การพัฒนารูปแบบการเสริมสร้างการอนุรักษ์พลังงานไฟฟ้า ของโรงเรียนในจังหวัดหนองคาย
Main Article Content
บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัญหาและปัจจัยที่มีผลต่อการอนุรักษ์พลังงานไฟฟ้าของโรงเรียนในจังหวัดหนองคาย 2) เพื่อกำหนดรูปแบบการเสริมสร้างการอนุรักษ์พลังงานไฟฟ้าของโรงเรียนในจังหวัดหนองคาย และ3) เพื่อทดลองและประเมินรูปแบบการเสริมสร้างการอนุรักษ์พลังงานไฟฟ้าของโรงเรียนในจังหวัดหนองคาย แบ่งวิธีดำเนินงานวิจัยออกเป็น 3 ระยะ ให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการวิจัย พบว่า ระยะที่ 1 ศึกษาสภาพปัญหาและปัจจัยที่มีผลต่อการอนุรักษ์พลังงานไฟฟ้าของโรงเรียนในจังหวัดหนองคาย ได้เก็บรวบรวมข้อมูลจากผู้ให้ข้อมูลหลัก จากโรงเรียนที่สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนของพื้นที่สังกัดสำนักงานเขตการศึกษาประถมศึกษาหนองคายเขต 1และ เขต 2 จำนวน 12 โรงเรียน ๆ ละ 1 คน จำนวน 12 คนโดย เลือกแบบเจาะจง ในการเก็บรวบรวมข้อมูลจาก ผู้บริหารของโรงเรียนในจังหวัดหนองคาย จากโรงเรียนในพื้นที่สังกัดสำนักงานเขตการศึกษาประถมศึกษาหนองคายเขตที่ 1-2 จำนวน 289 คน เครื่องมือวิจัย ได้แก่แบบสัมภาษณ์และแบบสอบถามค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ 0.97 วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหา และวิเคราะห์โดยโปรมแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป สถิติที่ใช้ ค่าความถี่และค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน พบว่า ระยะที่ 2 กำหนดรูปแบบการเสริมสร้างการอนุรักษ์พลังงานไฟฟ้าของโรงเรียนในจังหวัดหนองคาย กลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้ทรงคุณวุฒิ ของโรงเรียนที่สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาและสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ในพื้นที่สังกัดสำนักงานเขตการศึกษาประถมศึกษาหนองคายเขต 1 และเขต 2 จำนวน 12 โรงเรียน จำนวน 12 คน โดยเลือกแบบเจาะจง 1 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบประเมินรูปแบบ วิเคราะห์ข้อมูลโดยโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูปทางสังคมศาสตร์โดยเลือกใช้ค่าสถิติ ใช้สถิติ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน พบว่า ระยะที่ 3 การทดลองและประเมินรูปแบบการเสริมสร้างการอนุรักษ์พลังงานไฟฟ้าของโรงเรียนในจังหวัดหนองคาย กลุ่มทดลอง ได้แก่ ผู้บริหารโรงเรียน ครูผู้สอน บุคลากรของโรงเรียน และนักเรียนโรงเรียนบ้านดงคำพี้ จำนวน 30 คน และโรงเรียนสันติรักษ์ จำนวน 30 คน รวม 60 คน สุ่มแบบกลุ่ม เครื่องมือการวิจัย คือ รูปแบบและคู่มือการเสริมสร้างการอนุรักษ์พลังงานไฟฟ้าของโรงเรียนในจังหวัดหนองคาย เก็บรวบรวมข้อมูล โดยการสังเกตพฤติกรรม ทดสอบความรู้ ความเข้าใจและเปรียบค่าไฟฟ้ารายเดือนของโรงเรียนที่เข้าร่วมการทดลองใช้รูปแบบการเสริมสร้างการอนุรักษ์พลังงานไฟฟ้าของโรงเรียนในจังหวัดหนองคาย ก่อนการทดลอง (Pre-test) และหลังการทดลอง (Post-test) วิเคราะห์ข้อมูล โดยโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูปทางสังคมศาสตร์ ใช้สถิต ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและ ทดสอบค่า Paired t-test
ผลการวิจัยพบว่า
- ผลการศึกษาสภาพปัญหาและปัจจัยที่มีผลต่อการอนุรักษ์พลังงานไฟฟ้าของโรงเรียนในจังหวัดหนองคาย พบว่าสภาพปัญหาการอนุรักษ์พลังงานไฟฟ้าของโรงเรียนในจังหวัดหนองคาย มีปัญหา 3 ด้าน 16 ประเด็นปัญหาได้แก่ ด้านที่ 1 พฤติกรรม มี 6 ประเด็น ด้านที่ 2 ความรู้ความ มี 5 ประเด็น และด้านที่ 3 การนำเทคโนโลยีไปประยุกต์ใช้ มี 5 ประเด็น
- รูปแบบการเสริมสร้างการอนุรักษ์พลังงานไฟฟ้าของโรงเรียนในจังหวัดหนองคาย พบว่า . รูปแบบการเสริมสร้างการอนุรักษ์พลังงานไฟฟ้าของโรงเรียนในจังหวัดหนองคาย เป็นรูปแบบเชิงข้อความ ประกอบด้วย 1) หลักการของรูปแบบ 2) วัตถุประสงค์ 3 ข้อ 3) กิจกรรมการพัฒนา 9 กิจกรรม 4) ตัวชี้วัด 5 ตัวชี้วัด และ 5) การประเมินผล 3 วิธีการ
- ผลการทดลองและประเมินรูปแบบการเสริมสร้างการอนุรักษ์พลังงานไฟฟ้าของโรงเรียนในจังหวัดหนองคาย พบว่า ผลการประเมินก่อนการทดลองอยู่ในระดับดี ส่วนหลังการทดลองอยู่ในระดับดีมาก จึงมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ที่ 0.05
Article Details
เอกสารอ้างอิง
จุไรรัตน์ ธิไหล. (2552). พฤติกรรมการประหยัดพลังงานไฟฟ้าในสถานที่ทำงานของพนักงานไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โรงไฟฟ้าราชบุรี. การค้นคว้าอิสระศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาสิ่งแวดล้อมศึกษา: มหาวิทยาลัยศิลปากร.
สุชาดา ไชยสวัสดิ์, นฤมล เฉลยถ้อย และ ชมพูนุท เทพบุตรดี. (2553). การพัฒนาระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมในโรงเรียนโดยใช้แนวคิดโรงเรียนสีเขียว.
สุบรรณ์ พันธ์วิศวาส และ ชัยวัฒน์ ปัญจพงษ์. (2522). ระเบียบวิธีวิจัยเชิงปฏิบัติ. กรุงเทพมหานคร: โอเชี่ยนสโตร์.