การพัฒนาความสามารถในการอ่านออกเสียงภาษาไทยด้วยแบบฝึกการอ่านออกเสียงอักษรสามหมู่ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

ผู้แต่ง

  • จิรัสชยาณ์ ปกรณ์คุณารักษ์ โรงเรียนสุรวิวัฒน์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา https://orcid.org/0009-0000-6102-3685
  • กิติยากร เนินไธสง โรงเรียนสุรวิวัฒน์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา https://orcid.org/0009-0005-3510-4090
  • สุริชา ฐานวิสัย โรงเรียนสุรวิวัฒน์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา https://orcid.org/0009-0004-8242-9691

DOI:

https://doi.org/10.60027/iarj.2025.280570

คำสำคัญ:

ความสามารถในการออกเสียงภาษาไทย, แบบฝึกการอ่านออกเสียงอักษรสามหมู่

บทคัดย่อ

ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: การอ่านออกเสียงในภาษาไทยนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมากสำหรับการสื่อสารกันไม่ว่าเป็นในเชิงวิชาการ หรือการบรรยายบอกเล่าเรื่องราว เนื่องจากพยัญชนะและวรรณยุกต์ในภาษาไทยหากมีการเขียนร่วมกันแต่ต่างวรรยุกต์กันจะออกเสียงและมีความหมายที่แตกต่างกันออกไป ผู้วิจัยจึงให้ความสนใจในการอ่านออกเสียงโดยนักเรียนส่วนใหญ่เกิดปัญหาในการอ่านออกเสียงจึงทำให้การสื่อสารในบางครั้งเกิดปัญหาโดยการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์คือ 1. เพื่อศึกษาความสามารถในการอ่านออกเสียงภาษาไทยในวิชาวิชาสมบัติวรรณคดีไทย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 2. เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการอ่านออกเสียงภาษาไทยก่อนเรียนและหลังเรียนในวิชาสมบัติวรรณคดีไทย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

ระเบียบวิธีการวิจัย: วิธีการดำเนินการวิจัยรูปแบบก่อนการทดลอง (Pre - experimental Research) โดยมีรูปแบบการวิจัยเป็นแบบกลุ่มเดียวทดสอบก่อนสอนและหลังสอน (The One-Group Pretest-Posttest Design) ได้กลุ่มเป้าหมายทั้งสิ้น 114 คน เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนสุรวิวัฒน์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี วิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าสถิติพื้นฐานได้แก่ สถิติบรรยาย ความถี่ ร้อยละ และสถิติอนุมานด้วยการทดสอบที (dependent samples t-test)

ผลการวิจัย: ผลการวิจัยพบว่า 1. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 อ่านออกเสียงตามอักษรสามหมู่จำนวน 45 คำ โดยแบ่งเป็นอักษร กลาง ต่ำเดี่ยว ต่ำคู่ นักเรียนมีความสามารถอ่านออกเสียงถูกต้องสมบูรณ์ที่สุดคืออักษรกลาง (จิก) และอ่านออกเสียงผิดมากที่สุดคืออักษรกลาง (กว๊าน) รองลงมาคืออักษรสูง (ฝาง)

2. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 อ่านออกเสียงภาษาไทยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนมีคะแนนหลังเรียนเฉลี่ย 44.66 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 1.04 และมีคะแนนก่อนเรียนเฉลี่ย 41.66 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 2.67

สรุปผล: นักเรียนมักจะอ่านออกเสียงผิดคำที่อยู่ใน 1) กลุ่มอักษรกลางคำว่า กว๊าน, กว้าน 2) กลุ่มอักษรสูงคำว่า ฝาง และ3) กลุ่มอักษรต่ำคำว่า ฟ่าง และเมื่อผู้วิจัยนำคะแนนที่ได้จากแบบฝึกการอ่านออกเสียงอักษรสามหมู่มาทำการเปรียบเทียบ นักเรียนมีค่าเฉลี่ยการอ่านออกเสียงภาษาไทยอักษรสามหมู่หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551. โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว, กรุงเทพฯ.

กฤตวิทย์ ดวงสร้อย. (2522). หลักภาษา. โครงการบริหารวิชาการ มศว, สงขลา.

กัลยา ติงศภัทิย์, ม.ร.ว. (2533). วรรณยุกต์ในภาษาไทยถิ่นสุพรรณบุรี: การศึกษาเปรียบเทียบวรรณยุกต์ในคำกับวรรณยุกต์ในถ้อยคำต่อเนื่อง (รายงานผลการวิจัย). ภาควิชาภาษาศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

สนิท สัตโยภาส. (2545). ภาษาไทยเพื่อการสื่อสารและการสืบค้น. บริษัท 21 เซ็นจูรี่จํากัด, กรุงเทพฯ.

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2552). แนวปฏิบัติการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพมหานคร:โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จํากัด.

โสภัทรา คงทวี. (2557). ผลการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านออกเสียงคำควบกล้ำ ร ล ว กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี.

องค์อร จันทร์พูล. (2558). การพัฒนาแบบฝึกทักษะเพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์สำหรับนักเรียนประถมศึกษาปีที่ 3. วิทยานิพนธ์ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, มหาสารคาม.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-03-22

รูปแบบการอ้างอิง

ปกรณ์คุณารักษ์ จ., เนินไธสง ก., & ฐานวิสัย ส. (2025). การพัฒนาความสามารถในการอ่านออกเสียงภาษาไทยด้วยแบบฝึกการอ่านออกเสียงอักษรสามหมู่ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1. Interdisciplinary Academic and Research Journal, 5(2), 187–194. https://doi.org/10.60027/iarj.2025.280570

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิชาการ