การพัฒนาหลักสูตรการพูดสื่อสารภาษาอังกฤษโดยการใช้กิจกรรมการพูดเพื่อการสื่อสารสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
DOI:
https://doi.org/10.60027/iarj.2025.286035คำสำคัญ:
การพูดสื่อสารภาษาอังกฤษ, กิจกรรมการพูดเพื่อการสื่อสาร, หลักสูตร, การพัฒนาบทคัดย่อ
ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: การพูดเพื่อการสื่อสารมีความสำคัญอย่างมากในชีวิตประจำวันและในทุกๆ ด้านของการทำงานและการเรียนรู้ การส่งเสริมให้นักเรียนได้พูดสื่อสารในสถานการณ์จริงจะช่วยให้สามารถสื่อสารในชีวิตประจำวันได้อย่างมั่นใจและมีประสิทธิภาพ งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อสร้างและตรวจสอบคุณภาพของหลักสูตรการพูดสื่อสารภาษาอังกฤษโดยการใช้กิจกรรมการพูดเพื่อการสื่อสารสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และ (2) เพื่อศึกษาผลการใช้หลักสูตรการพูดสื่อสารภาษาอังกฤษโดยการใช้กิจกรรมการพูดเพื่อการสื่อสารสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ระเบียบวิธีการวิจัย: เป็นการวิจัยเชิงทดลองเบื้องต้น แบบแผนที่ใช้ในการทดลองครั้งนี้ คือแบบกลุ่มเดียว ทดสอบก่อนหลังกลุ่มตัวอย่างได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่เขต 1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567 โรงเรียนทาเหนือวิทยา จำนวน 19 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ หลักสูตร คู่มือการใช้หลักสูตร แบบทดสอบวัดความสามารถในการพูดสื่อสารภาษาอังกฤษ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที
ผลการวิจัย: (1) หลักสูตรการพูดสื่อสารภาษาอังกฤษโดยการใช้กิจกรรมการพูดเพื่อการสื่อสารสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีองค์ประกอบ 6 ประกอบ ได้แก่ 1) ความเป็นมาและความสำคัญของหลักสูตร 2) จุดมุ่งหมายของหลักสูตร 3) โครงสร้างเนื้อหาของหลักสูตร 4) แนวทางการจัดการเรียนรู้ 5) สื่อ / แหล่งเรียนรู้ และ 6) การวัดและการประเมินผล หลักสูตรมีความเหมาะสมในภาพรวมอยู่ ในระดับมากที่สุด คู่มือหลักสูตรมีความเหมาะสมในภาพรวมอยู่ ในระดับมาก (2) นักเรียนที่เรียนด้วยหลักสูตรส่งเสริมความสามารถในการพูดสื่อสารภาษาอังกฤษโดยการใช้กิจกรรมการพูดเพื่อการสื่อสารมีคะแนนเฉลี่ยความสามารถในการพูดสื่อสารภาษาอังกฤษหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.5
สรุปผล: การใช้กิจกรรมการพูดเพื่อการสื่อสารเป็นการจัดกิจกรรมเพื่อฝึกฝนการพูด ส่งเสริมให้ผู้เรียนนําความรู้และทักษะไปประยุกต์ใช้ในสถานการณ์จริงและพัฒนาศักยภาพของตนเองอย่างเต็มที่อีกทั้งสามารถสื่อสารในชีวิตประจำวันได้อย่างมั่นใจและมีประสิทธิภาพ
เอกสารอ้างอิง
กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ. (2551).การจัดสาระการเรียนรูกลุมสาระการเรียนรู้ภาษาไทยตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช. กรุงเทพฯ: กรมวิชาการกระทรวงศึกษาธิการ
ดนิตา ดวงวิไล สุขิริณณ์ อามาตย์บัณฑิต และอัฐพล อินต๊ะเสนา (2561) .การพัฒนาหลักสูตรสาระเพิ่มเติมเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะด้านการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนระดับประถมศึกษา สังกัดกลุ่มศูนย์พัฒนาคุณภาพการศึกษา ท่าสองคอน-แก่งเลิงจาน. journal of Education and Innovation, 21(1), 75–92.
