ผลการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบกระบวนการกลุ่มสัมพันธ์ร่วมกับแบบฝึกทักษะรำวงมาตรฐาน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ในกลุ่มเครือข่ายโสกแสงสังกัดสังนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 5

ผู้แต่ง

DOI:

https://doi.org/10.60027/iarj.2025.285691

คำสำคัญ:

กระบวนการกลุ่มสัมพันธ์, รำวงมาตรฐาน, แบบฝึกทักษะรำวงมาตรฐาน

บทคัดย่อ

ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: การจัดการเรียนรู้นาฏศิลป์โดยใช้แบบฝึกทักษะนั้นสามารถพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้บรรลุเป้าหมายตามหลักสูตรได้ ภายใต้กิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นทักษะการปฏิบัติจริง อันจะเชื่อมโยงไปสู่องค์ความรู้ที่นักเรียนได้รับ และตระหนักถึงคุณค่าอันสำคัญยิ่งของนาฏศิลป์ไทย ซึ่งกิจกรรมการเรียนรู้นาฏศิลป์ ที่เน้นทักษะการปฏิบัติจริงย่อมส่งผลให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจอย่างแท้จริงเพราะผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง การวิจัยในครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้แบบกระบวนกลุ่มสัมพันธ์ร่วมกับแบบฝึกทักษะรำวงมาตรฐานของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบกระบวนกลุ่มสัมพันธ์ร่วมกับแบบฝึกทักษะรำวงมาตรฐาน ก่อนเรียนและหลังเรียน 3) เพื่อเปรียบเทียบทักษะรำวงมาตรฐานหลังเรียนวิชาศิลปะ (สาระนาฏศิลป์) โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้แบบกระบวนกลุ่มสัมพันธ์ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจต่อการพัฒนาทักษะปฏิบัติ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการการเรียนวิชาวิชาศิลปะ (สาระนาฏศิลป์) โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบกระบวนกลุ่มสัมพันธ์ร่วมกับแบบฝึกทักษะรำวงมาตรฐาน

ระเบียบวิธีการวิจัย: กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาชั้นปีที่ 4 จำนวน 26 คน โรงเรียนบ้านทุ่งเพียง โดยวิธีการสุ่มแบบกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ แผนการจัดการแผนการเรียนรู้วิชาศิลปะ สาระนาฏศิลป์แบบกระบวนการการกลุ่มสัมพันธ์ 5 ขั้น จำนวน 9 แผน แบบฝึกทักษะรำวงมาตรฐาน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ และแบบสอบถามความพึงพอใจต่อการพัฒนาทักษะปฏิบัติ สถิติที่ใช้

ผลการวิจัย: 1) ประสิทธิภาพแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้แบบกระบวนกลุ่มสัมพันธ์ร่วมกับแบบฝึกทักษะรำวงมาตรฐานของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 80.12/83.08 ตามเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้ 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบกระบวนกลุ่มสัมพันธ์ร่วมกับแบบฝึกทักษะรำวงมาตรฐาน หลังการจัดการเรียนรู้พบว่าหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญ .05 3) เปรียบเทียบทักษะรำวงมาตรฐานหลังเรียนวิชาศิลปะ(สาระนาฏศิลป์)โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้แบบกระบวนกลุ่มสัมพันธ์ พบว่าหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญ .05 4) ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อกิจกรรมกระบวนการกลุ่มสัมพันธ์ร่วมกับแบบฝึกทักษะรำวงมาตรฐาน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ระดับพึงพอใจมากที่สุด

สรุปผล: ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบกระบวนกลุ่มสัมพันธ์ร่วมกับแบบฝึกทักษะรำวงมาตรฐานหลังเรียนสูงขึ้นกว่าก่อนเรียน และมีทักษะรำวงมาตรฐานหลังเรียนวิชาศิลปะ (สาระนาฏศิลป์) โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบกระบวนการกลุ่มสัมพันธ์ร่วมกับแบบฝึกทักษะ

เอกสารอ้างอิง

กรมศิลปากร.(2560).พรรษาแห่งภูมิพลังแผ่นดิน (พิมพ์ครั้งที่1). กรมศิลปากร.

กระทรวงศึกษาธิการ. (2560). มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดกลุ่มสาระการเรียนรู้ นาฏศิลป์ ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. ชุมชนสหกรณ์การเกษตรแห่ง ประเทศไทยจำกัด.

ทิศนา แขมมณี. (2522). กลุ่มสัมพันธ์ : ทฤษฎีและแนวปฏิบัติเล่ม 1. กรุงเทพฯ: บูรพาศิลป์การพิมพ์.

ทิศนา แขมมณี. (2560). ศาสตร์การสอน: องค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ. (พิมพ์ครั้งที่ 8). โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

บังอร ภานุสี. (2543). การพัฒนากิจกรรมการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้กระบวนการกลุ่มสัมพันธ์. บัณฑิตวิทยาลัย. มหาวิทยาลัยขอนแก่น

ประภาพร ถิ่นอ่อง. (2553). การพัฒนาแบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง การแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยนเรศวร

ปราณี จิณฤทธิ์. (2552). ผลการใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์และเจตคติทางการเรียนคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเคหะประชาสามัคคี จังหวัดนครราชสีมา. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.

ปาลภัสสร์ ภู่สากล. (2560). ผลการเรียนรู้วิชาดนตรี–นาฏศิลป์ เรื่องการใช้ท่าทางนาฏศิลป์ในการรำวงมาตรฐานโดยใช้กิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่5. รายงานผลการวิจัย: โรงเรียนเทศบาลแหลมฉบัง 1.

มาลี จุฑา. (2542). จิตวิทยาการเรียนการสอน. กรุงเทพฯ : อักษรพิพัฒน .

ยุทธศาสตร์ นันทราช. (2525). การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสังคมศึกษา ของนักเรียนที่มีบุคลิกเก็บตัว แสดงตัว เรียนโดยกระบงนการกลุ่มสัมพันธ์. ปริญญานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ ประสานมิตร.

หัสดินทร์ โคทวี. (2542). การใช้กิจกรรมที่เน้นกระบวนการกลุ่มสัมพันธ์ในการพัฒนาความเข้าใจในการอ่านของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

Cartwright, D., & Zander, A. (1968). Group dynamics (3rd ed.). Harper Row.

Forsyth, D. R. (1990). Group dynamics (2nd ed.). Thomson Brooks/Cole Publishing Co.

Shaw, M. E. (1981). Group Dynamics: The Psychology of Small Group Behavior. New York: McGraw-Hill.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-08-07

รูปแบบการอ้างอิง

จำนงค์สัตย์ พ., ชูชื่น ร., & ตั้งวันเจริญ จ. . (2025). ผลการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบกระบวนการกลุ่มสัมพันธ์ร่วมกับแบบฝึกทักษะรำวงมาตรฐาน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ในกลุ่มเครือข่ายโสกแสงสังกัดสังนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 5. Interdisciplinary Academic and Research Journal, 5(5), 123–136. https://doi.org/10.60027/iarj.2025.285691

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิชาการ