ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: ภูมิปัญญาพื้นบ้านเกิดมาจากคนไทย รู้จักที่และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ การดำรงชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคมมีรูปแบบที่แตกต่างกัน การไปมาหาสู่ระหว่างชนชาติ ระหว่าง สังคม ชุมชน การแลกเปลี่ยนซื้อขายกัน การอพยพโยกย้ายที่ทำมาหากิน เกิดการยอมรับกันในสังคมที่เรียกว่า“วัฒนธรรม” ที่เป็นเอกลักษณ์ ในการเกิดภูมิปัญญาท้องถิ่น เป็นหลักความรู้อันเกิดจากความสามารถประสบการณ์ และความเฉลียวฉลาดในการประดิษฐ์คิดค้น เกิดมาจากการสั่งสมประสบการณ์ที่ผ่านกระบานการเรียนรู้ เลือกสรร พัฒนา ถ่ายทอดสืบต่อกันมาจากบรรพบุรุษจนถึงปัจจุบัน การศึกษาการจัดการความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นทางอาหาร กินผักสมุนไพรพื้นบ้านให้เป็นยา กรณีศึกษา บ้านไทรงาม ตำบลนาเสียว อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ มีวัตถุประสงค์ ศึกษาการจัดการความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นทางอาหาร และการแปรรูปอาหารจากผักสมุนไพรพื้นบ้านที่เป็นเมนูอาหารเพื่อสุขภาพ โดยการมีส่วนร่วมของประชาชน นำไปสู่การอนุรักษ์ภูมิปัญญาและสร้างรายได้ชุมชน ผลการศึกษา คือ การถ่ายทอดความรู้จากรุ่นสู่รุ่น ผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชน ในการนำภูมิปัญญามาพัฒนาในรูปแบบของผลิตภัณฑ์อาหารสมุนไพร ที่ได้อนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นและผลิตภัณฑ์ที่สร้างรายได้ให้กับชุมชน ระเบียบวิธีการวิจัย: การศึกษาครั้งนี้ทบทวนวรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพกลุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจง คือ ผู้เฒ่า ปราชญ์ชาวบ้าน และตัวแทนชุมชนที่มีผู้รู้มีภูมิปัญญาและประสบการณ์นำผักสมุนไพรพื้นบ้าน รตัวแทนกลุ่มวิสาหกิจชุมชนในพื้นที่จำนวน 20 คน การวิเคราะห์เนื้อหาแล้วนําเสนอเชิงพรรณนาตามประเด็นที่สําคัญ ผลการศึกษาวิจัย พบว่า 1) การจัดการความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นทางอาหาร "กินผักสมุนไพรพื้นบ้านให้เป็นยา" ในชุมชนบ้านไทรงามเกี่ยวข้องกับการสืบทอดภูมิปัญญา การแสวงหาความรู้ การจัดการความรู้ การแบ่งปันและการสร้างการมีส่วนร่วมในชุมชน ซึ่งส่งเสริมการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นและเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจ ผ่านการแปรรูปสมุนไพร 2) ผลการศึกษาการแปรรูปอาหารจากผักสมุนไพรพื้นบ้านการแปรรูปอาหารจากผักสมุนไพรพื้นบ้านที่เป็นเมนูอาหารเพื่อสุขภาพ โดยการมีส่วนร่วมของประชาชน นำไปสู่การอนุรักษ์ภูมิปัญญาและสร้างรายได้ให้กับชุมชนน คือ“ตำเมี่ยงสมุนไพร” สรุปผล ชุมชนมีส่วนร่วมตั้งแต่การบ่งชี้การสร้าง การจัดการ และแบ่งปันความรู้ ในการพัฒนาผ่านกระบวนการวิจัย เพื่อปรับปรุงต่อยอดเป็นเมนูพร้อมรับประทาน จึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถรักษาภูมิปัญญาท้องถิ่นในด้านการใช้สมุนไพรที่มีคุณค่า สามารถขยายการจำหน่ายไปสู่ตลาดที่กว้างขึ้น ส่งผลให้เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ได้รับสนับสนุนจากหน่วยงานภายนอก เช่น นักวิจัย ภาครัฐ มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการอนุรักษ์และพัฒนาเศรษฐกิจของชุมชน การแปรรูปสมุนไพรพื้นบ้าน เพื่อรักษาภูมิปัญญาท้องถิ่นและวัฒนธรรมทางอาหารท้องถิ่น จึงสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนของชุมชนในระยะยาว
DOI:
https://doi.org/10.60027/iarj.2025.282898คำสำคัญ:
การจัดการความรู้, ภูมิปัญญาท้องถิ่นทางอาหาร, ผักสมุนไพรพื้นบ้าน, การกินให้เป็นยาบทคัดย่อ
ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: ภูมิปัญญาพื้นบ้านเกิดมาจากคนไทย รู้จักที่และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ การดำรงชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคมมีรูปแบบที่แตกต่างกัน การไปมาหาสู่ระหว่างชนชาติ ระหว่าง สังคม ชุมชน การแลกเปลี่ยนซื้อขายกัน การอพยพโยกย้ายที่ทำมาหากิน เกิดการยอมรับกันในสังคมที่เรียกว่า“วัฒนธรรม” ที่เป็นเอกลักษณ์ ในการเกิดภูมิปัญญาท้องถิ่น เป็นหลักความรู้อันเกิดจากความสามารถประสบการณ์ และความเฉลียวฉลาดในการประดิษฐ์คิดค้น เกิดมาจากการสั่งสมประสบการณ์ที่ผ่านกระบานการเรียนรู้ เลือกสรร พัฒนา ถ่ายทอดสืบต่อกันมาจากบรรพบุรุษจนถึงปัจจุบัน การศึกษาการจัดการความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นทางอาหาร กินผักสมุนไพรพื้นบ้านให้เป็นยา กรณีศึกษา บ้านไทรงาม ตำบลนาเสียว อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ มีวัตถุประสงค์ ศึกษาการจัดการความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นทางอาหาร และการแปรรูปอาหารจากผักสมุนไพรพื้นบ้านที่เป็นเมนูอาหารเพื่อสุขภาพ โดยการมีส่วนร่วมของประชาชน นำไปสู่การอนุรักษ์ภูมิปัญญาและสร้างรายได้ชุมชน ผลการศึกษา คือ การถ่ายทอดความรู้จากรุ่นสู่รุ่น ผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชน ในการนำภูมิปัญญามาพัฒนาในรูปแบบของผลิตภัณฑ์อาหารสมุนไพร ที่ได้อนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นและผลิตภัณฑ์ที่สร้างรายได้ให้กับชุมชน
ระเบียบวิธีการวิจัย: การศึกษาครั้งนี้ทบทวนวรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพกลุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจง คือ ผู้เฒ่า ปราชญ์ชาวบ้าน และตัวแทนชุมชนที่มีผู้รู้มีภูมิปัญญาและประสบการณ์นำผักสมุนไพรพื้นบ้าน รตัวแทนกลุ่มวิสาหกิจชุมชนในพื้นที่จำนวน 20 คน การวิเคราะห์เนื้อหาแล้วนําเสนอเชิงพรรณนาตามประเด็นที่สําคัญ
ผลการศึกษาวิจัย: พบว่า 1) การจัดการความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นทางอาหาร "กินผักสมุนไพรพื้นบ้านให้เป็นยา"
ในชุมชนบ้านไทรงามเกี่ยวข้องกับการสืบทอดภูมิปัญญา การแสวงหาความรู้ การจัดการความรู้ การแบ่งปันและการสร้างการมีส่วนร่วมในชุมชน ซึ่งส่งเสริมการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นและเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจ ผ่านการแปรรูปสมุนไพร 2) ผลการศึกษาการแปรรูปอาหารจากผักสมุนไพรพื้นบ้านการแปรรูปอาหารจากผักสมุนไพรพื้นบ้านที่เป็นเมนูอาหารเพื่อสุขภาพ โดยการมีส่วนร่วมของประชาชน นำไปสู่การอนุรักษ์ภูมิปัญญาและสร้างรายได้ให้กับชุมชนน คือ“ตำเมี่ยงสมุนไพร”
สรุปผล: ชุมชนมีส่วนร่วมตั้งแต่การบ่งชี้การสร้าง การจัดการ และแบ่งปันความรู้ ในการพัฒนาผ่านกระบวนการวิจัย เพื่อปรับปรุงต่อยอดเป็นเมนูพร้อมรับประทาน จึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถรักษาภูมิปัญญาท้องถิ่นในด้านการใช้สมุนไพรที่มีคุณค่า สามารถขยายการจำหน่ายไปสู่ตลาดที่กว้างขึ้น ส่งผลให้เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ได้รับสนับสนุนจากหน่วยงานภายนอก เช่น นักวิจัย ภาครัฐ มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการอนุรักษ์และพัฒนาเศรษฐกิจของชุมชน การแปรรูปสมุนไพรพื้นบ้าน เพื่อรักษาภูมิปัญญาท้องถิ่นและวัฒนธรรมทางอาหารท้องถิ่น จึงสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนของชุมชนในระยะยาว
เอกสารอ้างอิง
จันทร์จิรา ตรีเพชร และคณะ. (2564). การจัดการความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นในการสร้างรายได้และพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น: กรณีการแปรรูปสมุนไพรเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม. วารสารเศรษฐกิจและสังคมชุมชน, 12(2),145-158.
จิราณีย์ พันมูล. (2558). การสืบทอดและการประยุกต์ใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นในมิติอาหารเพื่อสุขภาพของชุมชนไทยทรงดำในเขตตำบลไผ่หูช้าง. วารสารการพัฒนาและการศึกษาเพื่อสังคม, 7(2), 102-116.
จุฑารัตน์ ศราวณะวงศ์. (2558). การแสวงหาความรู้และการจัดเก็บความรู้ของกลุ่มสมุนไพรบ้านดงบัง: กรณีศึกษาแนวปฏิบัติที่ดีในการพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่น. วารสารการจัดการความรู้, 10(3), 85-97.
ฉวีวรรณ สุวรรณาภา และคณะ. (2560). อาหารพื้นบ้าน. กระบวนการจัดการเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและจริยธรรมทางสังคมในชุมชนภาคเหนือ. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย วิทยาเขตแพร่.
ณิชมน ภมร, และ พัชรี ตันติวิภาวิน.(2563). การจัดการความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านวัฒนธรรมอาหารพื้นบ้าน ภาคเหนือตอนบนของไทย. วารสารรังสิตบัณฑิตศึกษาในกลุ่มธุรกิจและสังคมศาสตร์, 6(2), 28-44.
นำพล แปนเมือง และคณะ. (2566). แนวทางการส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านสมุนไพรพื้นบ้านกรณีศึกษา: ตำบลโป่งเปือย อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 12(1), 129-140.
ประพัสสร บัวเผื่อน และคณะ. (2565). การศึกษาภูมิปัญญาและการใช้ประโยชน์จากพืชสมุนไพรท้องถิ่นเขาโกรกปลากั้ง จังหวัดกำแพงเพชร. วารสารพิกุล, 20(1), 1-14.
พรปวีณ์ คำหลวงและเกษร สำเภาทอง. (2562). ภูมิปัญญาการบริโภคผักพื้นบ้านเพื่อประโยชน์ด้านสุขภาพของชาวบ้านตำบลศรีษะเกษ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน. วารสารธรรมศาสตร์การแพทย์, 19(1), 1-10.
ยิ่งยง ไพสุขศานติวัฒนา. (2556). ผักพื้นบ้าน: ภูมิปัญญาและมรดกที่คนไทยหลงลืม. เอกสารประกอบการสัมมนาวิชาการและอุทยานผักพื้นบ้านในวิถีไทย. กรุงเทพฯ: สำนักพิพิธภัณฑ์และวัฒนธรรมการเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
วิจารณ์ พานิช. (2564). การจัดการความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน. วารสารวิจัยสังคมศาสตร์, 12(1), 134-142.
สุกัญญา ไหมเครือแก้ว. (2560). ผักและสมุนไพรพื้นบ้านในประเทศไทย: ความหลากหลาย ชนิด และคุณสมบัติทางยา. วารสารสมุนไพรพื้นบ้านและสุขภาพ, 8(1), 45-60.
อภิชาติ ใจอารีย. (2557). รูปแบบการจัดการความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นการแปรรูปหน่อไม้ของชุมชนบ้านพุเตย จังหวัดกาญจนบุรี. วารสารการเมืองการปกครอง, 4(2), 224-230.
Verghese, K., Lewis, H., Lockrey, S., & Williams, H. (2015). Packaging’s role in minimizing food loss and waste across the supply chain. Packaging Technology and Science, 28(7), 419-437. https://doi.org/10.1002/pts.2127
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 Interdisciplinary Academic and Research Journal

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ลิขสิทธิ์ในบทความใดๆ ใน Interdisciplinary Academic and Research Journal ยังคงเป็นของผู้เขียนภายใต้ ภายใต้ Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License การอนุญาตให้ใช้ข้อความ เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ของสิ่งพิมพ์ ผู้ใช้ใดๆ เพื่ออ่าน ดาวน์โหลด คัดลอก แจกจ่าย พิมพ์ ค้นหา หรือลิงก์ไปยังบทความฉบับเต็ม รวบรวมข้อมูลเพื่อจัดทำดัชนี ส่งต่อเป็นข้อมูลไปยังซอฟต์แวร์ หรือใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมายอื่นใด แต่ห้ามนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์หรือด้วยเจตนาที่จะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจใดๆ





