การศึกษาความต้องการจำเป็นในการพัฒนาหลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาพลศึกษา
DOI:
https://doi.org/10.60027/iarj.2024.282228คำสำคัญ:
หลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต; , พลศึกษา; , ความต้องการจำเป็นบทคัดย่อ
ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาความต้องการจำเป็นและแนวทางในการพัฒนาหลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาพลศึกษา โดยการจัดการศึกษาในระดับปริญญาทางการศึกษาโดยเฉพาะสาขาวิชานั้นผู้พัฒนาหลักสูตรมีความจำเป็นต้องทราบถึงความต้องการของผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อนำข้อมูลดังกล่าวมาใช้ในการพัฒนาหลักสูตรให้มีความเหมาะสม และตรงตามความต้องการของผู้ใช้บัณฑิต
ระเบียบวิธีการวิจัย: โดยงานวิจัยนี้ใช้วิธีการวิจัยเชิงคุณภาพโดยการสัมภาษณ์เชิงลึกแบบกึ่งโครงสร้าง กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้จำนวน 30 คน แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้ กลุ่มที่ 1 ผู้ใช้บัณฑิต ได้แก่ ผู้อำนวยการสถานศึกษา และบุคคลากรทางการศึกษา (ครูประจำ) จำนวน 10 คน กลุ่มที่ 2 กลุ่มนักศึกษาปริญญาตรีในสาขาวิชาพลศึกษา จำนวน 10 คน และกลุ่มที่ 3 กลุ่มนักเรียนระดับมัธยมศึกษาที่มีความสนใจในสาขาวิชาพลศึกษา จำนวน 10 คน และนำข้อมูลมาวิเคราะห์โดยใช้วิธีการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการศึกษา: พบว่า กลุ่มตัวอย่างทั้ง 3 กลุ่มมีข้อเสนอแนะ และความต้องการที่มีความสอดคล้องกันทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ ด้านความรู้ ทักษะ และคุณลักษณะของครูผู้สอนวิชาพลศึกษา ซึ่งในด้านความรู้ความเข้าใจพบว่า อาจารย์มีความจำเป็นต้องมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวร่างกาย โครงสร้างและหน้าที่ของส่วนต่าง ๆ ในร่างกาย กฏ กติการของการแข่งขันกีฬาที่หลากหลาย การปฐมพยาบาลเบื้องต้นในกีฬา และในด้านทักษะพบว่า ควรให้ความสำคัญกับความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ทั้งเชิงทฤษฎี และเชิงปฏิบัติ รวมถึงทักษะการจัดการเรียนรู้ และออกแบบวิธีการสอนที่มีประสิทธิภาพ เหมาะสม และมีความสร้างสรรค์ เท่าทันยุคสมัย อีกทั้งทักษะในการจัดการแข่งขันกีฬา เป็นต้น ในด้านคุณลักษณะ พบว่า สิ่งที่มีความจำเป็น และมีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาบุคคลากรนั้นคือการประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดีทั้งใน และนอกสถานศึกษา การมีภาวะผู้นำที่ดี การประพฤติตนให้มีความเหมาะสมกับสถานการณ์และรู้จักการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ความรับผิดชอบต่อหน้าที่ มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี การวางตัวที่เหมาะสม เป็นต้น ในด้านคุณธรรม และจริยธรรม คือ ครูควรมีจรรยาบรรณในวิชาชีพ มีวิธีการละประพฤติตนให้ห่างไกลอบายมุข มีพรหมวิหาร 4 เป็นต้น
สรุปผล: สรุปได้ว่าความรู้ ทักษะ คุณลักษณะ รวมไปถึงคุณธรรม และจริยธรรมเหล่านี้เป็นปัจจัยที่มีความสำคัญในการสร้างครูพลศึกษาที่มีคุณภาพและส่งผลดีต่อการเรียนรู้ในอนาคต
เอกสารอ้างอิง
จริญญา สมานญาติ. (2564) การพัฒนาหลักสูตร. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ : โอ.เอส.พริ้นติ้ง เฮ้าส์. 271 หน้า
ชวลิต ชูกำแพง. (2559). การวิจัยและพัฒนาหลักสูตร แนวคิดและกระบวนการ. กรุงเทพ ฯ : สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ณัฐกานต์ ขันทอง. (2565). ความต้องการจัดการเรียนรู้พลศึกษาในโรงเรียนสังกัดเทศบาลเมืองจังหวัดศรีสะเกษ. วารสารสังคมศาสตร์เพื่อการพัฒนาท้องถิ่น มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม, 6(2), 164–169.
ธนินทร ยอดมงคล (2564). "การมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการพัฒนาหลักสูตรการศึกษา. วารสารการศึกษาและการพัฒนา, 11(2), 75-90.
ประเสริฐ สุขประเสริฐ. (2562). การพัฒนาหลักสูตรพลศึกษา: แนวทางและแนวคิดใหม่. สำนักพิมพ์การศึกษา.
พงษ์เอก สุขใส. (2561). ครูพลศึกษาในศตวรรษที่ 21. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์น, 12(1), 8–21.
พันธ์ศักดิ์ พลสารัมย์. (2549). การศึกษาแนวโน้มการวิจัยและพัฒนาการศึกษาสำหรับอนาคต. รายงานการวิจัย. สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. กรุงเทพฯ : บริษัทหวานกราฟฟิคจำกัด.
วารีรัตน์ แก้วอุไร. (2564). การพัฒนาหลักสูตร : จากทฤษฎีสู่การปฏิบัติ. พิษณุโลก: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยนเรศวร. 366 หน้า
วิชัย วงษ์ใหญ่. (2554). การพัฒนาหลักสูตรระดับอุดมศึกษา (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: อาร์แอนด์ปรินท์จํากัด.
สงัด อุทรานันท์. (2542). พื้นฐานและหลักการพัฒนาหลักสูตร. กรุงเทพฯ : มิตรสยาม
สิทธิศักดิ์ บุญหาญ. (2566). การพัฒนาหลักสูตรศึกษาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาพลศึกษา มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ, 15(3), 255–268.https://he02.tci-thaijo.org/index.php/TNSUJournal/article/view/259618
อริสา นพคุณ, บรรจบ บุญจันทร์, และสุวิมล ตั้งประเสริฐ. (2561). การพัฒนาสมรรถนะครูในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา. วารสารชุมชนวิจัย, 12(3), 232–244.
อังคณา อิ่มใจ (2562). "การพัฒนาหลักสูตรพลศึกษาให้ทันสมัยเพื่อการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ." วารสารวิจัยทางการศึกษา, 15(2), 45-60.
Asigbee, F.M., Whitney, S.D., & Peterson, C.E. (2018). The Link Between Nutrition and Physical Activity in Increasing Academic Achievement. Journal of School Health, 88(6), 4.7-415.
Duta, N., Panisoara, G., & Panisoara, I. (2015). The Effective Communication in Teaching. Diagnostic Study Regarding the Academic Learning Motivation to Students. Procedia - Social and Behavioral Sciences, 186, 1007-1012.
Graham, G. (2008). Teaching Children Physical Education: Becoming a Master Teacher. Illinois: Human Kinetics.
Martin, A.J. & Dowson, M. (2009) Interpersonal Relationships, Motivation, Engagement and Achievement: Yields for Theory, Current Issues and Educational Practice. Review of Educational Research, 79, 327-365. https://doi.org/10.3102%2F0034654308325583
Weinberg, R.S., & Gould, D. (2011). Foundations of Sport and Exercise Psychology. Illinois: Human Kinetics.
Wallhead, T. L., & Buckworth, J. (2004). The Role of Physical Education in the Promotion of Youth Physical Activity. Quest, 56(3), 285–301. https://doi.org/10.1080/00336297.2004.10491827
Weiss, M. G., Ramakrishna, J., & Somma, D. (2006). Health-related stigma: Rethinking concepts and interventions 1. Psychology, Health & Medicine, 11(3), 277–287. https://doi.org/10.1080/13548500600595053
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2024 Interdisciplinary Academic and Research Journal

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ลิขสิทธิ์ในบทความใดๆ ใน Interdisciplinary Academic and Research Journal ยังคงเป็นของผู้เขียนภายใต้ ภายใต้ Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License การอนุญาตให้ใช้ข้อความ เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ของสิ่งพิมพ์ ผู้ใช้ใดๆ เพื่ออ่าน ดาวน์โหลด คัดลอก แจกจ่าย พิมพ์ ค้นหา หรือลิงก์ไปยังบทความฉบับเต็ม รวบรวมข้อมูลเพื่อจัดทำดัชนี ส่งต่อเป็นข้อมูลไปยังซอฟต์แวร์ หรือใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมายอื่นใด แต่ห้ามนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์หรือด้วยเจตนาที่จะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจใดๆ





