การพัฒนาการบริหารจัดการแหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่นบูรณาการแบบองค์รวมเขตลุ่มน้ำจาง อำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง
DOI:
https://doi.org/10.60027/iarj.2024.277087คำสำคัญ:
การบริหารจัดการ; , แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น; , บูรณาการแบบองค์รวมบทคัดย่อ
ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: การส่งเสริมแนวทางการศึกษาและการพัฒนาชุมชนอย่างครอบคลุมและมีการประสานงานจำเป็นต้องมีการจัดการแบบบูรณาการแบบองค์รวม ศูนย์เหล่านี้สามารถตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้เรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต และสนับสนุนความยั่งยืนและความเป็นอยู่ที่ดีโดยทั่วไปของชุมชนท้องถิ่นโดยการบูรณาการทรัพยากรและบริการที่หลากหลาย ดังนั้นการวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสถานประกอบการในชุมชนที่เอื้อต่อการเรียนรู้ในท้องถิ่น และ 2) เพื่อบริหารจัดการบุคลากรในสถานประกอบการให้เป็นกัลยาณมิตรต่อการเรียนรู้ในท้องถิ่น
ระเบียบวิธีการวิจัย: กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ บุคลากรในสถานประกอบการที่เป็นแหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น เขตตำบลบ้านกิ่ว ตำบลแม่ทะ ตำบลนาครัว และตำบลป่าตัน จำนวน 20 คน ดำเนินการวิจัยแบบผสม โดยเชิงปริมาณมีการเก็บรวมรวมข้อมูลจากแบบสอบถามและเชิงคุณภาพเป็นการสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่าง ใช้กระบวนการมีส่วนร่วม PAR (Participatory process ) และเสริมทักษะในการวิจัยโดยกระบวนการโค้ช เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ 1) แบบสอบถามข้อมูลทั่วไป 2) แบบสัมภาษณ์เชิงลึก และ 3) แบบสอบถามเกี่ยวกับการพัฒนาบุคลากรในสถานประกอบการให้เป็นกัลยาณมิตรต่อการเรียนรู้ในท้องถิ่น
ผลการวิจัย: พบว่า 1) สถานประกอบการในชุมชนที่เอื้อต่อการเรียนรู้ในท้องถิ่น ด้านบุคลากรในสถานประกอบการที่เป็นแหล่งเรียนรู้ส่วนใหญ่เป็นหญิง อยู่ในช่วงอายุ 40-49 ปี มีระดับการศึกษาต่ำกว่า ม.3 ด้านข้อมูลสภาพทั่วไปของสถานประกอบการส่วนใหญ่เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านผลิตภัณฑ์จากชุมชน เป็นแหล่งเรียนรู้ทางเกษตรกรรมและเป็นศาสนสถาน ด้านสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นในแหล่งเรียนรู้ ได้แก่ ด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การฝึกการใช้ภาษาและการพูด การประชาสัมพันธ์แหล่งเรียนรู้ การถ่ายทอดองค์ความรู้จากรุ่นสู่รุ่น รูปแบบการส่งเสริมกิจกรรมในแหล่งเรียนรู้จากหน่วยงานราชการหรือเอกชน และการส่งเสริมช่องทางการตลาด ด้านการสนับสนุนจากหน่วยงานภาคราชการคือการดำเนินการในรูปแบบโครงการพัฒนาทักษะและอาชีพในสถานประกอบการ ได้แก่ โครงการอบรมให้ความรู้และส่งเสริมการปลูกผักปลอดสารพิษ โครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนให้มีคุณภาพและมีมาตรฐาน โครงการส่งเสริมอาชีพการจักสานไม้ไผ่ โครงการส่งเสริมกลุ่มดอกไม้ประดิษฐ์ โครงการประชาสัมพันธ์และเผยแพรข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวในตำบล 2) การพัฒนาบุคลากรในสถานประกอบการให้เป็นกัลยาณมิตรต่อการเรียนรู้ในท้องถิ่น พบว่า 2.1) บุคลากรมีกระบวนการเรียนรู้ในสถานประกอบการที่เป็นแหล่งเรียนรู้ภาพรวมอยู่ในระดับมาก ข้อที่มีค่าเฉลี่ยในระดับสูงที่สุดคือ การเรียนรู้จากรุ่นสู่รุ่น 2.2) บุคลากรมีส่วนร่วมในสถานประกอบการที่เป็นแหล่งเรียนรู้ ภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง ข้อที่มีค่าเฉลี่ยในระดับสูงที่สุดคือ มีส่วนร่วมในการให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานประกอบการที่เป็นแหล่งเรียนรู้ 2.3)บุคลากรมีศักยภาพในการบริหารจัดการสถานประกอบการที่เป็นแหล่งเรียนรู้ ภาพรวมอยู่ในระดับมาก ข้อที่มีค่าเฉลี่ยในระดับสูงที่สุดคือ แนะนำสถานประกอบการที่เป็นแหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น 2.4)บุคลากรได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาพรวมอยู่ในระดับมากข้อที่มีค่าเฉลี่ยในระดับสูงที่สุดคือ ประชาสัมพันธ์ให้คนในชุมชนตระหนักถึงคุณค่า และสืบทอดองค์ความรู้ในสถานประกอบการที่เป็นแหล่งเรียนรู้ และ 2.5)การบริหารจัดการแหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่นบูรณาการแบบองค์รวม ควรประกอบไปด้วยความร่วมมือของ 3 ภาคีได้แก่ภาคราชการ ภาควิชาการและภาคประชาชน โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของชุมชน การพัฒนาศักยภาพของบุคลากรและการจัดการทรัพยากรในชุมชน
สรุปผล: 1. สถานประกอบการในชุมชนที่เอื้อต่อการเรียนรู้ในท้องถิ่นส่วนใหญ่เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านผลิตภัณฑ์จากชุมชน เกษตรกรรมและเป็นศาสนสถาน 2.การพัฒนาบุคลากรในสถานประกอบการให้เป็นกัลยาณมิตรต่อการเรียนรู้ในท้องถิ่นเป็นดังนี้1) บุคลากรมีกระบวนการเรียนรู้ในสถานประกอบการที่เป็นแหล่งเรียนรู้ในระดับมาก 2) บุคลากรมีส่วนร่วมในสถานประกอบการที่เป็นแหล่งเรียนรู้ในระดับปานกลาง 3)บุคลากรมีศักยภาพในการบริหารจัดการสถานประกอบการที่เป็นแหล่งเรียนรู้ในระดับมาก 4)บุคลากรได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานในระดับมาก และ 5)การบริหารจัดการแหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่นบูรณาการแบบองค์รวม 3 ภาคีได้แก่ภาคราชการ ภาควิชาการและภาคประชาชน
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ (2547). การใช้แหล่งเรียนรู้ในโรงเรียนและชุมชน. กรุงเทพฯ: , สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน..
