การส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาทางสะเต็มของนักศึกษาปริญญาตรี โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้สะเต็มศึกษาที่บูรณาการ การสร้างข้อโต้แย้ง (6E+A)

Main Article Content

นิภาพร ช่วยธานี
ธีรพงษ์ แสงประดิษฐ์
พินิจ ขำวงษ์

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้วัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้สะเต็มศึกษาที่บูรณาการการสร้างข้อโต้แย้ง (6E+A) ต่อทักษะการแก้ปัญหาทางสะเต็มของนักศึกษา        และความก้าวหน้าด้านทักษะการแก้ปัญหาทางสะเต็มของนักศึกษาที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้สะเต็มศึกษาที่บูรณาการการสร้างข้อโต้แย้ง (6E+A) กลุ่มที่ศึกษาในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักศึกษาปริญญาตรีชั้นปีที่ 1 - 2 ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดตรัง โดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง คือเป็นนักศึกษาสาขาเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ที่ผ่านการเรียนรายวิชาฟิสิกส์พื้นฐานมาในปีการศึกษา 1/2561 และสมัครเข้าร่วมกิจกรรมเสริมหลักสูตรรายวิชาฟิสิกส์พื้นฐาน ในภาคการศึกษาที่ 3 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 20 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ตามขั้นตอนของรูปแบบการจัดการเรียนรู้สะเต็มศึกษาที่บูรณาการการสร้างข้อโต้แย้ง (6E+A) จำนวน 4 แผน ใช้เวลา 20 ชั่วโมง 2) แบบวัดทักษะการแก้ปัญหาทางสะเต็ม เป็นข้อสอบชนิดคำถามปลายเปิด


       ผลการวิจัยพบว่า


          1) หลังเรียนนักศึกษามีทักษะการแก้ปัญหาทางสะเต็ม โดยภาพรวมในแต่ละตัวชี้วัดสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2) ความก้าวหน้าด้านทักษะการแก้ปัญหาทางสะเต็มของนักศึกษาโดยภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง Normalized Gain <g> เท่ากับ 0.412

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
ช่วยธานี น., แสงประดิษฐ์ ธ., & ขำวงษ์ พ. (2020). การส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาทางสะเต็มของนักศึกษาปริญญาตรี โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้สะเต็มศึกษาที่บูรณาการ การสร้างข้อโต้แย้ง (6E+A). วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์, 6(10), 5179–5192. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/JMND/article/view/227488
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กองบริหารงานวิจัยและประกันคุณภาพการศึกษา. (2559). พิมพ์เขียว Thailand 4.0 โมเดลขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ความมั่งคั่ง มั่นคง และยั่งยืน. เรียกใช้เมื่อ 26 กรกฎาคม 2560 จาก https://www.libarts.up.ac.th/v2/img/Thailand-4.0.pdf

เบญญาภา คงมาลัย และศรเนตร อารีโสภณพิเชฐ. (2558). การพัฒนาสรรถนะการจัดการความรู้ของนิสิตนักศึกษาระดับอุดมศึกษาในศตวรรษที่ 21. วารสารครุศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย., 42(1), 37-47.

ปัจฉา ฉัตราภรณ์ และคณะ. (2551). เวลาเปลี่ยน..คะแนนฟิสิกส์เธอเปลี่ยน..ช่างกระไร ใครหนอใครทำ? (ผลการเรียนฟิสิกส์ระดับมหาวิทยาลัย ชั้นปีที่ 1 ในช่วงการเปลี่ยนแปลงระบบการรับเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย). วารสารฟิสิกส์ไทย, 25(3), 19-24.

พรหทัย ตัณฑ์จิตานนท์ และพีระ จูน้อยสุวรรณ. (2556). รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการศาสตร์ที่เหมาะสมในการพัฒนาบัณฑิตรุ่นใหม่. วารสารวิชาการวิจัย มทร.พระนคร ฉบับพิเศษ การประชุมวิชาการมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ครั้งที่ 5, 1(ฉบับพิเศษ),182-192.

เอกภูมิ จันทรขันตี. (2559). การจัดการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการโต้แย้งในชั้นเรียนวิทยาศาสตร์. วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา, 11(1), 217-232.

Burke B. N. (2014). The ITEEA 6E Learning byDeSIGN™ Model Maximizing Informed Design and Inquiry in the Integrative STEM Classroom. Technology and Engineering Teacher, 73(6): (14-19).

Catherine S. (2012). An investigation of science, technology engineering and mathematics (STEM) focused high schools in the U.S. Journal of STEM education, 73(5), 30-39.

Hake R. R. (1998). Interactive-engagement versus traditional methods: A six-thousand-student survey of mechanics test data for introductory physics courses. American Journal of Physics, 66(1), 64-74.

Kaniawati D.S. & Suryadi.S. (2016). Integration of STEM Education In Learning Cycle 6E To Improve Problem Solving Skills on Direct Current Electricity. International conference on Mathematics Science and Education, 3(1), 106-109.

Kim M. et al. (2012). Argumentation as a Tool to Understand Complexity of Knowledge Integration In Proceeding of the 2nd International STEM in Education Conference Beijing: Beijing Normal University. Retrieved November 6, 2016, from https://stem2012.bnu.edu.cn/data/long%20 paper/stem2012_63.pdf

Maryland State Department of Education Office of STEM Initiatives. (2012). Maryland State STEM Standards of Practice Framework Grades 6-12. Retrieved March 5, 2018, from https://mdk12.msde.maryland.gov/ instruction/academies/MDSTEM_Framework_GradesK-5.pdf

Mathis C. A. et al. (2017). Teachers’ Incorporation of Argumentation to Support Engineering Learning in STEM Integration Curricula. Journal of Pre-College Engineering Education Research, 7(1), 75-89.

Next Generation Science Standards (NGSS). (2013). APPENDIX F – Science and Engineering Practices in the NGSS. Retrieved September 17, 2017, from file:///C:/Users/admin/Downloads/Documents/Appendix%20F%20%20Science%20and%20Engineering%20Practices%20in%20the%20NGSS%20-%20FINAL%20060513.pdf