นันทนา รณเกียรติ. (2560).สัทศาสตร์เพื่อการสอนการออกเสียงภาษาอังกฤษ.สํานักพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
ปกรณ์ ประจันบาน. (2552). ระเบียบวิธีวิจัยทางสังคมศาสตร์. พิษณุโลก : รัตนสุวรรณการพิมพ์ .
ประทินทิพย์ พรไชยยา. (2564). การพัฒนาหลักสูตรเสริมสร้างความรู้ความสามารถของครูในการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรมของผู้เรียนตามแนวคิดชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 23. วิทยานิพนธ์ ปร.ด., วิจัยหลักสูตรและการสอน มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร.
พงษ์ประพันธ์ ตุ่นแจ้ และปริญญภาษ สีทอง. (2563). การพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมการเตรียมความพร้อมรับมือภัยพิบัติดินโคลนถล่มตามแนวคิดของเดวีส์สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น. วารสารวิจัยมหาวิทยาลัยเวสเทิร์น มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 7(1), 143-153.
รัตนะ บัวสนธ์. (2551). ปรัชญาวิจัย (Philosophy of Research). กรุงเทพฯ. สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย.
โรงเรียนทาเหนือวิทยา. (2566). รายงานผลการบันทึกกิจกรรมชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ PLC โรงเรียนทาเหนือวิทยา ปีงบประมาณ 2566. โรงเรียนทาเหนือวิทยา
สุชาวลี วงศ์ศรีทา. (2565).การพัฒนาทักษะการพูดและความมั่นใจในการพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารโดยใช้เทคนิคการเล่าเรื่องตามโครงสร้างพีระมิดของเฟรทากสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4.วิทยานิพนธ์ ศษ.ม.(หลักสูตรและการสอน).กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
แสงระวี ดอนแก้วบัว.2558 ภาษาศาสตร์สำหรับครูสอนภาษาอังกฤษ .สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย,
อาภัสรา สังขวาสี. (2564). การพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพปีที่ 1 โดยใช้การเรียนรู้แบบทีมเป็นฐาน (Team-Based Learning). ปริญญานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
Harris, D.P. (1969). Testing English as a Second Language. New York: McGraw-Hill.
Nolasco, R., & Arthur, L. (1987). Conversation. Hong Kong: Oxford University.
Paulston, C.B., & Bruder, M.N. (1976). Teaching English as a Second Language: Techniques and Procedures. Boston: Winthrop Publishers, Inc.
Scott, R. (1981). Speaking in Communication in the Classroom. Longman Group UK Ltd.
Taba. (1962). Curriculum Development Theory and Practice. New York: Harcourt, Brace, and World Inc.
Ur: (1998). A Course in Language Teaching Trainee. Cambridge: Cambridge University Press.
Whitney, D.R. & Sabers, D.L. (1970). Improving Essay Examinations III: Use of Item Analysis, Technical Bulletin 11. Mimeographed. Iowa City: University Evaluation and Examination Service.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 Interdisciplinary Academic and Research Journal

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ลิขสิทธิ์ในบทความใดๆ ใน Interdisciplinary Academic and Research Journal ยังคงเป็นของผู้เขียนภายใต้ ภายใต้ Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License การอนุญาตให้ใช้ข้อความ เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ของสิ่งพิมพ์ ผู้ใช้ใดๆ เพื่ออ่าน ดาวน์โหลด คัดลอก แจกจ่าย พิมพ์ ค้นหา หรือลิงก์ไปยังบทความฉบับเต็ม รวบรวมข้อมูลเพื่อจัดทำดัชนี ส่งต่อเป็นข้อมูลไปยังซอฟต์แวร์ หรือใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมายอื่นใด แต่ห้ามนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์หรือด้วยเจตนาที่จะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจใดๆ





