การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 3

มารีหยาม ยีหวังกอง; และเชาวนี  แก้วมโน

doi:10.60027/iarj.2025.285603

ผู้แต่ง

มารีหยาม ยีหวังกอง คณะศึกษาศาสตร์และศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ https://orcid.org/0009-0005-7511-8809
และเชาวนี แก้วมโน คณะศึกษาศาสตร์และศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ https://orcid.org/0009-0004-3273-8031

DOI:

https://doi.org/10.60027/iarj.2025.285603

คำสำคัญ:

การบริหารงานวิชาการ, ผู้บริหารสถานศึกษา, ระบบประกันคุณภาพภายใน

บทคัดย่อ

ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: ยุทธศาสตร์ชาติเป็นเป้าหมายในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนตามหลักธรรมาภิบาลในการพัฒนาระบบการศึกษา และก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของโลกที่เป็นพลวัตและบริบทที่เปลี่ยนแปลง (Relevancy) ดังนั้น ระบบการศึกษาจะต้องมีคุณภาพและมาตรฐานและก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของโลกศตวรรษที่ 21 การวิจัยครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาการประถมศึกษาปัตตานี เขต 3 2) เพื่อเปรียบเทียบการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาการประถมศึกษาปัตตานี เขต 3 จำแนกตามเพศ ประสบการณ์ในการปฏิบัติงาน และขนาดสถานศึกษา แตกต่างกันหรือไม่ 3) เพื่อศึกษาข้อเสนอแนะและแนวทางการพัฒนาการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาการประถมศึกษาปัตตานี เขต 3

ระเบียบวิธีการวิจัย: การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยแบบสอบถาม โดยนำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลแบบสถิติเชิงพรรณนา (Descriptive Research) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ ครูที่ปฏิบัติงานในสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาการประถมศึกษาปัตตานี เขต 3 ปีการศึกษา 2567 โดยการกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่าง โดยใช้ G*Power 3.1.9.2 (Faul, 2022) ได้กลุ่มตัวอย่างจำนวน 134 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามค่าสัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบาค เท่ากับ .943 (Cronbach, 1970) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที และการทดสอบค่าเอฟ

ผลการวิจัย: 1) การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 3 โดยรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า การพัฒนาสื่อ นวัตกรรม และเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา มีค่าเฉลี่ยสูงสุด อยู่ในระดับมาก รองลงมาการพัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา รองลงมาการพัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา อยู่ในระดับมาก การพัฒนากระบวนการเรียนรู้ อยู่ในระดับมาก และ การพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา อยู่ในระดับมาก ตามลำดับ 2) ผลการเปรียบเทียบการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา จำแนกตามเพศ พบว่า โดยรวมไม่แตกต่างกัน เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่าความคิดเห็นระหว่างเพศชายและเพศหญิง การพัฒนาสื่อ นวัตกรรม และเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .05 3) ผลการเปรียบเทียบการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา จำแนกตามประสบการณ์ในการปฏิบัติงานโดยรวมและรายด้าน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 4) ผลการเปรียบเทียบการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา จำแนกตามขนาดสถานศึกษา พบว่า การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา โดยรวมไม่แตกต่างกัน

เอกสารอ้างอิง

เกตกนก สวยค้าข้าว และวรกาญจน์ สุขสดเขียว (2561).การบริหารงานวิชาการของโรงเรียนราชินีบูรณะสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 9. วารสารการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยศิลปากร, 10(1), 539–553. https://so02.tci-thaijo.org/index.php/EdAd/article/view/213645

ขวัญพิชชา มีแก้ว. (2562). การบริหารสถานศึกษาที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของสถานศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจันทบุรี. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี.

ธีระ รุญเจริญ. (2550). ความเป็นมืออาชีพในการจัดและบริหารการศึกษา ยุคปฏิรูปการศึกษา. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ : แอล.ที.เพรส.

บุญชม ศรีสะอาด. (2545). การวิจัยเบื้องต้น.พิมพ์ครั้งที่ 7. กรงเทพฯ : สุวีริยาสาส์น.

ปาริชาต สุนทร. (2560) การบริหารงานวิชาการแบบมีส่วนร่วมในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานสังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 4 . มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์; กรุงเทพฯ.

พรรษมน พินทุสมิต. (2560). การปฏิบัติงานด้านการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา ระดับประถมศึกษา ในจังหวัดปทุมธานี. วิทยานิพนธ์ปริญญา ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี.

พัชญ์พิชา จันทา. (2563). แนวทางการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครนายก. (วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี.

มูนา จารง. (2560). การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษาตามทศันะของครูผู้สอนเครือข่ายตลิ่งชัน สำนกังานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลา เขต 2. ค้นคว้าอิสระครุศาสตร มหาบัณฑิต สาขาบริหารการศึกษา, มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา.

ยุพา พรมแย้ม. (2562). การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษาในอำเภอบางบัวทองสังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี เขต 2 (วิทยานิพนธ์อุตสาหกรรมมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี.

รุ่ง แก้วแดง. (2550). ประกันคุณภาพการศึกษา. กรุงเทพฯ: วัฒนาพานิช.

โรงเรียนนวมินทราชูทิศ ทักษิณ. (2563). การพัฒนาคุณภาพผู้เรียน โดยใช้ความร่วมมือขององค์กรภาครัฐและเอกชน. โรงเรียนนวมินทราชูทิศ ทักษิณ : สงขลา.

สัมมา รธนิธย์. (2560). หลักทฤษฎีและปฏิบัติการบริหารการศึกษา. พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพฯ : ข้าวฟ่าง.

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 3. (2567). รายงานผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 3 : ปัตตานี

สำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ. (2553). แผนการศึกษาแห่งชาติ ฉบับปรับปรุง(พ.ศ. 2552-2559). กรุงเทพฯ : สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ.

หทัย ศิริพิน. (2558). แนวทางการพัฒนาการบริหารงานวิชาการโรงเรียนบ้านกระทุ่มล้ม (นครราษฎร์ประสิทธิ์). ค้นคว้าปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา, มหาวิทยาลัยศิลปากร.

อำภา บุญช่วย. (2553). การบริหารงานวิชาการในโรงเรียน. กรุงเทพฯ: โอเอสพริ้นติ้งเฮาส์.

Cronbach, L. J. (1970). Essentials of psychological test (5th ed.). New York: Harper Collins.

Faul, F. (2022). G*Power version 3.1.9.2. Retrieved from: https://www.poycho.uni-duessldorf.de/abteilungen/

Hair Jr., J. F., Hult, G. T. M., Ringle, C., & Sarstedt, M. (2016). A Primer on Partial Least Squares Structural Equation Modeling (PLS-SEM). Thousand Oaks, CA: Sage Publications.

Likert, R. (1967). The Human Organization: Its Management and Value. New York: McGraw-Hill Book.