แนวทางการป้องกันการออกกลางคันของนักศึกษากลุ่มเสี่ยง กรณีศึกษา: วิทยาลัยเทคนิคอุตรดิตถ์
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาหาสาเหตุการออกกลางคันของนักศึกษากลุ่มเสี่ยง และหาแนวทางการป้องกันการออกกลางคันของนักศึกษากลุ่มเสี่ยง วิทยาลัยเทคนิคอุตรดิตถ์ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) ผู้บริหารสถานศึกษา หัวหน้างานแนะแนวการศึกษา ครูที่ปรึกษา ครูผู้สอน ผู้ปกครองนักศึกษา และนักศึกษากลุ่มเสี่ยง จำนวน 272 คน เลือกใช้วิธีการสุ่มอย่างง่าย ใช้วิธีจับสลาก 2) ผู้บริหารสถานศึกษา ครูที่ปรึกษา ครูผู้สอน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา และนักจิตวิทยา จำนวน 13 คน ใช้วิธีการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย แบบสอบถาม และแบบสัมภาษณ์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า: สาเหตุการออกกลางคันของนักศึกษากลุ่มเสี่ยง ทั้ง 6 ด้าน มีดังนี้ 1) ขาดการเข้าร่วมกิจกรรมและขาดเรียนมากจนหมดสิทธิ์สอบ 2) รายได้ของครอบครัวไม่เพียงพอ/ต้องช่วยผู้ปกครองประกอบอาชีพ 3) กฎ ระเบียบข้อบังคับของวิทยาลัยเคร่งครัดเกินไป 4) การติดตาม ช่วยเหลือให้คำปรึกษา และการออกเยี่ยมบ้านนักศึกษามีน้อยไป 5) มีแหล่งมั่วสุม แหล่งอบายมุขอยู่ใกล้สถานศึกษาทำให้ง่ายต่อการกระทำผิด 6) สาขาวิชามีเครื่องมือเครื่องจักรสำหรับฝึกทักษะช่างอุตสาหกรรม และสื่อการเรียนการสอนไม่เพียงพอ และผลการศึกษาแนวทางการป้องกันการออกกลางคันของนักศึกษากลุ่มเสี่ยง ทั้ง 6 ด้าน มีดังนี้ 1) ควรเน้นนโยบายให้ครูที่ปรึกษาดูแลนักศึกษา และควรมีมาตรการการวิธีการแก้กิจกรรมที่ชัดเจน 2) ควรจัดหาทุนการศึกษาให้กับนักศึกษา 3) ควรสร้างความเข้าใจระหว่างผู้เรียน ผู้ปกครอง และชุมชนให้เห็นถึงความสำคัญของกฎระเบียบและข้อบังคับของวิทยาลัย 4) ควรติดตาม ดูแล และให้คำปรึกษาแก่ผู้เรียนโดยใช้เหตุผลในการแก้ปัญหา และติดต่อประสานผู้ปกครองทันทีด้วยระบบ line หรือ facebook 5) จัดสร้างกลุ่มเครือข่ายผู้ปกครองให้ช่วยเหลือร่วมกับสถานศึกษา 6) ส่งเสริมสนับสนุนครูผู้สอนจัดสร้างนวัตกรรม หรือสื่อการเรียนการสอน สำหรับใช้ในรายวิชาที่สอน
Article Details
เอกสารอ้างอิง
โกมล จันทวงษ์. (2558). ปัจจัยสาเหตุการออกกลางคันของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ศูนย์สระแก้ว. วารสารวไลยอลงกรณ์ปริทัศน์, 5(1), 127-141.
งานทะเบียน วิทยาลัยเทคนิคอุตรดิตถ์. (2561). รายงานสรุปผลข้อมูลการออกกลางคันนักเรียนนักศึกษาประจำปีงบประมาณ 2559 – 2561.
บัลลังก์ โรหิตเสถียร. (2559). มอบแนวทางบริหารราชการ ศธ.ในภูมิภาค แก่ประธานกรรมการอาชีวศึกษาภาค-จังหวัด ทั่วประเทศ (ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี 146/2559). เรียกใช้เมื่อ 24 สิงหาคม 2562 จาก https://www.moe.go.th/websm/2016/mar/146.html
บุญโชติ ชำนาญ และอุไรรัก ดรุณวรรณ. (2554). การศึกษาปัญหาและสาเหตุการออกกลางคันของนักเรียน นักศึกษา วิทยาลัยเทคนิคนครศรีธรรมราช. เรียกใช้เมื่อ 24 สิงหาคม 2562 จาก http://www.tnk.ac.th/data%20file/Research/To%20study% 20the%20problems%20and%20causes%20of%20dropping%20out%20of%20school.pdf
สมใจ เพียรประสิทธิ์ และอัคครัตน์ พูลกระจ่าง. (2554). การศึกษาความคิดเห็นในการออกกลางคันของนักศึกษาหลักสูตรวิชาชีพระยะสั้นโรงเรียนฝึกอาชีพ กรุงเทพมหานคร. วารสารวิชาการและวิจัย มทร.พระนคร, 5(2), 20-32.
สมภาร มีอุเทน และคณะ. (2560). การศึกษาสาเหตุและแนวทางการบริหารจัดการการออกกลางคันของนักเรียนนักศึกษา วิทยาลัยการอาชีพหนองกุงศรี จังหวัดกาฬสินธุ์. วารสารการวัดผลการศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 23(1), 238-249.
สำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์. (2554). สถิติการออกกลางคันของนักเรียน ปีการศึกษา 2552. กรุงเทพมหานคร: ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์.
สำนักมาตรฐานการอาชีวศึกษาและวิชาชีพ. (2552). ยุทธ์ศาสตร์การบริหารจัดการอาชีวศึกษา. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษากระทรวงศึกษาธิการ.
สุดารัตน์ พิมลรัตนกานต์. (2558). การศึกษาสาเหตุการลาออกกลางคันของนักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพและหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง กรณีศึกษา: วิทยาลัยเทคโนโลยีวิบูลย์บริหารธุรกิจรามอินทรา. วารสารวิทยาลัยโลจิสติกส์และซัพพลายเชน, 1(1), 67-79.
สุทธนู ศรีไสย์. (2551). สถิติประยุกต์สําหรับงานวิจัยทางสังคมศาสตร์. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
อัญชิสา อยู่ยืนยง. (2550). ปัจจัยที่มีอิทธิพลส่งผลให้เยาวชนตัดสินใจออกจากโรงเรียนกลางคันระดับมัธยมศึกษา กรณีศึกษา: ตำบลบ้านบัว อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์. ใน วิทยานิพนธ์เศรษฐศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ธุรกิจ. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
Anderson,K.R. (2003). An analysis of factors that contribute to school dropoutsgrades eight through twelve. In Doctor of Philosophy Dissertation. Union Institute and University.
Likert, R. (1967). The Method of Constructing and Attitude Scale. In Reading in Fishbeic. M (Ed.), Attitude Theory and Measurement. New York: Wiley & Son.