การพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมการทำเกษตรอัจฉริยะแบบประณีตในพื้นที่เกษตรกรรม สำหรับนักเรียนโครงการอาชีวศึกษาเพื่อการพัฒนาชนบท

ผู้แต่ง

  • ชิษณุชา นวลปาน สาขาวิชาวิจัยและพัฒนาหลักสูตร คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม https://orcid.org/0009-0006-6367-9518
  • ณัฏฐชัย จันทชุม คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม https://orcid.org/0000-0003-4413-1806
  • ทิพาพร สุจารี คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม https://orcid.org/0000-0003-0411-5174

DOI:

https://doi.org/10.60027/iarj.2024.278204

คำสำคัญ:

การพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรม, การทำเกษตรอัจฉริยะ, แบบประณีตในพื้นที่เกษตรกรรม, อาชีวศึกษา, การพัฒนาชนบท

บทคัดย่อ

ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: ภาคการเกษตรเป็นรากฐานของคนไทยมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ด้วยปัจจัยที่เอื้อต่อการทำการเกษตรทำให้ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม แต่เกษตรกรโดยเฉพาะเกษตรกรรายย่อยมีข้อจำกัดด้านทุนทรัพย์ประกอบกับแนวโน้มทางเศรษฐกิจที่ผันผวน เกษตรกรมีรายรับไม่พอกับรายจ่าย เกิดปัญหาหนี้สิน ไม่สามารถปรับตัวได้ทันต่อกระบวนการผลิตที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว ปัจจัยเหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องได้รับการแก้ไข ผู้วิจัยเล็งเห็นถึงแนวทางแก้ปัญหาโดยการบูรณาการองค์ความรู้ทางวิชาการกับความรู้ทางการเกษตรโดยน้อมนำศาสตร์พระราชามาประยุกต์ใช้และดำรงตนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงและสามารถนำความรู้ไปสู่การปฏิบัติ ต่อยอดอาชีพ ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้ การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. ศึกษาข้อมูลพื้นฐานและความต้องการในการพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรม 2. พัฒนาหลักสูตรฝึกอบรม 3. นำหลักสูตรฝึกอบรมไปใช้ 4. ประเมินหลักสูตรฝึกอบรม

ระเบียบวิธีการวิจัย: การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา แบ่งเป็น 4 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 ศึกษาข้อมูลพื้นฐานและความต้องการในการฝึกอบรม ระยะที่ 2 พัฒนาหลักสูตรฝึกอบรม ระยะที่ 3 นำหลักสูตรฝึกอบรมไปใช้ และระยะที่ 4 ประเมินหลักสูตรฝึกอบรม กลุ่มตัวอย่างในระยะที่ 1 ได้แก่ นักเรียนโครงการอาชีวศึกษาเพื่อการพัฒนาชนบท วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีมหาสารคาม จำนวน 274 คน ใช้วิธีการสุ่มแบบง่าย และกลุ่มเป้าหมายในการสัมภาษณ์ จำนวน 17 คน ได้มาด้วยการเลือกแบบเจาะจง ระยะที่ 2 ออกแบบและร่างหลักสูตรด้วยการสังเคราะห์องค์ประกอบของหลักสูตรจากนักพัฒนาหลักสูตร ได้องค์ประกอบที่สำคัญ 7 องค์ประกอบ ประเมินความสอดคล้องและความเหมาะสมของหลักสูตรด้วยกระบวนการสัมมนาอ้างอิงผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 7 คน ระยะที่ 3 นำหลักสูตรไปใช้กับกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 30 คน คัดเลือกกลุ่มตัวอย่างด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบกลุ่ม ระยะที่ 4 ประเมินหลักสูตรจากผู้เข้ารับการฝึกอบรมและผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 39 คน เครื่องมือที่ใช้เก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์ แบบประเมินความสอดคล้องและความเหมาะสม แบบประเมินกิจกรรมและแบบทดสอบ แบบสอบถามความพึงพอใจ สถิติในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย สวนเบี่ยงเบนมาตรฐาน  

ผลการวิจัย: ผลการวิจัย พบว่า (1) สภาพปัจจุบันปัญหาโดยรวมมีปัญหาในระดับมาก และมีความต้องการพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมอยู่ในระดับมากที่สุด (2) การพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมประกอบด้วย 7 องค์ประกอบ 1) ความเป็นมาและความสำคัญของหลักสูตร 2) หลักการของหลักสูตร 3) จุดมุ่งหมายของหลักสูตร 4) เนื้อหาสาระของหลักสูตร 5) กิจกรรมการฝึกอบรม 6) สื่อประกอบการฝึกอบรม 7) การวัดและการประเมินผล  โดยความสอดคล้องของหลักสูตรฝึกอบรมทุกด้านอยู่ในระดับมาก และความเหมาะสมโครงร่างหลักสูตรฝึกอบรมทุกด้านอยู่ในระดับมาก (3) การนำหลักสูตรฝึกอบรมไปใช้ พบว่าผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีการเปลี่ยนแปลง 3 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านความรู้ ผู้เข้าอบรมมีคะแนนทดสอบหลังการฝึกอบรมสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 80 2) ด้านทักษะ ผู้อบรมมีคะแนนทดสอบหลังการฝึกอบรม ค่าเฉลี่ย 18.47 ส่วนค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 1.31 คิดเป็นร้อยละ 92.33 และ 3) ด้านเจตคติ จากแบบสังเกตพฤติกรรมผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความกระตือรือร้น ใฝ่เรียนรู้ ต้องการพัฒนาตัวเองและมีเจตคติที่ดีต่อการทำเกษตรโดยมองว่าภาคการเกษตรยังมีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ และมีความพึงพอใจต่อหลักสูตรฝึกอบรมอยู่ในระดับมากที่สุด (4) การประเมินหลักสูตรฝึกอบรม ตามความคิดเห็นของผู้ใช้หลักสูตรและผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 37 คน อยู่ในระดับมากที่สุด

สรุปผล: สภาพปัญหาโดยรวมมีปัญหาอยู่ในระดับมาก และความต้องการในการพัฒนาหลักสูตรการทำเกษตรอัจฉริยะแบบประณีตโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด โดยหลักสูตรฝึกอบรมการทำเกษตรอัจฉริยะแบบประณีตในพื้นที่เกษตรกรรม สำหรับนักเรียนโครงการอาชีวศึกษาเพื่อการพัฒนาชนบทประกอบด้วยองค์ประกอบ 7 องค์ประกอบที่มีความสอดคล้องและมีความเหมาะสม คะแนนจากแบทดสอบวัดผลการเรียนรู้หลังการฝึกอบรม ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีการพัฒนา 3 ด้าน ได้แก่ ด้านความรู้ ด้านทักษะ ด้านเจตคติ และความพึงพอใจต่อหลักสูตรฝึกอบรมโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด และผลการประเมินหลักสูตรฝึกอบรมยังยืนยันว่ามีคุณภาพทุกด้านอยู่ในระดับมากที่สุด

เอกสารอ้างอิง

เกียรติพงษ์ อุดมธนะธีระ. (2565). โลกยุคบานี่ (BANI World). Retrieved on 10 August 2023 from: https://www.iok2u.com/article/innovation/bani-world

โยธิน ศันสนยุทธ. (2540). มนุษย์สัมพันธ์: จิตวิทยาการงานในองค์การ. กรุงเทพฯ: ศูนย์ส่งเสริมวิชาการ.

ไพญาดา สังข์ทอง. (2558). การพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมเพื่อสร้างเสริมสมรรถนะใน การฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูของนิสิตหลักสูตรการศึกษาบัณฑิต สาขาวิชาพลศึกษา. ปริญญานิพนธ์การศึกษาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาสุขศึกษาและพลศึกษา), มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

กัลยา โสภณพนิช. (2566) . ดึง วษท. 49 แห่ง ทำเกษตรทฤษฎีใหม่ สร้างรายได้หลักแสน.. Retrieved on 10 January 2024 from: https://www.dailynews.co.th/news/2285276/

จีรพรรณ เบ้าบัวเงิน. (2566). การพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมเพื่อเพิ่มความสามารถในการจัดสอนภาษาอังกฤษสำหรับครูประถมศึกษา สังกัดองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นจังหวัดขอนแก่น. วารสารวิชาการและการวิจัยแบบสหวิทยาการ , 3 (5), 603–624.

ฉวีวรรณ สุวรรณาภา. (2559). ปัจจัยที่มีผลต่อการนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้ในชุมชนจังหวัดแพร่. Rajabhat journal of sciences, humanities& social sciences, 17(1), 180-189.

ดาริณี ปันกันสกุล. (2566). การพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมมัคคุเทศก์ตามเส้นทางท่องเที่ยวเชิงเกษตรวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี. วารสารวิชาการและการวิจัยแบบสหวิทยาการ , 4 (1), 566-584.

ธวัชชัย เพ็งพินิจ,ชวลิต สวัสดิ์ผล,นที เพชรสุทธิธนสารและ พิมพ์ชนก วัดทอง. (2562). “เกษตรประณีต::องค์ความรู้และการพัฒนาเกษตรกรต้นแบบองค์ความรู้และการพัฒนาเกษตรกรต้นแบบ,” วารสาร มจร พุทธปัญญาปริทรรศน์. 4(2), 209-224.

ธํารง บัวศรี. (2542). ทฤษฎีหลักสูตร: การออกแบบหลักสูตรและพัฒนา. กรุงเทพฯ: ธนรัช.

นันทิยา หุตานุวัตร และณรงค์ หุตานุวัตร. (2547). เกษตรกรรมยั่งยืน: กระบวนทัศน์ กระบวนการ และตัวชี้วัด. นนทบุรี: มูลนิธิเกษตรกรรมยั่งยืน (ประเทศไทย).

บุญเลี้ยง ทุมทอง. (2557). การพัฒนาหลักสูตร. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

บุญชม ศรีสะอาด. (2558). การพัฒนาหลักสูตรและการวิจัยเกี่ยวกับหลักสูตร. กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.

พระทองเทียร ใจกล้า. (2566). “การพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ในศตวรรษที่ 21 สำหรับครูผู้สอนในโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา,” วารสารวิชาการและการวิจัยแบบสหวิทยาการ, 3(6), 73–92.

พระธรรมปิฎก (ป.อ. ปยุตโต, 2548). การพัฒนาที่ยั่งยืน. พิมพ์ครั้งที่10. กรุงเทพฯ: มูลนิธิโกมล.

พระปลัดนนทณัฏฏ์ ศฤงคาร. (2564). การพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะการจัดการเรียนการสอนธรรมศึกษาตามแนวคิด เชิงรุก (Active Learning) สำหรับพระสอนศีลธรรม ระดับประถมศึกษา. วิทยานิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน: มหาวิทยาลัยศิลปากร.

พระสมรัก ญาณธีโร (สมรัก ตรงแก้ว). (2566). การพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมการอ่านและการเขียนอักษรขอมเบื้องต้น สำหรับพระสงฆ์, วารสารวิชาการและการวิจัยแบบสหวิทยาการ, 3(6), 73–92.

มูลนิธิชัยพัฒนา. (2019). ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง. Retrieved from: http://www.chaipat. or.th/site content/34-13/3579-2010-10-08-05-24-39.html.

ล้วน สายยศ และอังคณา สายยศ. (2543). เทคนิคการวัดผลการเรียนรู้. พิมพ์ครั้งที่ 2.กรุงเทพฯ : สุวีริยาสาส์น

วนิดา เขจรรักษ์ (2561). การพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมครูโดยใช้ทักษะบูรณาการภาษาอังกฤษ กับวิชาคณิตศาสตร์ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น. วิทยานิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาวิจัยและพัฒนาหลักสูตร: มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.

