ความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำเชิงวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษากับแรงจูงใจในการปฏิบัติงานครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาพระนครศรีอยุธยา
DOI:
https://doi.org/10.60027/iarj.2025.286066คำสำคัญ:
ผู้นำเชิงวิชาการ, แรงจูงใจ, ความสัมพันธ์บทคัดย่อ
ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: ภาวะผู้นำเชิงวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษามีบทบาทสำคัญที่ส่งผลต่อแรงจูงใจในการทำงานของครู ผู้บริหารสามารถบริหารจัดการด้านวิชาการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็จะส่งผลให้ครูมีการพัฒนาตนเอง จะช่วยยกระดับคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ การวิจัยมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาภาวะผู้นำเชิงวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา สพม.พระนครศรีอยุธยา 2) ศึกษาแรงจูงใจในการปฏิบัติงานครู สพม.พระนครศรีอยุธยา 3) ศึกษาความสัมพันธ์ของภาวะผู้นำเชิงวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษากับแรงจูงใจในการปฏิบัติงานครู สพม.พระนครศรีอยุธยา
ระเบียบวิธีการวิจัย: กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษาและข้าราชการครู จำนวน 380 คน กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างตามตารางของโคเฮน จากนั้นสุ่มแบบชั้นภูมิและสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ มีค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่าง 0.6 – 0.8 และมีค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามทั้งฉบับเท่ากับ 0.887 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์หาความสัมพันธ์โดยใช้ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน
ผลการวิจัย: พบว่า 1) ภาวะผู้นำเชิงวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษาตามความคิดเห็นของครู โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากสุด (\overline{x}= 4.92) 2) แรงจูงใจในการปฏิบัติงานครู โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากสุด (\overline{x}= 4.92) 3) ภาวะผู้นำเชิงวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษามีความสัมพันธ์กับแรงจูงใจในการปฏิบัติงานครู โดยภาพรวมอยู่ในระดับสูง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
สรุปผล: ผลการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำเชิงวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษากับแรงจูงใจในการปฏิบัติงานครู ได้ 3 ประเด็นดังนี้ 1) ภาวะผู้นำเชิงวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา โดยภาพรวมอยู่ในระดับ มากที่สุด เรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปน้อย ได้แก่ ด้านการบริหารหลักสูตรและการจัดการเรียนการสอน ด้านการสร้างบรรยากาศส่งเสริมการเรียนรู้ ด้านการส่งเสริมการพัฒนาวิชาชีพครู และด้านการกำหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจและเป้าหมาย ตามลำดับ 2) แรงจูงใจในการปฏิบัติงานครู โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปน้อย ได้แก่ ด้านความต้องการความสำเร็จ ด้านความรับผิดชอบ ด้านความต้องการความสัมพันธ์ และด้านความก้าวหน้า ตามลำดับ 3) ความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำเชิงวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษากับแรงจูงใจในการปฏิบัติงานครู มีความสัมพันธ์กันทางบวกอยู่ในระดับสูง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2565). สาระสำคัญแผนปฏิบัติราชการของกระทรวงศึกษาธิการ (ระยะ 5 ปี พ.ศ. 2566-2570 / ประจำปี พ.ศ. 2566). Retrieved 5 August 2024, from: https://moe360.blog/2022/10/07/government-action-plan-moe/
กฤษฎา กุลวงษ์, ชาญวิทย์ หาญรินทร์, ไพฑูรย์ พวงยอด. (2565). ปัจจัยภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา ที่ส่งผลต่อประสิทธิผลการบริหารงานวิชาการในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 1. วารสารรัชต์ภาคย์, มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 17(50), 200-201
ชนิภา สุวรรณพัฒน์, บุญเลิศ ธานีรัตน์. (2565). ความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำของผู้บริหารโรงเรียนตามทัศนะของครูกับแรงจูงใจ ในการปฏิบัติงานของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา นครศรีธรรมราช เขต 2. วารสารวิชาการร้อยแก่นสาร, วิทยาลัยเทคโนโลยีภาคใต้, 7(6), 341-350.
ณัฐธิดา สุระเสนา. (2564). ความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำของผู้บริหารโรงเรียนกับแรงจูงใจ ในการปฏิบัติงานของครูในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษา เขต 21. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร.
ธนพรรธ อนุเวช. (2564). แนวทางการสร้างเสริมแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครูในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษาร้อยเอ็ด. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต,มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
ธัณย์สิตา สุรศิษฐ์ชานล. (2561). ปัจจัยการเสริมสร้างพลังอำนาจครูในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน. วิทยานิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต, มหาวิทยาลัยศิลปากร.
ปณตนนท์ เถียรประภากุล. (2561). ภาวะผู้นำของผู้บริหารสถานศึกษาในยุคการศึกษา 4.0. Veridian E-Journal ฉบับมนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ และศิลปะ, 11(2), 1994-2013.
พุฒินันท์ แสงสิริวัฒน์. (2564). ภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 1. วิทยานิพนธ์ครุศาสตร์ มหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี.
ภัทราลี แน่นอน. (2565). แรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครูโรงเรียนขนาดเล็กสังกัดสำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานีเขต 2.วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยรังสิต
เริงฤทธิ์ คำหมู่. (2565). ภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษาที่ส่งผลต่อประสิทธิผลการบริหารงาน วิชาการในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 3. การค้นคว้าอิสระเสนอบัณฑิตวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยนเรศวร.
วัชรินทร์ ชาคำฤทธิ์. (2564). ภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารโรงเรียนวัดอุดมรังสี(ป.ปีติ วรรณอุปถัมภ์). การค้นคว้าอิสระครุศาสตร์มหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยศิลปากร.
สมศักดิ์ ยางเบือก. (2566). ภาวะผู้นำของผู้บริหารสถานศึกษาที่ส่งผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครูในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษานครพนม เขต 2. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร.
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาพระนครศรีอยุธยา. (2567). ข้อมูลทั่วไป สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาพระนครศรีอยุธยา. Retrieved 4 August 2024, from: https://www.spmay.go.th
สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ. (2565). อนาคตของการเรียนรู้ (Future of Learning). Retrieved 4 August 2024, from: https://ifi.nia.or.th
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ. (2561). แผนการศึกษาแห่งชาติพ.ศ. 2560-2579. Retrieved 4 August 2024, from: https://www.stou.ac.th
อมรรัตน์ ไทรเมือง. (2565). ภาวะผู้นำทางวิชาการกับการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 2. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา.
Cohen, L., Manion, L., & Morrison, K. (2018). Research methods in education (8th ed.). New York:
Likert, R. (1967). The human organization: Its management and value. New York: McGraw- Hill. Routledge.McGraw-Hill
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 Interdisciplinary Academic and Research Journal

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ลิขสิทธิ์ในบทความใดๆ ใน Interdisciplinary Academic and Research Journal ยังคงเป็นของผู้เขียนภายใต้ ภายใต้ Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License การอนุญาตให้ใช้ข้อความ เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ของสิ่งพิมพ์ ผู้ใช้ใดๆ เพื่ออ่าน ดาวน์โหลด คัดลอก แจกจ่าย พิมพ์ ค้นหา หรือลิงก์ไปยังบทความฉบับเต็ม รวบรวมข้อมูลเพื่อจัดทำดัชนี ส่งต่อเป็นข้อมูลไปยังซอฟต์แวร์ หรือใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมายอื่นใด แต่ห้ามนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์หรือด้วยเจตนาที่จะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจใดๆ





