มาตรการทางกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองทารกในครรภ์มารดาที่ติดยาเสพติด
DOI:
https://doi.org/10.60027/iarj.2024.277911คำสำคัญ:
ทารกในครรภ์; , มารดาที่ติดยาเสพติด; , หลักสนับสนุนชีวิต; , หลักสนับสนุนทางเลือกบทคัดย่อ
ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: สุขภาพของทารกในครรภ์ของมารดาที่ติดยาเสพติดจะส่งผลต่อทารกในครรภ์ ผลการวิจัยทางการแพทย์ชี้ให้เห็นว่ายากระตุ้นให้เกิดอาการทางจิตในทารกในครรภ์ ส่งผลต่อสมองและระบบประสาท ส่งผลให้เกิดการคลอดก่อนกำหนด ความไร้ความสามารถ และความบกพร่องทางร่างกายหรือจิตใจ รวมถึงการแท้งบุตรหรือเสียชีวิต ความเชื่อในชีวิตจริงถือว่าทารกควรได้รับการปกป้องในขณะที่ยังอยู่ในตัวแม่ ดังนั้นการวิจัยนี้มีวัตถุประสงเพื่อ 1) เพื่อศึกษาหลักการ และแนวคิดเกี่ยวกับการคุ้มครองทารกในครรภ์มารดาที่ติดยาเสพติด 2) เพื่อศึกษากฎหมายระหว่างประเทศ กฎหมายต่างประเทศและกฎหมายไทยที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองทารกในครรภ์มารดาที่ติดยาเสพติด 3) เพื่อศึกษาวิเคราะห์ปัญหาทางกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองทารกในครรภ์มารดาที่ติดยาเสพติด 4) เพื่อเสนอแนวทางแก้ไขปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองทารกในครรภ์มารดาที่ติดยาเสพติด
ระเบียบวิธีการวิจัย: การวิจัยนี้ ดำเนินการวิจัยเชิงคุณภาพ ด้วยการวิจัยเอกสาร คือ กฎหมายไทย กฎหมายต่างประเทศและกฎหมายระหว่างประเทศ พร้อมทั้งศึกษาจากคำพิพากษา ตำรา หนังสือ วิทยานิพนธ์ ดุษฎีนิพนธ์ บทความ วารสารออนไลน์ หนังสือพิมพ์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์และเว็บไซต์ นอกจากนี้ได้ทำการศึกษาข้อมูลภาคสนามด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึก จากประชากรผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญประชากรสัมภาษณ์เชิงลึกแบบเฉพาะเจาะจง โดยจะทำการสัมภาษณ์ประชากรที่มีส่วนที่เกี่ยวข้องเป็นกลุ่ม คือ กลุ่มผู้บังคับใช้กฎหมาย จำนวน 3 คน กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ จำนวน 4 คน กลุ่มนักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ จำนวน 3 คน แล้วนำข้อมูลทั้งหมดมาวิเคราะห์และสังเคราะห์ตามกระบวนการวิจัยแล้วบรรยายเชิงพรรณนา
ผลการวิจัย (1) หลักการและแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองทารกในครรภ์มารดาที่ติดยาเสพติดมีสองแนวคิด ได้แก่ แนวคิดภายใต้ปรัชญากฎหมายธรรมชาติ ที่สนับสนุนชีวิต (Pro - Life) โดยเห็นว่าทารกในครรภ์มารดาย่อมได้รับการคุ้มครองตามหลักสิทธิมนุษยชน ส่วนแนวคิดที่สองเป็นแนวคิดภายใต้สำนักกฎหมายบ้านเมือง ที่เห็นว่าทารกในครรภ์มารดายังไม่มีสถานะบุคคลตามกฎหมาย มารดาเท่านั้นที่มีสิทธิเลือกตามหลักสนับสนุนทางเลือก (Pro - choice) (2) จากการศึกษาเปรียบเทียบกฎหมายไทยและต่างประเทศเกี่ยวกับการคุ้มครองทารกในครรภ์มารดาที่ติดยาเสพติด พบว่า สาธารณรัฐฝรั่งเศสไม่ให้การรับรองสถานะบุคคลของทารกในครรภ์มารดาและมีแนวโน้มที่สนับสนุนหลัก (Pro - choice) เช่นเดียวกับประเทศไทย แต่กฎหมายของสหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ยึดหลักสนับสนุนชีวิต (Pro-life) หรือ “Born Alive Rule” ทำให้ทารกในครรภ์มารดาได้รับการคุ้มครองตามหลักสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกฎหมายของสหรัฐอเมริกา มีการตรากฎหมายคุ้มครองทารกในครรภ์มารดาที่เสพยาเสพติดอย่างเฉพาะเจาะจง (3) ประเทศไทยมีปัญหาทางกฎหมายเกี่ยวกับทารกในครรภ์มารดาที่ติดยาเสพติดที่สำคัญ 4 ประการ คือ ประการที่หนึ่ง การไม่มีสถานะบุคคลของทารกในครรภ์ส่งผลให้ไม่ได้รับการคุ้มครองตามหลักสิทธิมนุษยชน ประการที่สอง ความไม่สมดุลของกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิของมารดาในรัฐธรรมนูญสอดคล้องกับแนวคิดสนับสนุนทางเลือก (Pro - choice) แต่ขัดกับแนวคิดสนับสนุนชีวิต (Pro-life) ประการที่สาม สิทธิของแพทย์ที่จะตรวจสุขภาพของทารกในครรภ์ขัดต่อสิทธิของมารดาที่ได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญและไม่มีกฎหมายคุ้มครองแพทย์ ประการที่สี่ ประเทศไทยไม่มีกฎหมายคุ้มครองทารกในครรภ์มารดาอย่างเฉพาะเจาะจง ผู้วิจัยจึงได้เสนอแนะ ให้ปรับปรุงกฎหมายเพื่อคุ้มครองทารกในครรภ์มารดาที่ติดยาเสพติด ตามหลัก ( Pro - Life) โดยเสนอแก้ไขพระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550 และเสนอร่างกฎกระทรวง เรื่อง มาตราการทางการแพทย์ในการตรวจรักษาทารกในครรภ์มารดาที่ติดยาเสพติด พ.ศ. ... เพื่อให้การคุ้มครองการมีชีวิต คุ้มครองสุขภาพ ทารกในครรภ์มารดที่ติดยาเสพติด และคุ้มครองแพทย์ ทั้งนี้ ภายใต้หลักปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ
สรุปผล: แนวคิดสนับสนุนชีวิต (Pro-life) ซึ่งสนับสนุนสิทธิของทารกในครรภ์ตามหลักสิทธิมนุษยชน และแนวคิดสนับสนุนทางเลือก (Pro - choice) ซึ่งให้ความสำคัญกับสิทธิของมารดาและไม่ยอมรับบุคลิกภาพทางกฎหมายของทารกในครรภ์ เป็นหลักการที่ขัดแย้งกัน 2 ประการเกี่ยวกับการคุ้มครองทารกในครรภ์ที่ติดยา- คุณแม่ที่ติดยาเสพติด หลักการเหล่านี้ถูกเน้นในการศึกษานี้ โดยชี้ให้เห็นว่าประเทศไทยมีมาตรการส่งเสริมชีวิต เช่น การเปลี่ยนแปลงพระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติและการออกกฎใหม่ เพื่อปกป้องทารกในครรภ์และบุคลากรทางการแพทย์ที่ปฏิบัติต่อพวกเขา
เอกสารอ้างอิง
กรมราชทัณฑ์ (2565), สถิติผู้ต้องขังกลุ่มพิเศษ ประจำปี พ.ศ.2565. Retrieved from: https://opendata.nesdc.go.th/dataset/statistics-of-special-groups-of-prisoners.
กุลธิดา ศรีวิเชียร. (2563). การขับเคลื่อนนโยบายสิทธิทางด้านสุขภาพของเด็กติดผู้ต้องขังหญิงในประเทศไทย. วารสารสังคมสงเคราะห์ศาสตร์, 28 (1), 25-62.
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ. (2550). ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน Universal Declaration of Human Rights, กรุงเทพมหานคร: สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ,
จุฑารัตน์ ชัยวีรพันธ์เดช และสิวิลักษณ์ กาญจนบัตร (2559), ผลกระทบต่อทารกจากมารดาที่ใช้สารเมทแอมเฟตามีนก่อนคลอด. วชิรเวชสารและวารสารเวชศาสตร์เขตเมือง, 60(1), 53-64
นิตยา จงแสง (2559), การรับรองคุ้มครองศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ : ศึกษากรณีการกำหนดสถานะของสภาพบุคคล. วิทยานิพนธ์นิติศาสตรมหาบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
วิภาพร เนติจิรโชติ. (2559). มาตรการที่เหมาะสมทางกฎหมายกับการทำแท้ง. ดุษฎีนิพนธ์ดุษฎีบัณฑิต คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
สำนักบริหารการสาธารณสุข สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณะสุข กระทรวงสาธารณสุข. (2557). คู่มือช่วยเหลือผู้หญิงตั้งครรภ์ไม่พร้อมของศูนย์พึ่งได้. หนังสืออิเล็กทรอนิกส์. สำนักบริหารการสาธารณสุข สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณะสุข
Nabundhit, S., Wongpornpavan, C., Thongpan, S., & Leeka, J. (2021). A PHILOSOPHY OF THE NATURAL LAW WHICH INFLUENCE ON THE CONSTITUTION OF THE KINGDOM OF THAILAND B.E.2560. Journal of Graduate MCU KhonKaen Campus, 8(4), 160–173. Retrieved from https://so02.tci-thaijo.org/index.php/jg-mcukk/article/view/252592
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2024 Interdisciplinary Academic and Research Journal

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ลิขสิทธิ์ในบทความใดๆ ใน Interdisciplinary Academic and Research Journal ยังคงเป็นของผู้เขียนภายใต้ ภายใต้ Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License การอนุญาตให้ใช้ข้อความ เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ของสิ่งพิมพ์ ผู้ใช้ใดๆ เพื่ออ่าน ดาวน์โหลด คัดลอก แจกจ่าย พิมพ์ ค้นหา หรือลิงก์ไปยังบทความฉบับเต็ม รวบรวมข้อมูลเพื่อจัดทำดัชนี ส่งต่อเป็นข้อมูลไปยังซอฟต์แวร์ หรือใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมายอื่นใด แต่ห้ามนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์หรือด้วยเจตนาที่จะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจใดๆ





