Prison Studies - ICPS). (2561). รายงานจำนวนข้อมูลผู้ต้องขัง. เรียกใช้เมื่อ 21 เมษายน 2563 จาก http://www.prisonstudies.org/country/thailand

Bringewat Peter. (2008). Grundbegrifte des Strafrechts Grundlagen-Allgemeine Verbrechenslehre Aufbauschemata. Auflage: Baden-baden.