การเปรียบเทียบรูปแบบการเรียนแบบร่วมมือเชิงรุกร่วมกับบทเรียนออนไลน์ที่ส่งผลต่อความสามารถในการสร้างสรรค์นวัตกรรมสำหรับนักศึกษาครู

ผู้แต่ง

  • พงษ์นรินทร์ ศาลางาม คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์
  • ขจรศักดิ์ สงวนสัตย์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์
  • นุชจรี บุญเกต คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์

DOI:

https://doi.org/10.14456/jlgisrru.2023.47

คำสำคัญ:

การสร้างสรรค์นวัตกรรม, การเรียนแบบร่วมมือเชิงรุก, บทเรียนออนไลน์

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงทดลอง (Experimental Research) มีวัตถุประสงค์ เพื่อเปรียบเทียบรูปแบบการเรียนแบบร่วมมือเชิงรุกร่วมกับบทเรียนออนไลน์ที่ส่งผลต่อความสามารถในการสร้างสรรค์นวัตกรรมสำหรับนักศึกษาครู การจัดกิจกรรมการเรียนรู้การเปรียบเทียบรูปแบบการเรียนแบบร่วมมือ 2 รูปกลุ่ม คือ กลุ่มร่วมมือช่วยเหลือ และ กลุ่มร่วมมือแข่งขัน  ร่วมกับเทคนิคการเรียนแบบเชิงรุกรวมกับการเรียนแบบออนไลน์เพื่อให้ผู้เรียนได้เกิดความสามารถในการสร้างสรรค์นวัตกรรม กลุ่มตัวอย่างคือ นักศึกษาระดับปริญญาตรี  หลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ สาขาเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษา จำนวน 60 คน ซึ่งได้มาโดยวิธีการเลือกกลุ่มตัวอย่าง ด้วยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive sampling) และแบบสุ่มจับคู่ (Match Pair)เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ บทเรียนออนไลน์แบบร่วมมือที่แตกต่างกันในการเรียนเชิงรุกออนไลน์ แผนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือที่แตกต่างกันในการเรียนเชิงรุกออนไลน์ แบบประเมินความสามารถในการสร้างสรรค์นวัตกรรมสำหรับนักศึกษาครู สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์เปรียบเทียบหาความแตกต่างระหว่างคะแนนหลังเรียนของ 2 กลุ่มที่เป็นอิสระต่อกัน (t-test independent samples) ผลการวิจัยพบว่า นักศึกษาครูที่ใช้รูปแบบการเรียนกลุ่มร่วมมือช่วยเหลือ TAI มีคะแนนเฉลี่ยความสามารถในการสร้างสรรค์นวัตกรรม 71.74  สูงกว่า กลุ่มร่วมมือแข่งขัน TGT มีคะแนนคะแนนเฉลี่ยความสามารถในการสร้างสรรค์นวัตกรรม 65.04 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

Downloads

Download data is not yet available.

References

จงจิต เค้าสิม. (2565). ผลการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิคเรียนรู้ร่วมกัน (Learning Together: LT) ที่มีต่อความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของนักศึกษาระดับปริญญาตรี หลักสูตรศึกษาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการศึกษาปฐมวัยมหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. ขอนแก่น : คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ.

เจนจิรา สีนวล. (2562). การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทักษะการทำงานกลุ่ม และเจตคติต่อวิทยาศาสตร์ เรื่อง ระบบประสาทและอวัยวะรับความรู้สึกของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ระหว่างการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น ร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคเกมกลุ่มแข่งขัน (TGT) กับการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร. 21(4) : 107–120.

ทัศนีย์ ศรีสะอาด. (2558). การเปรียบเทียบผลการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ระหว่างการเรียนด้วยโปรแกรมบทเรียนร่วมกับการเรียนรูปแบบ STAD และการเรียนรูปแบบ TAI. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น. 38(1) : 45-53.

ราชบัณฑิตยสถาน. (2547). พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2547. กรุงเทพฯ : อักษรเจริญทัศน์.

วิชัย วงษ์ใหญ่ และมารุต พัฒผล. (2562). การพัฒนาทักษะสร้างสรรค์นวัตกรรม. กรุงเทพฯ : ศูนย์ผู้นำนวัตกรรมหลักสูตรและการเรียนรู้.

อุดมเดช ทาระหอม. (2564). รูปแบบการจัดการเรียนรู้ออนไลน์ที่สอดคล้องกับนักศึกษาคณะครุศาสตร์ในสถานการณ์โควิด – 19. วารสารครุทรรศน์มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธรนี 1(2) : 17-27.

อัญชลี มัดธนู. (2558). การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเจตคติที่มีต่อการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง การประยุกต์สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว ระหว่างวิธีการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือด้วยเทคนิค TAI กับวิธีการเรียนรู้แบบปกติของชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2. วารสารเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี. 5(1) : 149–158.

Downloads

เผยแพร่แล้ว

18-11-2023

How to Cite

ศาลางาม พ., สงวนสัตย์ ข., & บุญเกต น. (2023). การเปรียบเทียบรูปแบบการเรียนแบบร่วมมือเชิงรุกร่วมกับบทเรียนออนไลน์ที่ส่งผลต่อความสามารถในการสร้างสรรค์นวัตกรรมสำหรับนักศึกษาครู. วารสารการบริหารการปกครองและนวัตกรรมท้องถิ่น, 7(3), 51–64. https://doi.org/10.14456/jlgisrru.2023.47