การสร้างแบบวัดทักษะการวิจัยสำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย

ผู้แต่ง

  • สันติสุข สดใสญาติ ภาควิชาการประเมินและการวิจัย คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง https://orcid.org/0009-0007-5373-7654
  • กมลทิพย์ ศรีหาเศษ ภาควิชาการประเมินและการวิจัยการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง https://orcid.org/0000-0002-4381-6128
  • ดารุณี ทิพยกุลไพโรจน์ ภาควิชาการประเมินและการวิจัย คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง https://orcid.org/0000-0002-4874-2607

DOI:

https://doi.org/10.60027/iarj.2024.277004

คำสำคัญ:

ทักษะการวิจัย; , แบบวัดทักษะ; , คะแนนจุดตัด

บทคัดย่อ

ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: ทักษะการวิจัยเป็นทักษะสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถและพฤติกรรมบ่งชี้ของการเป็นนักวิจัยและใช้กระบวนการวิจัยได้ถูกต้อง และยังแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการค้นคว้าและแสวงหาคำตอบในสิ่งที่สงสัยเพื่อสร้างองค์ความรู้ใหม่ หากผู้เรียนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานได้รับการส่งเสริมให้มีทักษะการวิจัยจะส่งผลให้การศึกษาในระดับที่สูงขึ้นมีประสิทธิภาพ ซึ่งปัญหาในการศึกษาทักษะการวิจัยในนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาคือการขาดแบบวัดทักษะการวิจัยสำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาที่มีคุณภาพ บทความวิจัยนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) สร้างแบบวัดทักษะการวิจัยสำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย และ (2) สร้างคะแนนจุดตัดที่ใช้ในการแปลความหมายแบบวัดทักษะการวิจัยสำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย

ระเบียบวิธีการวิจัย: กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานนทบุรี จำนวน 716 คน ใช้วิธีการสุ่มแบบหลายขั้นตอน และสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ประกอบด้วย ค่าเฉลี่ย ร้อยละ และส่วนเบียงเบนมาตรฐาน

ผลการวิจัย: 1) แบบวัดทักษะการวิจัยมีค่าความตรงเชิงเนื้อหาอยู่ระหว่างช่วง 0.67-1.00 มีค่าความเที่ยง เท่ากับ .96 มีค่าความยากอยู่ระหว่างช่วง .88-.98 และมีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่างช่วง .28-.58 และ 2) กำหนดคะแนนจุดตัดในการพิจารณาผลการวัดทักษะการวิจัยที่ร้อยละ 80 โดยผลการพิจารณามี 2 ระดับ ดังนี้ 2.1) ระดับที่ 1 การพิจารณาในภาพรวม พบว่า นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายที่มีคะแนนผ่านคะแนนจุดตัด คิดเป็นร้อยละ 90.50 และ 2.2) ระดับที่ 2 การพิจารณารายทักษะ พบว่า ทักษะการวิจัยที่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายมีคะแนนทักษะสูงสุด คือ การกำหนดประเด็นวิจัย และการเขียนรายงานการวิจัยและนำเสนอผลการวิจัยโดยทั้งสองทักษะมีจำนวนนักเรียนที่มีคะแนนผ่านคะแนนจุดตัดทักษะ คิดเป็นร้อยละ 90.22 ส่วนการเผยแพร่งานวิจัยและการนำผลการวิจัยไปใช้ มีจำนวนนักเรียนที่มีคะแนนผ่านคะแนนจุดตัดน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับทักษะด้านอื่น ๆ คิดเป็นร้อยละ 85.57

สรุปผล: ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่าแบบวัดทักษะการวิจัยที่สร้างขึ้นมีคุณภาพสามารถนำไปใช้เป็นเครื่องมือกลางในการวัดทักษะการวิจัยของผู้เรียนที่ทำให้ทราบถึงทักษะการวิจัยของผู้เรียนแต่ละคน และนำผลที่ได้จากการวัดทักษะนำไปส่งเสริม ต่อยอด และพัฒนาทักษะการวิจัยให้เกิดแก่ผู้เรียนมากยิ่งขึ้นต่อไป

เอกสารอ้างอิง

กนกอร พันธุ์ไพโรจน์. (2559). การศึกษาทักษะการวิจัยของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบวิจัยเป็นฐาน เรื่อง วิธีการพิสูจน์เบื้องต้น. วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี.

กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.

กุลชาติ พันธุวรกุล และ เมษา นวลศรี. (2564). ความต้องการจำเป็นในการพัฒนาสมรรถนะด้านการวิจัยในชั้นเรียนของครูปฐมวัยสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดปทุมธานี. วารสารวไลยอลงกรณ์ปริทัศน์, 11(3), 1-17.

ดนิตา ดวงวิไล. (2564). การจัดการเรียนรู้รายวิชาการผลิตสื่อการสอนวิชาภาษาไทยโดยใช้การวิจัยเป็นฐานที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการวิจัยของนิสิตระดับปริญญาตรีสาขาวิชาภาษาไทย. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์มหาวิทยาลัยนครพนม, 11(2), 272-286.

ดวงพร เขียวพระอินทร์. (2560). การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาชีววิทยาและทักษะการวิจัยของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่จัดการเรียนรู้โดยใช้การวิจัยเป็นฐานร่วมกับแนวคิดการกลับด้านชั้นเรียน.วารสารอิเล็กทรอนิกส์ Veridian มหาวิทยาลัยศิลปากร, 10(2), 392-408.

ทิพย์สิริ กาญจนวาสี และ ศิริชัย กาญจนวาสี. (2564). วิธีวิทยาการวิจัย. พิมพ์ครั้งที่ 4. สำนักพิมพ์ทันใจ.

พวงผกา ปวีณบำเพ็ญ. (2560). การจัดการเรียนรู้โดยใช้วิจัยเป็นฐาน. ศึกษาศาสตร์สาร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, 1(2), 62-71.

พิชิต ฤทธิ์จรูญ. (2556). หลักการวัดและประเมินผลการศึกษา. พิมพ์ครั้งที่ 8. บริษัท เฮ้าส์ ออฟ เคอร์มิสท์ จำกัด.

พิมพ์ปวีณ์ สุวรรณโณ , พิมลพรรณ ลีลาภัทรพันธุ์, อรวรรณ กมล. (2564). การวิจัยประเมินความต้องการจำเป็นด้านสมรรถนะการวิจัยเชิงพื้นที่ของนักศึกษาวิชาชีพครู มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา.วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา.16 (3), 367-375.

พิมพ์ปวีณ์ สุวรรณโณ และ ศุภลักษณ์ สินธนา. (2561). การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการวิจัยของนักศึกษาชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลาที่เรียนด้วยการจัดการเรียนการสอนโดยใช้การวิจัยเป็นฐาน. วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา, 13(1), 162-170.

รุจิราพร รามศิริ. (2556). การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์โดยใช้การวิจัยเป็นฐานเพื่อเสริมสร้างทักษะการวิจัย ทักษะการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์และจิตวิทยาศาสตร์ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษา. ดุษฎีนิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต: มหาวิทยาลัยศิลปากร.

โรซวรรณา เซพโฆลาม, รูฮัยซา ดือราแม และ โซฟีลาน มะดาแฮ. (2565). สมรรถนะการวิจัยในชั้นเรียนของนักศึกษาครู เพื่อพัฒนาท้องถิ่น. วารสารสังคมศาสตร์และมานุษยวิทยาเชิงพุทธ, 7(2), 275-293.

ล้วน สายยศ และอังคณา สายยศ. (2543). เทคนิคทางการวัดผลการเรียนรู้. พิมพ์ครั้งที่ 2. สุวีริยาสาส์น.

ศิริชัย กาญจนวาสี. (2556). ทฤษฎีการทดสอบแบบดั้งเดิม. พิมพ์ครั้งที่ 7. โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

สัญญา เคณาภูมิ. (2564). แนวทางและเทคนิคการเขียนผลงานวิชาการ. โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

สำนักบริหารงานการมัธยมศึกษาตอนปลาย. (2565). แนวทางการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนมาตรฐานสากล (ฉบับปรับปรุง). ไอเดีย แอนด์ พริ้นติ้ง.

สินธะวา คามดิษฐ์. (2557). การจัดการเรียนการสอนโดยใช้กระบวนการวิจัยในระดับอุดมศึกษา. วารสารสุทธิปริทัศน์, 28(85). 9-21.

สิริวรรณ สิรวณิชย์. (2557). การพัฒนาทักษะวิจัยของนักศึกษาโดยบูรณาการกับประวัติศาสตร์ท้องถิ่นจังหวัดกำแพงเพชร. วารสารพิกุล, 12(1). 27-48.

สุวิมล ติรกานันท์. (2553). การวิเคราะห์ตัวแปรพหุในงานวิจัยทางสังคมศาสตร์. พิมพ์ครั้งที่ 2. สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

อังคณา กุลนภาดล. (2559). การวิจัยทางการศึกษา. พิมพ์ครั้งที่ 2. บริษัททริปเพิ้ล เอ็ดดูเคชั่น จำกัด.

อิทธิพัทธ์ สุวทันพรกูล. (2561). การวิจัยทางการศึกษา: แนวคิดและการประยุกต์ใช้. สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

Ain, C.T., Sabir, F., & Willison, J. (2019). Research skills that men and women developed at university and then used in workplaces. Studies in Higher Education, 44(12), 2346-2358.

Lander, J., Seeho, S., & Foster, K. (2019). Learning practical research skills using an academic paper framework–an innovative, integrated approach. Health Professions Education, 5(2), 136-145.

Maddens, L., Depaepe, F., Janssen, R., Raes, A., & Elen, J. (2020). Evaluating the Leuven research skills test for 11th and 12th grade. Journal of Psychoeducational Assessment, 38(4), 445-459.

Mahasneh, O.M. (2020). The effectiveness of flipped learning strategy in the development of scientific research skills in procedural research courses among higher education diploma students. Research in Learning Technology, 28, 1-17

Polat, B., & Kutlu, O. (2022). Investigation of the effectiveness of the research skills teaching program. International Journal of Assessment Tools in Education, 9(1), 39-60.

Rodríguez, G., Pérez, N., Núñez, G., Baños, J.E., & Carrió, M. (2019). Developing creative and research skills through an open and interprofessional inquiry-based learning course. BMC Medical Education, 19(1), 1-13.

Salybekova, N., Issayev, G., Abdrassulova, Z., Bostanova, A., Dairabaev, R., & Erdenov, M. (2021). Pupils’ research skills development through project-based learning in biology. Cypriot Journal of Educational Sciences, 16(3), 1106-1121.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2024-07-22

รูปแบบการอ้างอิง

สดใสญาติ ส. ., ศรีหาเศษ ก., & ทิพยกุลไพโรจน์ ด. (2024). การสร้างแบบวัดทักษะการวิจัยสำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย. Interdisciplinary Academic and Research Journal, 4(4), 343–358. https://doi.org/10.60027/iarj.2024.277004

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิชาการ