การศึกษาพฤติกรรมการเรียนการสอนผ่านออนไลน์ของนิสิตวิทยาลัยการเมืองการปกครอง มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

บทคัดย่อ

ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: ในยุคปัจจุบันเทคโนโลยีการสื่อสารทางออนไลน์มีผลต่อระบบการศึกษาโดยตรง ทั้งนี้เนื่องจากเทคโนโลยีสารสนเทศจะเกี่ยวข้องโดยตรงกับการรวบรวมข้อมูล ข่าวสาร ความรอบรู้ จัดระบบประมวลผล ส่งผ่านและสื่อสารด้วยความเร็วสูงและปริมาณมาก นำเสนอและแสดงผลด้วยระบบสื่อต่าง ๆ นั้นผู้วิจัยสนใจศึกษาพฤติกรรมการเรียนการสอนผ่านออนไลน์ของนิสิตวิทยาลัยการเมืองการปกครอง มหาวิทยาลัยมหาสารคาม โดยมีวัตถุประสงค์ 1.เพื่อศึกษาพฤติกรรมของนิสิตในระหว่างการเรียนการสอนผ่านระบบออนไลน์ของนิสิตวิทยาลัยการเมืองการปกครอง มหาวิทยาลัยมหาสารคาม 2.เพื่อศึกษาความพึงพอใจในการเรียนการสอนผ่านระบบออนไลน์ของนิสิตวิทยาลัยการเมืองการปกครอง มหาวิทยาลัยมหาสารคาม 3.เพื่อศึกษาปัญหาในการเรียนการสอนผ่านระบบออนไลน์ของนิสิตวิทยาลัยการเมืองการปกครอง มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

ระเบียบวิธีการวิจัย: การศึกษาวิจัยเรื่อง “การศึกษาพฤติกรรมการเรียนการสอนผ่านระบบออนไลน์ของนิสิตวิทยาลัยการเมืองการปกครอง มหาวิทยาลัยมหาสารคาม”เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ (Survey research) มีจุดประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรม ความพึงพอใจและปัญหาที่เกิดขึ้นต่อระบบการเรียนการสอนออนไลน์ของนิสิตวิทยาลัยการเมืองการปกครอง มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ผู้ให้ข้อมูลสำคัญและเครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูล ได้แก่ นิสิตวิทยาลัยการเมืองการปกครองมหาวิทยาลัยมหาสารคาม โดยการใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลจำนวน 290 คน จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 363 คน

ผลการวิจัย:ผลการศึกษาพบว่า (1) พฤติกรรมที่ผู้ตอบแบบสอบถามในระหว่างการเรียนการสอนออนไลน์ คือ การมีส่วนร่วมในการเรียนการสอน ร้อยละ 51.2 ทำงานที่มอบหมายเสร็จทันเวลา ร้อยละ 49.5 การทบทวนเนื้อหา ศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมหลังการเรียน ร้อยละ 45 มีการตอบคำถามและการแสดงความคิดเห็นระหว่างการเรียน ร้อยละ 42.9 มีการเอาใจใส่ในการเรียน ร้อยละ 42.2 ใช้อุปกรณ์ช่วยเหลือในเข้าการเรียน ร้อยละ 42.2 เตรียมตัวในการเข้าเรียน ร้อยละ 39.1 ขาดการโต้ตอบระหว่างอาจารย์และนิสิต ร้อยละ 36.4 มีสมาธิและตั้งใจฟังในขณะที่อาจารย์กำลังสอน ร้อยละ 35.6 และทำกิจกรรมอื่นระหว่างเรียน ร้อยละ 33.9 (2) ความพึงพอใจของนิสิตวิทยาลัยการเมืองการปกครองมหาวิทยาลัยมหาสารคามในแต่ละด้านนั้นมีภาพรวมของความพึงพอใจอยู่ในระดับปานกลาง เช่น ความพึงพอใจทางด้านการสอนในรูปแบบออนไลน์ ได้รับความรู้ ความเข้าใจใเนื้อหาที่สอนทางออนไลน์ มีความตื่นเต้นและสนุกกับการเรียนออนไลน์ บรรยากาศในขณะที่เรียนมีความพร้อมและสามารถทำกิจกรรมในร่วมชั้นเรียนได้อย่างสะดวก ลักษณะ ขนาด ตัวอักษรที่ใช้เหมาะสมชัดเจน เสียงและภาพชัดเจน สื่อสารเข้าใจง่ายในขณะที่เรียน หัวเรื่องที่เรียนและผลการเรียนรู้ที่คาดหวังชัดเจน เข้าใจการใช้บทเรียนออนไลน์ได้ด้วยตนเอง รูปแบบของการเรียนออนไลน์มีความเหมาะสมและเข้าใจได้ง่ายและความพร้อมด้านอินเตอร์เน็ตอสื่อ เทคโนโลยีที่ใช้ในการเรียนออนไลน์ มีความพึงพอใจในระดับมาก (3) ปัญหาที่เกิดขึ้นในระหว่างเรียนคือมีเสียงดังรบกวนระหว่างการเรียนการสอน ร้อยละ 54.2 เกิดความเบื่อหน่ายและเกิดความขี้เกียจในการเรียนออนไลน์มี ร้อยละ 52.1 ตามไม่ทันเนื้อหาการสอนของอาจารย์ ร้อยละ 51.4 ในบางรายวิชาที่ต้องมีการลงมือปฏิบัตินิสิตไม่ได้ลงมือปฏิบัติธรรมให้เกิดความไม่เข้าใจอย่างละเอียด ร้อยละ 48.6 ต้องจ่ายค่าใช้จ่ายในเรื่องค่าอินเทอร์เน็ตมากขึ้น คิดเป็นร้อยละ 41.3 สัญญาณอินเตอร์เน็ตช้าทำให้ไม่สามารถส่งงานทำตาม ร้อยละ 39.9 ขาดการโต้ตอบระหว่างอาจารย์และนิสิต ร้อยละ 36.4 อยู่ในพื้นที่ที่ไม่สามารถเข้าถึงสัญญาณอินเทอร์เน็ต ร้อยละ 35.7 นิสิตบางคนขาดแคลนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ร้อยละ 28.7 และนิสิตบางคนขาดแคลนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ร้อยละ 28.

สรุปผล: การเรียนการสอนออนไลน์จะมีประโยชน์หลายประการ แต่ปัญหาด้านการเข้าถึงเทคโนโลยี การมีส่วนร่วม การประเมินผล และปัญหาด้านจิตใจและสังคมยังเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาและแก้ไข เพื่อให้การเรียนการสอนออนไลน์มีประสิทธิภาพและเป็นประโยชน์ต่อทุกคนมากขึ้น