การสร้างอัตลักษณ์ผ้าทอมือชาวกะเหรี่ยงเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์เหลือใช้ บ้านทีกะเป่อ ตำบลช่องแคบ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก

ผู้แต่ง

DOI:

https://doi.org/10.60027/iarj.2024.281427

คำสำคัญ:

อัตลักษณ์ผ้าทอมือ, ขีดความสามารถในการเพิ่มมูลค่า, ผลิตภัณฑ์เหลือใช้

บทคัดย่อ

ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: การสร้างอัตลักษณ์ผ้าทอมือชาวกะเหรี่ยง ลายอัตลักษณ์ที่จะพัฒนาจะสามารถเพิ่มคุณค่าให้กับผลิตภัณฑ์ สำหรับการย้อมสีจากธรรมชาตินั้น กลุ่มผู้ทอผ้าบ้านทีกะเป่อ มีความรู้ในเรื่องการย้อมสีอยู่แล้ว แต่ปัญหาที่พบจากการย้อมสีธรรมชาติที่กลุ่มพบเจอคือ สีที่ย้อมไม่สด และสีตก  ซึ่งคณะผู้วิจัยจะได้แก้ไขปัญหาการย้อมสีเพื่อไม่ให้สีตกเพื่อเป็นความรู้ใหม่กับกลุ่ม และคณะผู้วิจัยเล็งเห็นความสำคัญของผลิตภัณฑ์ผ้าทอที่มีราคาสูง และใช้ระยะเวลาในการทอนาน ในการนี้คณะผู้วิจัยจะดำเนินการค้นหาและ เพิ่มรูปแบบผลิตภัณฑ์ ให้มีความหลากหลาย ราคาไม่สูงมากนัก เพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าของกลุ่มอีกด้วย

ระเบียบวิธีการวิจัย: โดยการวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลจากการสัมภาษณ์ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านทีกะเป่อ และกลุ่มทอผ้าบ้านทีกะเป่อ ตำบลช่องแคบ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก มีวัตถุประสงค์คือ 1) เพื่อสร้างอัตลักษณ์ลายผ้าทอบ้านทีกะเป่อ 2) เพื่อสร้างองค์ความรู้ใหม่ในการย้อมสีธรรมชาติ 3) เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม คณะวิจัยนำข้อมูลที่ได้จากการ วิเคราะห์เนื้อหา ประวัติหมู่บ้าน คนสำคัญ สถานที่สำคัญ อาหาร ประเพณี/ความเชื่อ ต้นไม้ สัตว์ ดอกไม้ สี ภาษา หัตถกรรม กิจกรรมยามว่าง ชื่อลายผ้า และนำข้อมูลเชิงพรรณา เก็บข้อมูลการสนทนากลุ่ม (Focus Group) การสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง (Semi-Structure) จากผลิตภัณฑ์ผ้าทอจากกลุ่มตัวอย่างในการวิจัย ได้แก่ ผู้ใหญ่บ้านบ้านทีกะเป่อ  สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลช่องแคบ กลุ่มทอผ้าบ้านทีกะเป่อ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านทีกะเป่อ  ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านทีกะเป่อ ประชาชน จำนวน 30 คน โดยเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวม ครั้งนี้คือ การสนทนากลุ่ม (Focus Group) การสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง (Semi-Structure) มีการกำหนดคำถามในการสัมภาษณ์ไว้ล่วงหน้าให้เป็นคำถามปลายเปิด (Open-end Question) เพื่อให้กลุ่มตัวอย่างได้แสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่ โดยไม่มีการชี้นำคำตอบ จากนั้นนำข้อมูลมาสรุปข้อมูลมาสังเคราะห์ โดยแยกเป็นหมวดหมู่ และทำการตัดข้อมูลซ้ำออก เพื่อให้ได้ข้อมูลที่สำคัญ และนำข้อมูลที่ได้ประชุมสรุปกับผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบลายผ้า เพื่อทำการร่างโครงร่างของลายผ้า สุดท้ายคณะผู้วิจัยทำการสัมภาษณ์เชิงลึก (In-depth Interview) โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบลายผ้า และกลุ่มผู้ทอผ้า เพื่อให้ได้ข้อมูลลายผ้าและวิธีการขึ้นลายผ้า และวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) ประวัติหมู่บ้าน  คนสำคัญ สถานที่สำคัญ  อาหาร ประเพณี/ความเชื่อ ต้นไม้ สัตว์ ดอกไม้ สี ภาษา  หัตถกรรม กิจกรรมยามว่าง  ชื่อลายผ้า และนำข้อมูลเชิงพรรณา

ผลการวิจัย:  ผลการวิจัยพบว่า ลายผ้าที่เป็นอัตลักษณ์บ้านทีกะเป่อ มีลักษณะเป็นสายน้ำ หมายถึง  แอ่งน้ำ ภาษากะเหรี่ยง เรียกว่า “ทีกะเป่อ” ซึ่งเป็นชื่อหมู่บ้าน แสดงออกถึงในความเป็นตัวตนของชาวบ้านและสอดคล้องกับชื่อของหมู่บ้าน นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มลายที่เป็นลายดั้งเดิมของชาติพันธ์กะเหรี่ยง ที่นำมาทอผสมกับลายสายน้ำและดอกไม้ นั่นคือลาย หนี้เก้พอทูโย่ (จ่อท้อ (ผ้ายกดอก)) และสร้างองค์ความรู้ใหม่ในการย้อมสีธรรมชาติ เกี่ยวกับการย้อมสีผ้าในแต่ละขั้นตอน และยังพบปัญหาคือการย้อมสียังไม่ติดและไม่คงทน คณะผู้วิจัยจึงดำเนินกิจกรรมการอบรมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) โดยนำผู้เชี่ยวชาญในการย้อมสีผ้ามาปฏิบัติร่วมกับผู้ทอผ้าด้วย 3 ขั้นตอน คือ ขั้นเตรียมการ ขั้นการย้อม และขั้นการล้าง เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่ตลาดผู้ใช้สินค้าชาติพันธ์นิยม ได้แก่ เสื้อแฟชั่น กระเป๋า เครื่องประดับ รองเท้า ผ้ารองจาน ถ่ายทอดต่อไปได้ผ้าปูโต๊ะ

สรุปผล: การสร้างอัตลักษณ์ของบุคคลเป็นกระบวนการที่ต่อเนื่องและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ซึ่งจะช่วยให้บุคคลต่างๆ สามารถแสดงออกถึงอัตลักษณ์เฉพาะตัวของตนได้ในบริบทต่างๆ เช่นเดียวกัน การนำเทคนิคการย้อมสีธรรมชาติแบบดั้งเดิมมาใช้ในผลิตภัณฑ์สมัยใหม่จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าแฟชั่นของกลุ่มชาติพันธุ์ เช่น เสื้อ กระเป๋า และเครื่องประดับ ทำให้สินค้าเหล่านี้ดึงดูดใจตลาดสมัยใหม่มากขึ้น ในขณะเดียวกันก็รักษามรดกทางวัฒนธรรมเอาไว้ด้วย

เอกสารอ้างอิง

กันทนา ใจสุวรรณ (2563). งานปักลูกเดือย ภูมิปัญญาบนผ้าทอกะเหรี่ยง. วิทยาลัยชุมชนแม่ฮ่องสอน. Retrieved from: https://www.okmd.or.th/upload/pdf/2560/KC/Embroidery.pdf

จิตตินุช วัฒนะ. (2555). การศึกษาเพื่อกําหนดอัตลักษณ์ถนนวัฒนธรรม (ถนนคนเดิน) ของจังหวัด พิษณุโลก. วารสารบริหารธุรกิจ เศรษฐศาสตร์และการสื่อสาร, 7(2), 71-80.

ตระกูล พันธ์พัชรเมธา. (2557). การสร้างภาพลักษณ์ผลิตภัณฑ์เพื่อกำหนดแนวคิด การออกแบบ. ศิลปกรรมสาร, คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. 9 (1), 51-63.

ภาวิดา มหาวงศ์ สุพัตรา เจริญภักดี บดีรัฐ ธัญญพร มาบวบ อุษา อินทร์ประสิทธิ์ และยุวดี พ่วงรอด. (2566). การศึกษาวิเคราะห์ภูมินามกับสิ่งแวดล้อมธรรมชาติ ศิลปกรรมท้องถิ่น ประเพณี ภูมิปัญญา และประติมากรรมรูปภาพ ของอำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก. การประชุมวิชาการระดับชาติพิบูลสงครามวิจัย ครั้งที่ 8 การวิจัยและนวัตกรรมสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) 28 กุมภาพันธ์ 2566 ณ มหาวิทยาลัยราชภัฎพิบูลสงคราม.

ศักดิ์สิทธิ์ คำหลวง และศุภรัก สุวรรณวัจ. (2560). การออกแบบอัตลักษณ์องค์กรชุมชนกาดกองต้า โดยใช้ทฤษฎีสัญศาสตร์ต่อการรับรู้ทุนวัฒนธรรมชุมชนกาดกองต้า จังหวัดลำปาง. วารสารวิชาการศิลปะสถาปัตยกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร. 8(1), 24 – 39.

ศูนย์ข้อมูลกลางทางวัฒนธรรม (2564). ประโยชน์ของผ้าไหม. Retrieved 1 November 2023, from : http://www.m-culture.in.th/.

ศูนย์สารนิเทศอีสานสิรินธร. (2566). สีธรรมชาติ. Retrieved 1 November 2023, from : https://library.msu.ac.th/isancenter/

สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดตาก. (2566). จำนวนประชากรตำบลช่องแคบ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก. Retrieved on 22 November 2023, from: https://tak.cdd.go.th/.

สุจรรยา โชติช่วง. (2554). การศึกษาสภาพการพัฒนาอัตลักษณ์และเอกลักษณ์ของสถานศึกษา สังกัด สำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 1. การศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง กศ.ม. สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยนเรศวร.

อินทิรา พงษ์นาค และศุภกรณ์ ดิษฐพันธุ์. (2558). อัตลักษณ์ชุมชนเมืองโบราณอู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี.Veridian E - Journal,Slipakorn University, 8(2), 511 – 523.

DOBBYTEX ADMIN. (2566). การย้อมผ้าฝ้ายทอมือด้วยสีที่ได้จากธรรมชาติ. Retrieved on 15 November 2023, from https://www.dobbytexfabric.com/.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2024-12-09

รูปแบบการอ้างอิง

ศิริรัตนะ ว. ., ทรงอิทธิสุข ป. ., อ่อนเชด พ. ., & ปัทมภูวนนท์ ภ. . (2024). การสร้างอัตลักษณ์ผ้าทอมือชาวกะเหรี่ยงเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์เหลือใช้ บ้านทีกะเป่อ ตำบลช่องแคบ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก. Interdisciplinary Academic and Research Journal, 4(6), 903–920. https://doi.org/10.60027/iarj.2024.281427

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิชาการ