ปัจจัยความสัมพันธ์กับชุมชนที่ส่งผลต่อประสิทธิผลการดำเนินการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาในจังหวัดอุดรธานี
DOI:
https://doi.org/10.60027/iarj.2025.285617คำสำคัญ:
ความสัมพันธ์, สถานศึกษา, ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนบทคัดย่อ
ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: การร่วมมือกันระหว่างโรงเรียนกับชุมชนเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ทั้ง 2 ฝ่าย คือสถานศึกษาได้พลังจากชุมชนมาช่วยในการจัดการศึกษา และชุมชนได้การศึกษาที่สอดคล้องกับความต้องการของชุมชน การวิจัยครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาองค์ประกอบและตัวชี้วัดปัจจัยความสัมพันธ์กับชุมชนของสถานศึกษา 2) ศึกษาปัจจัยความสัมพันธ์กับชุมชนของสถานศึกษา 3) ศึกษาประสิทธิผลการดำเนินการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของสถานศึกษา 4) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยความสัมพันธ์กับชุมชนของสถานศึกษากับประสิทธิผลการดำเนินการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน และ 5) สร้างสมการพยากรณ์ปัจจัยความสัมพันธ์กับชุมชนที่ส่งผลต่อประสิทธิผลการดำเนินการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาในจังหวัดอุดรธานี
ระเบียบวิธีการวิจัย: ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นวิจัยแบบผสานวิธี (Mixed Methods Research) ออกแบบการวิจัยแบบเชิงสำรวจเป็นลำดับ (Sequential Exploratory Design) ประกอบด้วย ระเบียบวิธีเชิงคุณภาพ (Qualitative Methods) และระเบียบวิธีเชิงปริมาณ (Quantitative Methods) แบ่งเป็น 2 ระยะ ดังนี้ ระยะที่ 1 ศึกษาองค์ประกอบและตัวชี้วัดปัจจัยความสัมพันธ์กับชุมชน ศึกษาจากแบบปฏิบัติการที่เป็นเลิศ โดยการสัมภาษณ์เชิงลึกผู้บริหารและครูในสถานศึกษา และยืนยันองค์ประกอบและตัวชี้วัดปัจจัยความสัมพันธ์กับชุมชน โดยผู้เชี่ยวชาญ เครื่องมือในการวิจัยเป็นแบบสัมภาษณ์ และแบบยืนยันองค์ประกอบและตัวชี้วัดปัจจัยความสัมพันธ์กับชุมชน ระยะที่ 2 ศึกษาปัจจัยความสัมพันธ์กับชุมชนของสถานศึกษา กลุ่มตัวอย่างเป็นครูผู้สอน จำนวน 363 คน โดยใช้วิธีการสุ่มกลุ่มตัวอย่างอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ โดยตอนที่ 2 ปัจจัยความสัมพันธ์กับชุมชนของสถานศึกษา มีความเชื่อมั่น เท่ากับ .973 และตอนที่ 3 ประสิทธิผลการดำเนินการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ของสถานศึกษา มีความเชื่อมั่น เท่ากับ .942 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ การแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน และการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอน
ผลการวิจัย: 1. ปัจจัยความสัมพันธ์กับชุมชนของสถานศึกษา มี 4 องค์ประกอบ 26 ตัวชี้วัด ประกอบด้วย 1) องค์ประกอบด้านการให้ชุมชนมีส่วนร่วมมีจำนวน 7 ตัวชี้วัด 2) องค์ประกอบด้านการให้บริการชุมชนมีจำนวน 7 ตัวชี้วัด 3) องค์ประกอบด้านการสนับสนุนกิจกรรมในโรงเรียนมีจำนวน 7 ตัวชี้วัดและ4) องค์ประกอบด้านการประชาสัมพันธ์มีจำนวน 5 ตัวชี้วัด 2. ปัจจัยความสัมพันธ์กับชุมชนของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี อยู่ในระดับมาก 3. ประสิทธิผลการดำเนินการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี อยู่ในระดับมาก 4. ปัจจัยความสัมพันธ์กับชุมชนกับประสิทธิผลการดำเนินการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี มีความสัมพันธ์กัน 5. สมการพยากรณ์ประสิทธิผลการดำเนินการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี โดยใช้ปัจจัยความสัมพันธ์กับชุมชนเป็นตัวแปรพยากรณ์ ได้อำนาจพยากรณ์ร้อยละ 70.50 โดยมีสมการดังนี้ สมการพยากรณ์ในรูปคะแนนดิบ ดังนี้ \widehat{Y} = 1.670 + .643(X3) และสมการพยากรณ์ในรูปคะแนนมาตรฐาน \widehat{Z} = .840(X3)
สรุปผล: ปัจจัยความสัมพันธ์กับชุมชนของสถานศึกษามีความสัมพันธ์กับประสิทธิผลการดำเนินการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาในจังหวัดอุดรธานี และส่งผลต่อประสิทธิผลการดำเนินการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาในจังหวัดอุดรธานี
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2563). คู่มือครูที่ปรึกษาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน. กรุงเทพฯ: อิมเมจ กรุ๊ป.
เฉลิมพงษ์ สุขสมพนารักษ์. (2561). การพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนบ้านช่างหม้อ อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน. วิทยานิพนธ์หลักสูตรครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่.
ชูชาติ พ่วงสมจิตร์. (2560). การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนกับชุมชน. วารสารมนุษศาสตร์สังคมศาสตร์และศิลปะมหาวิทยาลัยศิลปากร. 6(4), 62.
ทรงศักดิ์ ภูสีอ่อน. (2561). การประยุกต์ใช้ SPSS วิเคราะห์ข้อมูลงานวิจัย. พิมพ์ครั้งที่ 8. มหาสารคาม : ตักสิลาการพิมพ์.
บุญชม ศรีสะอาด. (2560). การวิจัยเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่ 10. กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.
ปัญญา วงศ์คุณทรัพย์. (2559). การสร้างความสัมพันธ์กับชุมชนของโรงเรียนวัดวังเป็ดสังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 1. วิทยานิพนธ์ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
ปิยะพร ป้อมเกษตร์. (2559). การนำเสนอกลยุทธ์การบริหารระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อเสริมสร้างคุณภาพของนักเรียนมัธยมศึกษา. วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาบริหารการศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
เพลินพิศ สิงห์คำ. (2551). การบริการชุมชนของโรงเรียนอนุบาลวัดปิตุลาธิราชรังสกฤษฎิ์สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาฉะเชิงเทรา เขต 1. วิทยานิพนธ์ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยบูรพา.
รณกร ไข่นาค, ประยูร แรงใสและพระครูกิตติญาณวิสิฐ. (2562). แนวทางการสร้างความสัมพันธ์ตามหลักพุทธบริหารการศึกษาระหว่างโรงเรียนกับชุมชนในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 3 จังหวัดพระนครศรีอยุธยา. Journal of Educational Review Faculty of Education in MCU, 6(1), 130–144. retrieved from https://so02.tci-thaijo.org/index.php/EDMCU/article/view/184258
ศราวุธ คามวัลย์, กชพร ป่านาผล และดาวรุวรรณ ถวิลการ. (2560). ความสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนกับชุมชน : กรณีศึกษา โรงเรียนหนองพอกพัฒนาประชานุสรณ์ หนองพอก สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 3. วารสารข่อะยอม. 15(3), 79-86.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2562). ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน เอกสารสรุปย่อองค์ความรู้สำหรับการพัฒนาทีมงานขับเคลื่อนระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อการก้าวอย่างยั่งยืน. กรุงเทพฯ: องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์.
สำนักงานวิชาการและมาตรฐานการศึกษา. (2551). การพัฒนาความเข้มแข็งระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนหลักสูตรผู้บริหาร. กรุงเทพฯ: ชุมชน สหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
อนวัช รังสรรค์ และพนมพร จันทรปัญญา. (2561). กระบวนการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนกับชุมชนของโรงเรียนประถมศึกษาในอำเภอดอยเต่า ลบล จังหวัดเชียงใหม่. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์น. 8(14), 56-78.
Hair, J.F., Black, W.C., Babin, B.J., & Anderson, R.E. (2010). Multivariate Data Analysis. 7th Edition, Pearson, New York.
Krejcie, R. V., & Morgan, D. W. (1970). Determining sample size for research activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607–610.
Sanders, D.A. (2002). The dynamics of parent-school communication, collaboration and African American student success. Dissertation Abstracts International. 13(7), 68-72.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 Interdisciplinary Academic and Research Journal

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ลิขสิทธิ์ในบทความใดๆ ใน Interdisciplinary Academic and Research Journal ยังคงเป็นของผู้เขียนภายใต้ ภายใต้ Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License การอนุญาตให้ใช้ข้อความ เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ของสิ่งพิมพ์ ผู้ใช้ใดๆ เพื่ออ่าน ดาวน์โหลด คัดลอก แจกจ่าย พิมพ์ ค้นหา หรือลิงก์ไปยังบทความฉบับเต็ม รวบรวมข้อมูลเพื่อจัดทำดัชนี ส่งต่อเป็นข้อมูลไปยังซอฟต์แวร์ หรือใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมายอื่นใด แต่ห้ามนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์หรือด้วยเจตนาที่จะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจใดๆ





