บุพปัจจัยของยุทธศาสตร์การคุ้มครองผู้บริโภค จากผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ผลิตภายในประเทศไทย
Main Article Content
บทคัดย่อ
งานวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) ระดับความสำคัญของปัจจัยที่ส่งผลต่อยุทธศาสตร์การคุ้มครองผู้บริโภคจากผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ผลิตภายในประเทศไทย 2) ความสัมพันธ์ระหว่างองค์กรคุ้มครองผู้บริโภค การประชาสัมพันธ์ ผู้ประกอบการ และผู้บริโภคที่มีผลต่อยุทธศาสตร์การคุ้มครองผู้บริโภคจากผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ผลิตภายในประเทศไทย กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเชิงปริมาณ คือ ประชากรที่พักอาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานคร มีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป และเคยใช้หรือใช้ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง จำนวน 300 คน โดยใช้วิธีการสุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบกลุ่ม กลุ่มตัวอย่างการวิจัยเชิงคุณภาพ คือ ผู้บริหาร เจ้าหน้าที่หน่วยงานราชการ หน่วยงานภาคเอกชน ผู้ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง จำนวน 7 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูล คือ แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์เชิงลึก สถิติประเภทพหุตัวแปรโดยใช้สมการโครงสร้าง structural equation modeling (SEM) ผลการวิจัยพบว่า ระดับความสำคัญของปัจจัยที่ส่งผลต่อยุทธศาสตร์การคุ้มครองผู้บริโภคจากผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ผลิตภายในประเทศไทย คือ องค์กรคุ้มครองผู้บริโภค การประชาสัมพันธ์ ผู้ประกอบการ และผู้บริโภคซึ่งระดับความคิดของผู้ตอบแบบสอบถามอยู่ในระดับดีมาก 2) แบบจำลองสมการโครงสร้าง พบว่า องค์กรคุ้มครองผู้บริโภค การประชาสัมพันธ์ ผู้ประกอบการ และผู้บริโภค มีอิทธิพลต่อยุทธศาสตร์การคุ้มครองผู้บริโภคจากผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง นอกจากนี้ ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณมีผลสอดคล้องกับวรรณกรรมที่เกี่ยวข้องและข้อมูลเชิงคุณภาพโดยกลุ่มตัวอย่างเห็นว่ายุทธศาสตร์การคุ้มครองผู้บริโภคจากผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง จะต้องเกิดจากความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ในการมีส่วนร่วมกำหนดแนวทางการคุ้มครองผู้บริโภคเพื่อให้สามารถนำไปปฏิบัติได้จริงและเกิดความเป็นธรรมต่อผู้บริโภค
Article Details
เอกสารอ้างอิง
คณะกรรมการองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคภาคประชาชน. (2557). ประวัติความเป็นมาของคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค. เรียกใช้เมื่อ 20 ตุลาคม 2559 จาก https://www.ocpb.go.th/ewt_news.php?nid=7
ตุลาภรณ์ รุจิระยรรยง. (2558). สถานการณ์การโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผิดกฎหมายทางวิทยุท้องถิ่น จังหวัดลพบุรี ในยุคของคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.). Thai Journal of Pharmacy Practice, 7(2), 188-199.
รัตนาพร ฉัตรมงคล. (2561). กฎหมายคุ้มครองการซื้อเครื่องสำอางผ่านสื่อออนไลน์. วารสารกฎหมายสุขภาพและสาธารณสุข, 4(1), 88-97.
ราชกิจจานุเบกษา . (2522). พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 เล่ม 96 ตอนที่ 72 4 พฤษภาคม 2522.
ราชกิจจานุเบกษา. (2541). พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2541 เล่ม 115 ตอนที่ 15 ก 24 มีนาคม 2541.
ราชกิจจานุเบกษา. (2558). พระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ.2558 เล่ม 132 ตอนที่ 86 ก 8 กันยายน 2558.
ราชกิจจานุเบกษา. (2560). รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560.
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค. (2561). ยุทธศาสตร์การคุ้มครองผู้บริโภค ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560– 2579). กรุงเทพมหานคร: สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักนายกรัฐมนตรี.
สำนักงานควบคุมเครื่องสำอางและวัตถุอันตราย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา. (2562). หลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิตเครื่องสำอาง (Good Manufacturing Practice:GMP). เรียกใช้เมื่อ 2 กุมภาพันธ์ 2562 จาก https://e-cosmetic.fda.moph.go.th
สำนักปลัดนายกรัฐมนตรี . (2559). อำนาจหน้าที่. เรียกใช้เมื่อ 20 ตุลาคม 2559 จาก https://www.oic.go.th
Grace, J. B. (2008). Structural equation modeling for observational studies. Journal of Wildlife Management, 72(1), 14-22.
United Nations. (2003). United Nations guidelines for consumer protection. Retrieved February 4, 2017, from www.un.org/esa/sustdev/publications/consumption_en.pdf
Zeithaml,V.A. et. al. (1990). Delivering Quality Service: Balancing Customer Perceptions and Expectations. New York: The Free Press.