การศึกษาวิเคราะห์ภาวะผู้นำ: กรณีศึกษา สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) ในการบริหารกิจการคณะสงฆ์ไทย

Main Article Content

พระครูปลัดสุวัฒนสิทธิคุณ (จิมก่าย) .

บทคัดย่อ

          วัตถุประสงค์ของการวิจัยครั้งนี้ 1) เพื่อศึกษาภาวะผู้นำตามแนวคิดของทฤษฎีตะวันตก และภาวะผู้นำตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาที่ปรากฏในพระไตรปิฎก 2) เพื่อศึกษาภาวะผู้นำของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) ในการบริหารกิจการคณะสงฆ์ไทย และ 3) เพื่อเสนอแนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำของคณะสงฆ์ตามคุณลักษณะภาวะผู้นำของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) ในการบริหารกิจการคณะสงฆ์ไทย การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ (qualitative research) ศึกษาจากการสัมภาษณ์เชิงลึก (in – depth Interview) ประชากรที่ใช้ในการวิจัย คือ พระสังฆาธิการระดับผู้ปกครองชั้นต่าง ๆ จำนวน 10 รูป/คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง (structured interview form) วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้เทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหาประกอบบริบท (content analysis technique) ตามโครงสร้างแบบสัมภาษณ์ ประกอบกับการสังเกตของผู้วิจัยแล้วนำเสนอในรูปแบบพรรณนา


          ผลจากการศึกษาพบว่า: 1) ภาวะผู้นำตามแนวคิดของทฤษฎีตะวันตก และภาวะผู้นำตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาที่ปรากฏในพระไตรปิฎก พบว่า ภาวะผู้นำตามแนวคิดของทฤษฎีตะวันตกเป็นพฤติกรรมคุณลักษณะ ความสามารถที่มีอิทธิพลต่อผู้อื่น ที่สามารถชักนำกระตุ้นให้คนอื่น หรือกลุ่มอื่นมีความเต็มใจปฏิบัติตามความประสงค์ของผู้นำได้สำเร็จ ส่วนภาวะผู้นำตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาที่ปรากฏในพระไตรปิฎก คือ บุคคลที่มีคุณลักษณะด้านจักขุมา คือ เป็นผู้มีวิสัยทัศน์ ด้านวิธุโร คือ เป็นผู้ชำนาญในงาน และด้านนิสสยสัมปันโน คือ เป็นผู้ที่มีมนุษย์สัมพันธ์ดี 2) ภาวะผู้นำของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) ในการบริหารกิจการคณะสงฆ์ไทย พบว่า สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) มีคุณสมบัติของภาวะผู้นำที่จำแนกได้ 9 ประการ คือ 2.1) การมีวิสัยทัศน์     2.2) การยิ้มแย้ม และการกล่าวทักทาย 2.3) ความอดทน 2.4) การทำงานรวดเร็ว การตัดสินใจเร็ว 2.5) การมีมาตรฐานในงานที่ทำสูง 2.6) ความกตัญญูรู้คุณ 2.7) ความอ่อนน้อมถ่อมตน 2.8) ความจำเป็นเลิศ และ 2.9) ความกล้าหาญ 3) แนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำของคณะสงฆ์ตามคุณลักษณะภาวะผู้นำของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) ในการบริหารกิจการคณะสงฆ์ไทย สามารถนำไปปรับใช้ พัฒนา ตามแนวทางต่อไปนี้ 3.1) ด้านการปกครอง คือ ควรเป็นไปในรูปแบบของการสร้างวิสัยทัศน์ให้กว้างไกล โดยไม่ยึดโยงอำนาจไว้ที่ตัวบุคคลเพียงคนเดียว แต่ให้มีการกระจายอำนาจเพื่อให้เกิดความทั่วถึงในการกำกับดูแล 3.2) ด้านการศาสนศึกษา คือ การให้ความสำคัญสนับสนุนให้พระภิกษุสามเณรที่อยู่อาศัยในสังกัด ได้รับการศึกษาปริยัติธรรมและการศึกษาอื่น ๆ อันควรแก่สมณะตามที่มหาเถรสมาคมกำหนดไว้ 3.3) ด้านการศึกษาสงเคราะห์ คือการส่งเสริมให้พระสงฆ์หรือเจ้าอาวาสมีการจัดหาทุนเพื่อสนับสนุนการศึกษา 3.4) ด้านการเผยแผ่ คือ การพัฒนาศักยภาพของบุคลากรที่ทำหน้าที่ในด้านการเผยแผ่ และควรดำเนินการเผยแผ่ตามประเพณีคณะสงฆ์และประเพณีไทยด้วยความร่วมมือของฝ่ายพระสงฆ์ ฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายประชาชน 3.5) ด้านสาธารณูปการ คือ ควรส่งเสริมให้เจ้าอาวาสอนุรักษ์โบราณสถาน และพัฒนาพื้นที่โดยรอบให้สะอาด วัดต้องเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาชุมชน เพื่อให้วัดมีบทบาทต่อชุมชนหรือสังคมที่วัดตั้งอยู่ในการที่จะทำให้ชุมชนหรือสังคมใช้วัดเป็นฐานรองรับการเผยแผ่หลักธรรมคำสอนในทางพระพุทธศาสนา 3.6) ด้านการสาธารณสงเคราะห์ คือ ควรกำหนดนโยบายการส่งเสริมสาธารณะประโยชน์ เพื่อสังเคราะห์ประชาชนและพระภิกษุสามเณรที่ได้รับความเดือดร้อน และคณะสงฆ์ต้องเข้าไปช่วยเหลือเต็มกำลังความสามารถ