คัชพล จั่นเพชร และพิทักษ์ ศิริวงศ์. (2560). การบูรณาการทุนทางวัฒนธรรมสู่การเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ด้วยกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชน:กรณีศึกษา ชุมชนบ้านชากแง้ว อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี. Journal of Community Development Research (Humanities and Social Sciences), 10(1), 111-121.
ชัชวาลย์ วงษ์ประเสริฐ. (2557). การจัดการความรู้ในองค์กรธุรกิจ. กรุงเทพฯ : เอ็กซเปอร์เน็ท.
ฐิติวัฒน์ เพชรถิรสวัสดิ์ (2566). กระบวนการถ่ายทอดภูมิปัญญาเพื่อการพึ่งพาตนเองของชาวบ้าน ตำบลภูเขาทอง อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา. วารสาร มจร การพัฒนาสังคม. 8(1), 341-356.
ทัศน์พล ชื่นจิตต์, ไอลดา มณีกาศ และณัฐธิดา ดวงแก้ว. (2566).การพัฒนาแหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อการจัดการเรียนรู้ตามอัธยาศัยของกลุ่มชาติพันธุ์ขมุบนพื้นที่สูง จังหวัดเชียงราย. วารสารสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา. 8(2), 47-60.
นงเยาว์ อุทุมพร (2561). การบริหารจัดการแหล่งเรียนรู้ของชุมชนตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อนำไปใช้บูรณาการในการจัดการเรียนรู้ในสถานศึกษาอย่างยั่งยืน อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ. กรุงเทพมหานคร : คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี.
ปรีชา ธนะวิบูลย์ และนงเยาว์ อุทุมพร. (2562). การบริหารจัดการแหล่งเรียนรู้ที่เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นในชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยาสายเก่าเพื่อใช้ในการศึกษาอย่างยั่งยืน. กรุงเทพมหานคร : คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี.
วิจารณ์ พานิช. (2555). วิถีสร้างการเรียนรู้เพื่อศิษย์ในศตวรรษที่ 21. กรุงเทพฯ : มูลนิธิสด ศรีสฤษดิ์วงศ์.
สุเทพ อ่วมเจริญ. (2557).การพัฒนาหลักสูตร : ทฤษฎีและการปฏิบัติ.พิมพ์ครั้งที่ 6. นครปฐม : โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์.
Brown, E. (2019). "Utilizing Local Learning Resources: The Role of Museums in Education."Journal of Cultural Heritage Studies, 12 (3), 211-228.
Cohen , J.M., & Uphoff, N.T. (1981). Rural Development Participation: Concept And Measures for Project Design Implementation and Evaluation. Ithaca, NY: Rural Development Committee Center for International Studies, Cornell University.
Erwin, W. (1976). Participation Management: Concept, Theory, and Implementation. Atlanta, GA: Georgia State University.
Gustavo, W.C. (1992). The Meaning of Participation. In Brand, Peter.
Jarolimek, N.Y. (1969). Social Studies in Elementary Education. 3rd edition. New York: The Macmillan Company.
Oakley, P., & Marsden, D. (1986). Approaches to participation in rural development. Geneva: Switzerland.
Ramirez, E.C. (1954). Some Community School Practices. Quezon City: National Printing.
Whang, I.J. (1981). Management of rural change in Korea: The Saemaul Undong. Seoul: Seoul National University Press.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2024 Interdisciplinary Academic and Research Journal

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ลิขสิทธิ์ในบทความใดๆ ใน Interdisciplinary Academic and Research Journal ยังคงเป็นของผู้เขียนภายใต้ ภายใต้ Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License การอนุญาตให้ใช้ข้อความ เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ของสิ่งพิมพ์ ผู้ใช้ใดๆ เพื่ออ่าน ดาวน์โหลด คัดลอก แจกจ่าย พิมพ์ ค้นหา หรือลิงก์ไปยังบทความฉบับเต็ม รวบรวมข้อมูลเพื่อจัดทำดัชนี ส่งต่อเป็นข้อมูลไปยังซอฟต์แวร์ หรือใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมายอื่นใด แต่ห้ามนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์หรือด้วยเจตนาที่จะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจใดๆ





