การจัดกิจกรรมศิลปะประดิษฐ์โดยใช้วัสดุเหลือใช้เพื่อส่งเสริมการใส่ใจจดจ่อของเด็กปฐมวัย
DOI:
https://doi.org/10.60027/iarj.2025.279970คำสำคัญ:
กิจกรรมศิลปะประดิษฐ์, วัสดุเหลือใช้บทคัดย่อ
ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: การจัดกิจกรรมศิลปะประดิษฐ์ เป็นการจัดประสบการณ์การเรียนรู้รูปแบบหนึ่งที่มีประสิทธิภาพ น่าสนใจสำหรับเด็ก และสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาทักษะการใส่ใจจดจ่อ โดยการลงมือปฏิบัติกิจกรรม แล้วทำกิจกรรมให้สำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของ การจัดกิจกรรมศิลปะประดิษฐ์โดยใช้วัสดุเหลือใช้เพื่อส่งเสริมการใส่ใจจดจ่อของเด็กปฐมวัยและเพื่อเปรียบเทียบ การใส่ใจจดจ่อของเด็กปฐมวัยก่อนและหลังการจัดกิจกรรมศิลปะประดิษฐ์โดยใช้วัสดุเหลือใช้
ระเบียบวิธีการวิจัย: กลุ่มเป้าหมาย คือ เด็กปฐมวัย ชาย - หญิง อายุ 3 - 4 ปี ที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นอนุบาล ปีที่ 1 จำนวน 25 คน เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ 1. แผนการจัดกิจกรรมศิลปะประดิษฐ์โดยใช้วัสดุเหลือใช้เพื่อส่งเสริมการใส่ใจจดจ่อของเด็กปฐมวัย 2. แบบสังเกตพฤติกรรมการใส่ใจจดจ่อของเด็กปฐมวัย วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหา ค่าดัชนีประสิทธิผล ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัย: (1) ดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดกิจกรรมศิลปะประดิษฐ์โดยใช้วัสดุเหลือใช้เพื่อส่งเสริมการใสใจจดจ่อของเด็กปฐมวัยมีค่าเท่ากับ 0.7307 แสดงว่าเด็กปฐมวัยมีทักษะการใส่ใจจดจ่อเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 73.07 (2) เด็กปฐมวัยมีค่าเฉลี่ยทักษะการใส่ใจจดจ่อหลังการทดลอง (μ = 23.64 ระดับคุณภาพดี) สูงกว่าการทดลอง (μ = 14.52 ระดับคุณภาพพอใช้) สะท้อนให้เชื่อว่าการจัดกิจกรรมศิลปะประดิษฐ์โดยใช้วัสดุเหลือใช้ สามารถนำไปใช้ในการส่งเสริมการใสใจจดจ่อของเด็กปฐมวัยได้
สรุปผล: การวิจัยพบว่าเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมศิลปะประดิษฐ์โดยใช้วัสดุเหลือใช้ มีค่าเฉลี่ยทักษะ การใส่ใจจดจ่อหลังการจัดกิจกรรมฯ อยู่ในระดับดี (μ = 23.64, σ = 0.95) มากกว่า ก่อนการจัดกิจกรรมฯ (μ = 14.52, σ = 1.12) ดังนั้น การจัดกิจกรรมศิลปะประดิษฐ์โดยใช้วัสดุเหลือใช้ ส่งผลให้เด็กปฐมวัยได้พัฒนาทักษะการใส่ใจจดจ่อเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 73.07 ทำให้เชื่อว่าแผนการจัดกิจกรรมนี้เป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพในส่งเสริมการใสใจจดจ่อของเด็กปฐมวัยและมีผลสำคัญทางสถิติดัชนีประสิทธิผล
เอกสารอ้างอิง
ช่อทิพยวรรณ พันธุ์แก้ว. (2537). สมาธิเด็กสู่ความเป็นอัจฉริยะ. กรุงเทพฯ: ต้นธรรมสำนักพิมพ์.
นวลจันทร์ จุฑาภักดีกุล, ปนัดดา ธนเศรษฐกร และ รพิน เลิศอาวัสดา. (2560). การประชุมวิชาการการพยาบาลกุมารเวชศาสตร์ เรื่อง การประเมินพัฒนาการด้านการคิดเชิงบริหาร (EF) ในเด็กปฐมวัย ครั้งที่ 29. กรุงเทพมหานคร: สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข.
นวลจันทร์ จุฑาภักดีกุล. (2560). Executive Functions- EF กับความพร้อมทางการเรียนในเด็กปฐมวัย. นครปฐม: ศูนย์วิจัยประสาทวิทยาศาสตร์สถาบันชีววิทยาศาสตร์โมเลกุล.
วรสิทธิ์ ศิริพรพาณิชย์. (2556). การประเมินความตั้งใจจดจ่อโดยการตรวจดลื่นไฟฟ้าสมองและการประยุกต์ใช้ในเด็กที่เป็นโรคชนสมาธิสั้น. วารสารการแพทย์และวิทยาศาสตร์สุขภาพ, 20 (1): 4-12.
วิรุณ ตั้งเจริญ. (2539). ศิลปศึกษา. กรุงเพมหานคร: โอเดียนสโตร์.
สถาบันอาร์แอลจี. (2559). พัฒนาทักษะสมอง EF ด้วยการอ่าน. กรุงเทพมหานคร: ไอดี ออล ดิจิตอล พริ้นท์.
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ และสถาบัน RLG. (2561). เอกสารประกอบหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพมหานคร: คุรุสภา ลาดพร้าว.
สิริพรรณ ตันติรัตนไพศาล. (2545). ศิลป์สำหรับเด็กปฐมวัย. กรุงเทพมหานคร: สุวิริยาศาลน์.
อารีย์ ชูมณี. (2546). การศึกษาเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ความคิดสร้างสรรค์และมนุษยสัมพันธ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนวิชาสังคมศึกษาโดยการสอนด้วยวิธิสตอรี่ไลน์และการสอนโดยใช้กระบวนการกลุ่มสัมพันธ์. ปริญญานิพนธ์การศึกษา มหาบัณฑิตกรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลยศรีนครินทรวิโรฒ.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 Interdisciplinary Academic and Research Journal

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ลิขสิทธิ์ในบทความใดๆ ใน Interdisciplinary Academic and Research Journal ยังคงเป็นของผู้เขียนภายใต้ ภายใต้ Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License การอนุญาตให้ใช้ข้อความ เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ของสิ่งพิมพ์ ผู้ใช้ใดๆ เพื่ออ่าน ดาวน์โหลด คัดลอก แจกจ่าย พิมพ์ ค้นหา หรือลิงก์ไปยังบทความฉบับเต็ม รวบรวมข้อมูลเพื่อจัดทำดัชนี ส่งต่อเป็นข้อมูลไปยังซอฟต์แวร์ หรือใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมายอื่นใด แต่ห้ามนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์หรือด้วยเจตนาที่จะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจใดๆ