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
. พ. (จิมก่าย). (2020). การศึกษาวิเคราะห์ภาวะผู้นำ: กรณีศึกษา สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) ในการบริหารกิจการคณะสงฆ์ไทย. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์, 7(4), 201–218. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/JMND/article/view/242474
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

แสวง อุดมศรี. (2538). การปกครองคณะสงฆ์ไทย. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

กวี วงศ์พุฒ. (2545). ภาวะผู้นำ. (พิมพ์ครั้งที่ 4). กรุงเทพมหานคร: ศูนย์ส่งเสริมวิชาชีพ การบัญชี.

กิติ ตยัคคานนท์. (2543). เทคนิคการสร้างภาวะผู้นำ. (พิมพ์ครั้งที่ 10). กรุงเทพมหานคร: เปลวอักษร.

นพรัตน์ พัฒนธัญญา. (2551). การศึกษาวิเคราะห์การพัฒนาบุคคลเพื่อความเป็นผู้นำตามหลักพระพุทธศาสนา. ใน วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์. มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

บุญศรี พานะจิตต์. (2545). ความสำเร็จในการปฏิบัติภารกิจของวัด: ศึกษาเฉพาะกรณี วัดสวนแก้ว อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ.

พรทิพย์ อัยยิมาพันธ์. (2547). Leadership for Organizational Effectiveness. วารสาร การบริหารคน, 3(24), 65-68.

พระเทพปริยัติสุธี (วรวิทย์ คงฺคปญฺโญ). (2540). เอกสารประกอบคำบรรยาย เรื่อง การคณะสงฆ์และการพระศาสนา. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

พระเมธีธรรมาภรณ์ (ประยูร ธมฺมจิตฺโต). (2538). จุดเปลี่ยนแห่งชีวิต (มองสังคมไทย). กรุงเทพมหานคร: ธรรมสภา.

พระถนัด วฑฺฒโน (บุตรสวัสดิ์). (2551). การวิเคราะห์คุณสมบัติของผู้นําตามหลัก สัปปุริสธรรม 7. ใน วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขารัฐประศาสนศาสตร์. มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

พระธรรมปิฎก (ป.อ.ปยุตโต). (2542). วินัยเรื่องใหญ่กว่าที่คิด. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

พระบัณฑิต ญาณธีโร (สุธีระตฤษณา). (2552). ภาวะผู้นำของพระธรรมโกศาจารย์ (ประยูร ธมฺมจิตฺโต) ในการบริหารกิจการคณะสงฆ์. ใน วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์. มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

พระมหาธรรมรัต อริยธัมโม. (2543). การศึกษาวิเคราะห์หลักรัฐศาสตร์ที่มีในพระไตรปิฎก. กรุงเทพมหานคร: ห้างหุ้นส่วนกำจัดโรงพิมพ์สุรวัฒน์.

พระมหาวินัย ปุญฺญาโณ. (2542). พระพุทธศาสนากับการเปลี่ยนแปลงในอดีตและปัจจุบัน. พุทธจักร, 53(5), 40-47.

พระมหาสุริยา ฐิตเมธี (รักษาเมือง). (2552). ภาวะผู้นำในการบริหารกิจการคณะสงฆ์: ศึกษากรณีเฉพาะพระราชนันทมุนี (สำรวย อาภากโร). ใน วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์. มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

พระราชวรมุนี (ป.อ.ปยุตโต). (2529). สถาบันสงฆ์กับสังคมไทย. กรุงเทพมหานคร: จรูญการพิมพ์.

มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. (2535). พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

สง่า หล่อสำราญ. (2541). ตำนานพุทธสาวก. กรุงเทพมหานคร: อักษรสยามการพิมพ์.

สุพานี สฤษฎ์วานิช. (2549). พฤติกรรมองค์การสมัยใหม่: แนวคิดและทฤษฎี. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

สุวิน สุขสมกิจ. (2523). พุทธปรัชญากับการสร้างเสริมภาวะผู้นํา: กรณีศึกษากํานันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดกาญจนบุรี. ใน วิทยานิพนธ์รัฐศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการปกครอง. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.