วิชัย วงษ์ใหญ่. (2537). กระบวนการพัฒนาหลักสูตรและการเรียนการสอนภาคปฏิบัติ. กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.

วิษณุ เครืองาม. (2560). การปาฐกถาพิเศษ ศาสตร์พระราชาคือศาสตร์แห่งแผ่นดิน. กรุงเทพฯ: สถาบัน พระปกเกล้า.

สงัด อุทรานันท์. (2532). พื้นฐานและหลักการพัฒนาหลักสูตร, พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ: มิตรสหาย.

สหพัฒน์ ทิพยมาศ, (2561). รายงานการประเมินโครงการพัฒนาทักษะอาชีพเพื่อการมีรายได้ระหว่างเรียนของนักเรียนโดยใช้กลยุทธ์ “พลังประชารัฐ”. สงขลา: โรงเรียนตะเครียะวิทยาคม.

สายยศ และอังคณา สายยศ, (2543). เทคนิคการวัดผลการเรียน. กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.

สำนักงานเกษตรและสหกรณ. (2563). สมาร์ทฟาร์เมอร์ Smart Farmer เกษตรอัจฉริยะ เพื่อเกษตรกรไทย. กรุงเทพฯ: สำนักงานเกษตรและสหกรณ์.

สิทธิพล อาจอินทร์. (2563). การพัฒนาหลักสูตร. พิมพ์ครั้งที่ 5. ขอนแก่น: โรงพิมพ์หาวิทยาลัยขอนแก่น.

สุเมธ ตันติเวชกุล. (2541). การดำเนินชีวิตในระบบเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริ. กรุงเทพฯ: สำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนา.

สุรางค์ โค้วตระกูล. (2541). จิตวิทยาการศึกษา. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

สุวัฒน์ วัฒนวงศ์. (2555). จิตวิทยาเพื่อการฝึกอบรมผู้ใหญ่. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

อุทัย อันพิมพ์. (2554). การจัดการความรู้เพื่อการทำเกษตรประณีตตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงเกษตรประณีต. วิทยานิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต: มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี.

Cronbach, L.J. (1951). Coefficient alpha and the internal structure of tests. Psychometrika, 16, 297–334. https://doi.org/10.1007/BF02310555

Grigg, D. (1995). An introduction to agricultural geography. 2nd ed. London: Routledge. companies create the dynamic of innovation. Oxford: Oxford University Press.

Hoy, K.W., & Miskel, C.G. (1991). Education Administration: Theory. Research and Practice. New York: McGraw-Hill.

Krejcie, R.V., & Morgan, D.W. (1970). Determining sample size for research activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607–610.

Oliva, F. (2009). Developing The Curriculum. 7th edition. Boston: Allyn and Bacon.

Saylor, G.J. William, M.A., & Arthur, J.L. (1981). Curriculum Planning for the Better Teaching and Learning. New York: Holt Rinehart and Winston

Saylor, J.G., & Alexander, W.M. (1974). Planning Curriculum for School. New York: Holt Rinehart and Winston.

Stufflebeam, D.L. (1972). Should or Can Evaluation Be Goal-Free? Evaluation Comment. The Journal of Educational Evaluation Center for the Study of Evaluation UCLA., 3, 4-5.

Taba, H. (1962). Curriculum Development: Theory and Practice. New York: Harcourt, Brace and World

Tyler, R.W. (1971). Basic principle of Curriculum and Instruction. Chigago: The University of Chigago Press.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2024-12-04

รูปแบบการอ้างอิง

นวลปาน ช. ., จันทชุม ณ. ., & สุจารี ท. . (2024). การพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมการทำเกษตรอัจฉริยะแบบประณีตในพื้นที่เกษตรกรรม สำหรับนักเรียนโครงการอาชีวศึกษาเพื่อการพัฒนาชนบท . Interdisciplinary Academic and Research Journal, 4(6), 101–126. https://doi.org/10.60027/iarj.2024.278204

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิชาการ