รูปแบบพัฒนาการสร้างเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และวัฒนธรรมถ้ำนาคา อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ

ผู้แต่ง

  • วุฒิพงศ์ บุษราคัม คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี https://orcid.org/0009-0002-6023-8398
  • ศิริวรรณ สนั่นเอื้อ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี https://orcid.org/0009-0006-1608-4140
  • ชนัญฎา สินชื่น คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี https://orcid.org/0009-0009-8201-3326
  • สอนประจันทร์ เสียงเย็น คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี https://orcid.org/0009-0007-5745-503X
  • อรณิชา ครองยุติ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี https://orcid.org/0009-0008-6712-360X
  • สุภัสสร วันสุทะ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี https://orcid.org/0009-0004-7601-2515

DOI:

https://doi.org/10.60027/iarj.2025.282429

คำสำคัญ:

รูปแบบพัฒนา, เส้นทางการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์, วัฒนธรรมถ้ำนาคา, อำเภอบึงโขงหลง, จังหวัดบึงกาฬ

บทคัดย่อ

ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: งานวิจัยครั้งนี้เรื่อง รูปแบบพัฒนาการสร้างเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และวัฒนธรรม,ถ้ำนาคา อำเภอบึงโขง หลง จังหวัดบึงกาฬ รายงานความก้าวหน้างวดนี้เรื่อง พัฒนากิจกรรมการท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวที่มีศักยภาพพื้นที่ถ้ำนาคา กิจกรรมการสนทนากลุ่ม (Focus Group) ในด้านการจัดการ การท่องเที่ยวถ้ำนาคา ณ อุทยานแห่งชาติภูลังกา ตำบลโพธิ์หมากแข้ง อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ เก็บข้อมูลโดยการใช้แบบสัมภาษณ์ ทำการสัมภาษณ์แบบเจาะลึกทั้งผู้ประกอบกิจการ ท่องเที่ยวพื้นที่ถ้ำนาคา วัดถ้ำชัยมงคล อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ

ระเบียบวิธีการวิจัย: ใช้วิธีการวิจัยวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Method) และวิจัยเชิงปริมาณ การตรวจสอบข้อมูล และการแปลผล การวิเคราะห์ข้อมูล ในงานวิจัยนี้ ใช้วิธีวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ ขอบเขตด้านประชากร ผู้ที่เกี่ยวข้องทางการท่องเที่ยวทั้งภาครัฐและเอกชน ผู้ประกอบการธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่ท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ปราชญ์ชาวบ้านและผู้ที่มีความรู้ด้านประวัติศาสตร์ชุมชน ด้านภูมิปัญญาท้องถิ่นในพื้นที่ ผู้นำชุมชน ได้แก่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ประธานกลุ่มท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และ ประธานกลุ่มด้านวัฒนธรรม และประธานกลุ่มผู้นำร่องในการจัดการที่พักโฮมสเตย์ในเส้นทางท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และ วัฒนธรรมพื้นที่ถ้ำนาคา วัดถ้ำชัยมงคล อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ รายงานความก้าวหน้าจากการวิจัย

ผลการวิจัย: ความคิดเห็นเป็นรายบุคคลผู้ที่เกี่ยวข้องทางการท่องเที่ยวทั้งภาครัฐปลัดอำเภอบึงโขงหลง นายกองค์การ บริหารส่วนตำบลโพธิ์หมากแข้ง (นายนิมนต์ ชานุชิต) และ ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลโพธิ์หมากแข้ง (จ่าเอกเศกสรรค์ ศักขิ นาดี) มีความคิดเห็นว่า ควรเน้นด้านการจัดการ และด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งในด้านการจัดการจะเน้นในการใช้ แอปพลิเคชั่น Que Q ของกรมอุทยานแห่งชาติ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจำนวน 700 คนต่อวัน ปัจจุบันมีผลสะท้อนต่อการขึ้นถ้ำนาคาจาก นักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ทั้งเรื่องของการจองขึ้นถ้ำและจำนวนผู้มาเที่ยวในแต่ละวันสำหรับผู้นำเที่ยวท้องถิ่นเพื่อขึ้นถ้ำนาคา ควรมีมาตรฐานเดียวกันในการนำเที่ยว สามารถคัดกรองบุคคลที่จะมาเป็นผู้นำเที่ยวท้องถิ่น เช่น มีบุคลิกภาพ ลักษณะที่ดี เหมาะสมกับการให้บริการแก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เป็นต้น และอาจเพิ่มเติมด้านภาษาอังกฤษเพื่อความ ประทับใจต่อนักท่องเที่ยวได้ ทั้งนี้ไกด์ท้องถิ่นต้องมีการลงทะเบียนกับทางกรมอุทยานแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อ สามารถติดตามได้สะดวกขึ้นคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในพื้นที่ถ้ำนาคา ซึ่งประกอบด้วยประชาชนในท้องที่และกรมอุทยาน แห่งชาติ โดยในสมัยก่อนประชาชนสามารถขึ้นไปบนพื้นที่ป่าได้ พอมีกฎหมายว่าด้วยอุทยานแห่งชาติบังคับใช้จึงทำให้พื้นที่ ดังกล่าวมีเจ้าหน้าของกรมอุทยานแห่งชาติเข้ามาดูแลเน้นการแก้ปัญหาด้านการนำเที่ยวบนถ้ำนาคา, ด้านสาธารณสุข, และเรื่อง ของการกู้ชีพ โดยในด้านการนำเที่ยวจะเกิดปัญหาในความแตกต่างระหว่างผู้นำเที่ยวทั่วไปและผู้นำเที่ยวท้องถิ่น ข้อแตกต่างคือ ผู้นำเที่ยวท้องถิ่นจะได้รับการอบรมหลักสูตร 3 วัน จากกระทรวงการท่องเที่ยวและการกีฬา ด้านความปลอดภัยของ นักท่องเที่ยวทุกกรณีเป็นหลัก การจัดการเชิงระบบ มีทั้งภายใน และภายนอก Focus เน้นด้านการพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยว โดยมีส่วนร่วมจากกระทรวงการท่องเที่ยวและการกีฬา, กรมอุทยานแห่งชาติ, ไกด์ท้องถิ่น ประมาณ 700 คน จะทำให้เกิดการ เปลี่ยนแปลงพัฒนาให้ดีขึ้น ทั้งนี้การบริหารจัดการเกิดจากชุมชนประมาณ 70% จากท้องถิ่นประมาณ 30% นำข้อเสนอแนะ จากผลประเมินความพึงพอใจของผู้ใช้บริการมาปรับปรุงพัฒนาการบริหารจัดการให้เป็นรูปธรรม ถือเป็นการบริหารจัดการเชิง นโยบาย ประกอบด้วย 1) การวิเคราะห์ปัจจัยภายใน (จุดแข็ง, จุดอ่อน) และการวิเคราะห์ปัจจัยภายนอก (โอกาส, อุปสรรค) ของหน่วยงาน 2) ข้อเสนอเชิงนโยบาย จากองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.) เน้นด้านคนและการจัดการ ส่วนที่สำคัญคือ คณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) ที่เกิดจากการบูรณาการระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาค ประชาชน อีกทั้ง สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ (สสอ.) ที่มีโครงการช่วยเหลือและพัฒนาหลายฝ่าย

สรุปผล: ผลสรุปของการศึกษาจะนำเสนอต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมถึงหน่วยงานของรัฐและหน่วยงานท้องถิ่น เพื่อหาแหล่งทุนสำหรับกลยุทธ์การจัดการการท่องเที่ยว ประธานองค์การบริหารส่วนตำบลเน้นย้ำถึงการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวและการพัฒนามัคคุเทศก์ โดยได้รับการสนับสนุนจากแหล่งทุนต่างๆ ความร่วมมือจากทุกภาคส่วนมีความสำคัญอย่างยิ่ง รวมถึงการใช้กฎบัตรด้านสุขภาพเพื่อสนับสนุนโครงการ การประสานงานกับกรมอุทยานแห่งชาติและผู้นำท้องถิ่นจะช่วยให้เกิดการดำเนินการอย่างมีประสิทธิผลและการพัฒนาอย่างยั่งยืน

เอกสารอ้างอิง

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย. (2562). Amazing go local. กรุงเทพฯ: ภาพพิมพ์.

ขวัญกมล ดอนขวา. (2556). การจัดการธุรกิจชุมชนบนพื้นฐานปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี.

โฆษิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์. (2558). ยุทธศาสตร์ธุรกิจ SMEs. กรุงเทพฯ : ซีเอ็ดยูเคชั่น.

จิรพร มหาอินทร์ และคณะ. (2555). การดำเนินงานและการส่งเสริมศักยภาพของวิสาหกิจชุมชน กรณีศึกษา กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตภัณฑ์ผ้าและเครื่องแต่งกาย จังหวัดปทุมธานี. รายงานการวิจัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร.

ฉัตยาพร เสมอใจ และคณะ. (2552). การจัดการธุรกิจขนาดย่อม. กรุงเทพฯ : ซีเอ็ดยูเคชั่น.

บุญเลิศ จิตตั้งวัฒนา.(2548). การพัฒนาการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน. กรุงเทพฯ: เพรส แอนด์ ดีไซน์

มินตรา ติรณปริญญ์ .(2559). การพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชน ในบริเวณเทศบาลตำบลอัมพวาและพื้นที่ใกล้เคียง. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

สำนักงานท่องเที่ยวจังหวัดบึงกาฬ. (2566). แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจในจังหวัดบึงกาฬ. Retrieved October 6, 2023, from https://bungkan.mots.go.th/news_view.php?nid=352

Department of Tourism. (2009). The Department of Tourism (DOT) commemorates the 10th year since Republic Act 9593, better known as the Tourism Act of 2009, was signed into law. Retrieved from: tourism.gov.ph/files/TourismAct2ndStage/Terms%20of%20Reference.pdf

Majid, I. A., & Koe, W.-L. (2012). Sustainable Entrepreneurship (SE): A Revised Model Based on Triple Bottom Line (TBL). International Journal of Academic Research in Business and Social Sciences, 2(6), 293–310.

Nzama, A.T, Magi, L. M., & Ngcobo, N. R. (2005). Workbook-I Tourism Workbook for Educators: 2004 Curriculum Statement (Unpublished Tourism Workshop Educational Materials). Centre for Recreation & Tourism, UZ, and Tourism KwaZulu-Natal, University of Zululand.

Onuoha, G. (2007). Entrepreneurship. AIST International Journal, 10, 20-32

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-04-10

รูปแบบการอ้างอิง

บุษราคัม ว. ., สนั่นเอื้อ ศ. ., สินชื่น ช. ., เสียงเย็น ส. ., ครองยุติ อ. ., & วันสุทะ ส. . (2025). รูปแบบพัฒนาการสร้างเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และวัฒนธรรมถ้ำนาคา อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ. Interdisciplinary Academic and Research Journal, 5(2), 965–980. https://doi.org/10.60027/iarj.2025.282429

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิชาการ