แนวทางการบริหารความขัดแย้งของผู้บริหารสถานศึกษาในโรงเรียนขนาดเล็กสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครนายก
DOI:
https://doi.org/10.60027/iarj.2025.285627คำสำคัญ:
แนวทาง, การบริหารความขัดแย้ง, สถานศึกษาขนาดเล็ก, ผู้บริหารสถานศึกษาบทคัดย่อ
ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: สถานศึกษามีการทำงานร่วมกันระหว่างบุคลากรทั้งสายบริหาร สายวิชาการ สายสนับสนุน รวมถึงการทำงานกับหน่วยงานภายนอก ซึ่งมีการบริหารแตกต่างกัน ประกอบกับบุคลากรส่วนใหญ่เป็นผู้มีวุฒิการศึกษาสูง มีความรู้ความสามารถ ดังนั้น ความแตกต่างระหว่างบุคคลย่อมมีมาก อีกทั้ง งานด้านบริหารสถานศึกษา มีความซับซ้อนที่นอกจากงานวิชาการแล้ว ยังมีงานด้านอื่น ๆ อีก เช่น งานด้านการสอน งานธุรการ และงานด้านความสัมพันธ์กับชุมชนที่ต้องประสานและทำงานร่วมกันอย่างหลากหลาย ซึ่งมีความแตกต่างกันและอาจนำไปสู่ปัญหาความขัดแย้งภายในสถานศึกษาได้ การวิจัยครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์ และความต้องการจำเป็นของการบริหารความขัดแย้งของผู้บริหารสถานศึกษาในโรงเรียนขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครนายก และ 2) ศึกษาแนวทางการบริหารความขัดแย้งของผู้บริหารสถานศึกษาในโรงเรียนขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครนายก
ระเบียบวิธีการวิจัย: เป็นการวิจัยแบบผสมผสาน กลุ่มตัวอย่างคือ ผู้บริหารสถานศึกษาและครูในโรงเรียนขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครนายก จำนวน 352 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลคือ แบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง โดยการวิเคราะห์เนื้อหาและการหาค่าดัชนี ความต้องการจำเป็น
ผลการวิจัย: 1) สภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์ และความต้องการจำเป็นของการบริหารความขัดแย้งของผู้บริหารสถานศึกษาในโรงเรียนขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครนายก โดยรวมอยู่ในระดับปานกลางคือ ด้านการเอาชนะหรือการแข่งขัน สภาพที่พึงประสงค์ คือ ด้านการประนีประนอม และความต้องการจำเป็นที่สุด คือ ด้านการประนีประนอม 2) แนวทางการบริหารความขัดแย้งของผู้บริหารสถานศึกษาในโรงเรียนขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครนายก คือ ด้านการประนีประนอม 7 แนวทาง ด้านการยอมให้ 8 แนวทาง ด้านการร่วมมือ 6 แนวทาง ด้านการหลีกเลี่ยง 6 แนวทาง และด้านการเอาชนะหรือการแข่งขัน 4 แนวทาง
สรุปผล: การบริหารความขัดแย้งของผู้บริหารสถานศึกษามีความสัมพันธ์และผลกระทบต่อการบริหารงานในโรงเรียนขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครนายก ซึ่งในการดําเนินงานของผู้บริหารต้องเจอกับปัญหาต่างๆ จึงจำเป็นต้องอาศัยข้อมูลสารสนเทศเกี่ยวกับแนวทางการบริหารความขัดแย้งของผู้บริหารสถานศึกษา เพื่อใช้เป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง ส่งเสริม และพัฒนาการบริหารความขัดแย้ง เพื่อใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานให้ผู้บริหารสถานศึกษา นำไปประยุกต์ใช้ในการบริหารความขัดแย้งภายในสถานศึกษาให้มีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล อันจะช่วยลดช่องว่างในการบริหารระหว่างผู้บริหารสถานศึกษา คณะครูและบุคลากรในสถานศึกษา
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2560). แนวทางการดำเนินงานโครงการสถานศึกษาน้อมนาศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน กระทรวงศึกษาธิการ. กรุงเทพฯ: สำนักส่งเสริมกิจการศึกษา
จีราลักษณ์ วงษ์แก้ว. (2562). การบริหารความขัดแย้งของผู้บริหารสถานศึกษาตามความคิดเห็นของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 2. วิทยานิพนธ์ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยลัยทักษิณ.
ญาณศรณ์ วิจิตรธาดารัตน์. (2562). การศึกษาปัญหาความขัดแย้งและการจัดการปัญหาความขัดแย้งของผู้ประกอบวิชาชีพทางการแพทย์ ในบริบทของห้องปฏิบัติการทางการแพทย์. สารนิพนธ์หลักสูตรปริญญาการจัดการมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยมหิดล.
ตรีนุช เทียนทอง. แถลง 12 นโยบายการจัดการศึกษา 7 วาระเร่งด่วนของกระทรวงศึกษาธิการ. Retrieved from: https://moe360.blog/2021/03/29/29-3-2564/
ทรงพล เจริญคำ. (2563). หลักและทฤษฎีการบริหารการศึกษา. กรุงเทพฯ: โอ เอส พริ้นติ้งเฮาส์.
บุญชม ศรีสะอาด. (2545). การวิจัยเบื้องต้น (พิมพ์ครั้งที่ 7). กรุงเทพมหานคร: สุวีริยาสาส์น.
พงษ์ศักดิ์ ศิริโอภา. (2563). ปัจจัยที่ส่งผลต่อคุณภาพผู้เรียนในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสระแก้ว เขต 1. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์.
ระพีพรรณ อู่อรุณ (2564). การบริหารความขัดแย้งของผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต 1. ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษาคณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
สหธร เพชรวิโรจน์ชัย. (2565). 5 หลักการระบบลีน (LEAN) วิธีการใช้งานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพองค์กร. Retrieved May 4, 2022. From: https://th.hrnote.asia/orgdevelopment/lean-management-210621/.
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครนายก (2567). แผนปฏิบัติการ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครนายก พ.ศ.2567. นครนายก: สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครนายก.
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครนายก. (2567). รายงานผลการปฏิบัติงานกลุ่มบริหารงานบุคคล สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษานครนายก พ.ศ.2567. นครนายก: สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครนายก.
อภิชาติ เบิกประโคน. (2561). ปัญหาและแนวทางการพัฒนาการบริหารความขัดแย้งในโรงเรียน กลุ่มบางละมุง 2 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรีเขต 3. วิทยานิพนธ์, มหาวิทยาลัยบูรพา.
Good, C.V. (1973). Dictionary of education. 3rd ed. New York: McGraw-Hill.
Krejcie, R. V., & Morgan, D. W. (1970). Determining sample size for research activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607–610.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 Interdisciplinary Academic and Research Journal

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ลิขสิทธิ์ในบทความใดๆ ใน Interdisciplinary Academic and Research Journal ยังคงเป็นของผู้เขียนภายใต้ ภายใต้ Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License การอนุญาตให้ใช้ข้อความ เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ของสิ่งพิมพ์ ผู้ใช้ใดๆ เพื่ออ่าน ดาวน์โหลด คัดลอก แจกจ่าย พิมพ์ ค้นหา หรือลิงก์ไปยังบทความฉบับเต็ม รวบรวมข้อมูลเพื่อจัดทำดัชนี ส่งต่อเป็นข้อมูลไปยังซอฟต์แวร์ หรือใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมายอื่นใด แต่ห้ามนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์หรือด้วยเจตนาที่จะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจใดๆ





