การพัฒนาสมรรถนะของบุคลากรสายงานผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบลในเขตจังหวัดนครพนม
DOI:
https://doi.org/10.60027/iarj.2024.278083คำสำคัญ:
การพัฒนาสมรรถนะ; , บุคลากรสายงานผู้บริหาร; , องค์การบริหารส่วนตำบลบทคัดย่อ
ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: สมรรถนะของผู้บริหารหมายถึงลักษณะพฤติกรรมเฉพาะที่จำเป็นสำหรับรัฐบาลท้องถิ่น ตำแหน่งผู้นำที่มีประสิทธิผลเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับบทบาทผู้บริหารในการชี้นำกลุ่มหรือผู้ใต้บังคับบัญชาเพื่อให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับเป้าหมายของหน่วยงานราชการส่วนท้องถิ่น การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาระดับสมรรถนะของบุคลากรสายงานผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบลในเขตจังหวัดนครพนม 2) เพื่อศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อสมรรถนะของบุคลากรสายงานผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบลในเขตจังหวัดนครพนม และ 3) เพื่อเสนอแนวทางการพัฒนาสมรรถนะของบุคลากรสายงานผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบลในเขตจังหวัดนครพนม
ระเบียบวิธีการวิจัย: การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่าง คือ พนักงานส่วนตำบลตำแหน่งสายงานผู้บริหาร สังกัดองค์การบริหารส่วนตำบลในเขตจังหวัดนครพนม จำนวน 81 แห่ง จำนวน 413 คน กำหนดระดับความเชื่อมั่นที่ร้อยละ 95 และกำหนดความคลาดเคลื่อนที่ยอมรับได้ .05 โดยวิธีในการหาขนาดกลุ่มตัวอย่างโดยใช้สูตรของทาโร่ ยามาเน่ ได้เท่ากับ 204 ตัวอย่าง จากนั้นทำการสุ่มตัวอย่างโดยเลือกวิธีการสุ่มแบบชั้นภูมิและการสุ่มอย่างง่ายจากแต่ละองค์การบริหารส่วนตำบล จนครบจำนวนตามที่กำหนด เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถาม มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.94 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ โดยกำหนดค่านัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
ผลการวิจัย (1) ระดับสมรรถนะของบุคลากรสายงานผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบลในเขตจังหวัดนครพนม โดยรวมอยู่ในระดับสูง (2) ปัจจัยที่ส่งผลต่อสมรรถนะของบุคลากรสายงานผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบลในเขตจังหวัดนครพนม ได้แก่ ด้านประสบการณ์ในการครองตำแหน่งสายงานผู้บริหาร ด้านความรู้ และด้านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี มีอำนาจในการพยากรณ์ ร้อยละ 34.90 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ (3) ข้อเสนอแนวทางการพัฒนาสมรรถนะของบุคลากรสายงานผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบลในเขตจังหวัดนครพนม พบว่าด้านการเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลง ควรเรียนรู้และปรับตัวเข้าใจในการเปลี่ยนแปลงในยุคสมัยปัจจุบัน สามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ด้านความสามารถในการเป็นผู้นำ ควรประพฤติตนให้เหมาะสมกับการเป็นผู้นำ และเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ผู้ใต้บังคับบัญชา สร้างคุณค่าให้น่าเชื่อถือ ด้านความสามารถในการพัฒนาคน ควรเปิดโอกาสและส่งเสริมให้บุคลากรได้รับการเพิ่มพูนความรู้ในงานที่ปฏิบัติและรับผิดชอบ เช่น การฝึกอบรมในหลักสูตรที่เกี่ยวข้อง การจัดประชุมสัมมนาศึกษาดูงาน หรือการส่งเสริมการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น และด้านการคิดเชิงกลยุทธ์ ควรมีความรู้ความเข้าใจอย่างถ่องแท้ในเรื่องต่าง ๆ และสามารถวิเคราะห์ภาพรวมในการปฏิบัติงาน และสามารถถ่ายทอดองค์ความรู้ความเข้าใจในแนวทางปฏิบัติให้ผู้ใต้บังคับบัญชาได้เข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อให้การปฏิบัติงานบรรลุตามวิสัยทัศน์และเป้าหมายขององค์กรได้
สรุปผล: ผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่าบุคลากรระดับบริหารในองค์การบริหารส่วนตำบลจังหวัดนครพนมแสดงความสามารถสูง ความสามารถนี้ส่วนใหญ่ได้รับอิทธิพลจากประสบการณ์ ความรู้ และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี การศึกษานี้ได้แนะนำวิธีการเพิ่มขีดความสามารถ รวมถึงโอกาสในการพัฒนามนุษย์ การคิดเชิงกลยุทธ์เพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์และเป้าหมายขององค์กร และการเปลี่ยนแปลงความเป็นผู้นำ
เอกสารอ้างอิง
กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น. (2557). คู่มือการกำหนดสมรรถนะสำหรับข้าราชการส่วนท้องถิ่น. กรุงเทพฯ : กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น.
เกษรา โชติช่วง. (2554). การพัฒนาสมรรถนะของบุคลากรส่วนการคลังในเขตอำเภอเมือง จังหวัดยะลา. วิทยานิพนธ์รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต : มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
ณัญศรัณย์ ชุมวรฐายี (2560). การพัฒนาสมรรถนะของนักบริหารและพัฒนาเมืองตามความต้องการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น : ศึกษากรณีจังหวัดปทุมธานี. วารสารวิจัยราชภัฏพระนคร สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์. 12 (1), 50-63.
ณัฐรัตน์ ผดุงถิ่น และจันทรัศม์ ภูติอริยวัฒน์. (2565). ปัจจัยส่วนบุคคลและปัจจัยแรงจูงใจที่ส่งผลต่อสมรรถนะของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครปฐมและสุพรรณบุรี. วารสารศิลปากรศึกษาศาสตร์วิจัย, 14(2), 126-142.
ณัฐศรัณย์ ชุมวรฐายี. (2560). การพัฒนาสมรรถนะของนักบริหารและพัฒนาเมืองตามความต้องการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น : ศึกษากรณีจังหวัดปทุมธานี. วารสารวิจัยราชภัฏพระนคร, 12(1), 50-63.
ประดิษฐ์ ดีวัฒนกุล, ไพบูลย์ ช่างเรียน, และติน ปรัชญพฤทธิ์. (2563). สมรรถนะของผู้บริหารและการพัฒนาทรัพยากรบุคคลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรุงเทพมหาคร. วารสาร มจร พุทธปัญญาปริทรรศน์, 5(2), 174-189.
พชรวิทย์ จันทร์ศิริสิร. (2554). การพัฒนาสมรรถนะทางการบริหาร. มหาสารคาม : มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
พระอุทัย จารุธมฺโม (แก่นจำปา), สาโรช เผือกบัวขาว และพนิต ศรีประดิษฐ์. (2566). แนวทางการพัฒนาสมรรถนะการบริหารงานตามหลักอิทธิบาท 4 ขององค์การบริหารส่วนตำบลพลับพลาไชย อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฎเพชรบุรี, 11(1), 42-51.
พันธุ์พรหม รังสิธารานนท์. (2558). การพัฒนาสมรรถนะฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ในบริษัทกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน. วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต : มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
พิชิต เทพวรรณ์. (2554). การจัดการทรัพยากรมนุษย์เชิงกลยุทธ์ : แนวคิดและกลยุทธ์เพื่อความได้เปรียบทางการแข่งขัน. กรุงเทพฯ : ซีเอ็ดยูเคชั่น.
รมิดา ชาธิรัตน์. (2560). สมรรถนะหลักการปฏิบัติงานของพนักงานเทศบาลในเขตอำเภอเมืองจังหวัดกาฬสินธุ์. งานวิจัยสถาบันวิจัยและพัฒนา : มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.
วิลาวรรณ รพีพิศาล. (2554). การบริหารทรัพยากรมนุษย์. พิมพ์ครังที่ 3. กรุงเทพฯ : วิจิตรหัตถกร.
วีระนันท์ มนตรี, สุเมธ งามกนก และสมพงษ์ ปั้นหุ่น. (2563). ปัจจัยที่ส่งผลต่อสมรรถนะการบริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 2. วารสารการศึกษาและการพัฒนาสังคม, 15(2), 364-376.
สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดนครพนม. (2566). กรอบอัตรากำลังข้าราชการส่วนท้องถิ่นจังหวัดนครพนม ประจำปี 2566. กลุ่มงานบริหารงานบุคคล : นครพนม.
สุจินต์ สิทธิวิภัทร. (2565). ประสิทธิผลการพัฒนาสมรรถนะข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี. วารสารนวัตกรรมการศึกษาในอนาคต, 1(1), 40-46.
Spencer, L.M., & Spencer, S.M. (1993). Competence at Work Models for Superior Performance. John Wiley & Sons, Inc.
Yamane, T. (1973). Statisties: An Introductory Analysis. 3rd Edition. New York Harper and Row Publications.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2024 Interdisciplinary Academic and Research Journal

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ลิขสิทธิ์ในบทความใดๆ ใน Interdisciplinary Academic and Research Journal ยังคงเป็นของผู้เขียนภายใต้ ภายใต้ Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License การอนุญาตให้ใช้ข้อความ เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ของสิ่งพิมพ์ ผู้ใช้ใดๆ เพื่ออ่าน ดาวน์โหลด คัดลอก แจกจ่าย พิมพ์ ค้นหา หรือลิงก์ไปยังบทความฉบับเต็ม รวบรวมข้อมูลเพื่อจัดทำดัชนี ส่งต่อเป็นข้อมูลไปยังซอฟต์แวร์ หรือใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมายอื่นใด แต่ห้ามนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์หรือด้วยเจตนาที่จะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจใดๆ





