เราจะช่วยยกระดับการเบิกเงินงบประมาณรายจ่ายของสถาบันวิจัยประชากรและสังคม ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้อย่างไร...???

บทคัดย่อ

ภูมิหลังและวัตถุประสงค์ บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพัฒนากรอบการควบคุมและการตรวจสอบเอกสารการเบิกเงินงบประมาณรายจ่ายของสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล มาเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานเพื่อลดข้อผิดพลาดและป้องกันปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในการเบิกจ่าย ซึ่งผลจากการดำเนินงานที่ผ่านมามีข้อผิดพลาดและปัญหาในด้านหลักเกณฑ์การเบิกจ่าย อัตราการเบิกจ่าย และความถูกต้องสมบูรณ์ของเอกสารประกอบการเบิกจ่ายเงิน ที่นำไปสู่ความผิดพลาดและความล่าช้าในการแก้ไขเอกสาร ตลอดจนความมั่นใจของผู้ปฏิบัติงานและการได้รับความไว้วางใจของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

ระเบียบวิธีศึกษา บทความนี้ใช้วิธีการศึกษาโดยรวบรวมข้อมูลจาก แหล่งข้อมูลทุติยภูมิ (Secondary Data) โดยรวบรวมข้อมูลแนวคิด เอกสารทางวิชาการ การค้นคว้าจากหนังสือ บทความ วารสาร วิทยานิพนธ์ และรายงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต เพื่อประกอบการวิเคราะห์การพัฒนากรอบการควบคุมและการตรวจสอบเอกสารการเบิกเงินงบประมาณรายจ่ายของสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มาเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานเพื่อลดข้อผิดพลาดต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในการเบิกจ่าย ที่จะแสดงให้เห็นความแตกต่างของแนวปฏิบัติเดิมและแนวปฏิบัติที่เป็นข้อค้นพบใหม่ ซึ่งเป็นข้อมูลที่รวบรวมตั้งแต่ปี 2558-2566

ผลการศึกษา พบว่า กรอบการควบคุมและการตรวจสอบเอกสารการเบิกเงินงบประมาณจ่ายเงินที่นำมาเป็นกรอบการปฏิบัติงานตามแนวคิดเชิงระบบ ซึ่งเป็นแนวปฏิบัติที่เป็นข้อค้นพบใหม่ที่พัฒนาขึ้นในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ แบบฟอร์มเพื่อตรวจเอกสารก่อนการส่งเบิกจ่าย (check list) ทำให้การปฏิบัติงานสะดวกมากขึ้น ไม่เสียเวลาในการขอเอกสารเพิ่มเติมตามระเบียบ อีกทั้งช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย มีการทำงานอย่างเป็นระบบและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ส่งผลต่อการบรรลุเป้าหมายลดข้อผิดพลาดด้านเอกสาร ไม่เกิดความล่าช้า ซึ่งแตกต่างจากแนวทางการปฏิบัติที่ผ่านมา ที่พบว่า ผู้ปฏิบัติงานและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย แยกส่วนกันทำงานตามความเข้าใจของตนเอง ภายใต้ประกาศหลักเกณฑ์และอัตราที่สถาบันฯ กำหนดขึ้นเพียงอย่างเดียว ทำให้การปฏิบัติงานด้านการเบิกจ่ายเงินของสถาบันวิจัยประชากรและสังคม เกิดข้อผิดพลาดและเสียเวลาในการแก้ไขเอกสาร ส่งผลกระทบทำให้เกิดการเบิกจ่ายล่าช้า

สรุปผลการศึกษา กรอบการควบคุมและการตรวจสอบเอกสารการเบิกจ่ายเงินรายได้ของสถาบันฯ ที่พัฒนาขึ้นนี้ ยังไม่มีการนำไปใช้จริง จึงยังไม่บรรลุเป้าหมายการปฏิบัติงานที่ตั้งไว้ ข้อเสนอแนะคือ สถาบันฯ ควรส่งเสริมให้ผู้ปฏิบัติและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย นำกรอบการควบคุมและการตรวจสอบเอกสารการเบิก-จ่ายเงินรายได้ของสถาบันฯ ไปใช้จริง ผ่านการสื่อสารทุกช่องทาง และควรมีการติดตามประเมินผลว่า เมื่อนำไปใช้แล้วได้ผลตามที่กำหนดไว้หรือไม่ เพื่อจะได้ทำการปรับปรุงแก้ไขให้มีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้น