การศึกษาวิเคราะห์การใช้หลักสาราณียธรรมในการอยู่ร่วมกันอย่างสันติของชุมชนเทศบาลเมืองปาดังเบซาร์ จังหวัดสงขลา
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้ ต้องการนำเสนอผลการวิจัยเพื่อตอบวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อศึกษาสภาพทั่วไปของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติของชุมชนเทศบาลเมืองปาดังเบซาร์ จังหวัดสงขลา 2) เพื่อศึกษาหลักสาราณียธรรมที่ปรากฏในคัมภีร์พุทธศาสนาเถรวาท และ 3) เพื่อศึกษาแนวทางการใช้หลักสาราณียธรรมในการอยู่ร่วมกันอย่างสันติของชุมชนเทศบาลเมืองปาดังเบซาร์ จังหวัดสงขลา ดำเนินการวิจัยโดยใช้วิธีวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) โดยการสัมภาษณ์เชิงลึก (In – Depth – Interview) และการสนทนากลุ่ม
ผลการวิจัยพบว่า: 1) ชุมชนเทศบาลเมืองปาดังเบซาร์ ก่อตั้งขึ้นโดยคนไทยเชื้อสายจีน ทำการค้าเมืองชายแดน ผลจากการเปิดเส้นทางรถไฟระหว่างประเทศไทยกับสหพันธ์รัฐมาลายูตอนเหนือ ทำให้เศรษฐกิจชุมชนเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว เกิดการย้ายถิ่นฐานในการประกอบอาชีพอย่างหลากหลาย นับแต่นั้นมามีบุคคลภายนอกเข้ามาร่วมอยู่อาศัยกับชุมชนดั้งเดิม ระยะต่อมาจึงเริ่มปรากฏฉนวนปัญหาของการอยู่ร่วมกันภายในชุมชน ความขัดแย้งทางมิติของความคิดของคนในชุมชนดังกล่าว ดังนั้นชุมชนจึงมีฉันทามติร่วมกัน เพื่อสรรหาผู้นำที่ชุมชนเห็นพ้องต้องกันเกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้นำที่ดีที่สุด เข้ามาเป็นผู้นำให้ผู้ตามยอมรับในคุณสมบัติผู้นำดังกล่าว โดยให้ประเมินว่าชุมชนที่ทุกคนอาศัยอยู่ร่วมกันนั้นเกิดสันติสุข กำหนดให้ใช้หลักสาราณียธรรมมาเป็นองค์เสริม เพื่อให้ชุมชนที่พวกเขาอาศัยเห็นคุณค่า สารัตถะและยังประโยชน์อันสูงยิ่ง ซึ่งมีความเกื้อกูลส่งผลให้ชุมชนมีสันติปรองดองและสมานฉันท์อย่างแท้จริง ส่งต่อให้ชุมชนยั่งยืน มั่นคง ต่อไป 2) สาราณียธรรม คือ หลักธรรมที่เสริมสร้างในการพัฒนาบุคคลของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข ประกอบด้วย 2.1) เมตตากายกรรม 2.2) เมตตาวจีกรรม 2.3) เมตตามโนกรรม 2.4) สาธารณโภคี 2.5) สีลสามัญญตา 2.6) ทิฏฐิสามัญญตา แบ่งออกเป็น 2 หมวด หมวด ที่ 1 สำหรับฝ่ายบรรพชิตถือปฏิบัติ หมวด ที่ 2 สำหรับฝ่ายคฤหัสถ์ถือปฏิบัติ ธรรมทั้ง 2 หมวดมีหัวข้อธรรมประดุจกัน 3) ผลจากการนำแนวทางการประยุกต์ใช้หลักสาราณียธรรมในการอยู่ร่วมกันอย่างสันติได้สร้างคุณค่าและเกิดกัลยาณมิตรต่อกัน ก่อให้เกิดประโยชน์กับชุมชนหลากหลายประการ อาทิ ชุมชนมีภราดรภาพ มิตรภาพ ยกย่องให้เกียรติต่อกัน มีทิฏฐิเสมอเหมือนกัน มีวินัยตนเอง ในเชิงสัมพันธภาพกับผู้อื่นในชุมชน ด้วยสาระคุณค่าความสำคัญและประโยชน์ดังกล่าว ทำให้ชุมชนมีความเข็มแข็ง มั่นคง ก่อให้เกิดความมั่งคั่งด้านคุณธรรม คนในชุมชนมีมนุษยธรรมที่สมบูรณ์เปี่ยมล้นตามหลักหลักสาราณียธรรม ในการปฏิบัติตนเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันตินั่นเอง
Article Details
เอกสารอ้างอิง
ไพรินทร์ เตชะรินทร์. (2524). การบริหารงานพัฒนาชุมชน. กรุงเทพมหานคร: ไทยวัฒนาพานิช.
การรถไฟแห่งประเทศไทย. (2467). พระราชกิจจานุเบกษา เล่ม 41 หน้า 274 (29 ธันวาคม 2467).
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตโต). (2545). สลายความขัดแย้ง ความสำคัญของพระพุทธศาสนาในฐานะศาสนาประจำชาติ. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์สหธรรมิก จำกัด.
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต). (2557). ธรรมนูญชีวิต. กรุงเทพมหานคร: กรมการศาสนา สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ.
ฟื้น ดอกบัว. (2544). ศาสนาเปรียบเทียบ. กรุงเทพมหานคร: โสภณการพิมพ์.
มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. (2535). พระไตรปิฎกฉบับภาษาบาลี ฉบับมหาจุฬาเตปิฏก 2500. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. (2539). พระไตรปิฎกฉบับภาษาบาลี ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.