ผลของการสอนโดยใช้วิธีสอน OK5R ที่มีต่อความสามารถในการอ่านเพื่อความเข้าใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
DOI:
https://doi.org/10.60027/iarj.2024.276858คำสำคัญ:
การอ่านเพื่อความเข้าใจ; วิ, ธีสอน OK5R; , นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6บทคัดย่อ
ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: การอ่านเพื่อความเข้าใจเป็นการอ่านที่มีความสำคัญสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา
ปีที่ 6 เนื่องจากช่วยให้นักเรียนสามารถแปลตัวอักษร คำ ข้อความ และประโยคอย่างเข้าใจ จนสามารถจับใจความของเรื่องที่อ่านได้ รวมถึงสามารถสรุปสาระสำคัญในแง่มุมต่าง ๆ เช่น การเปรียบเทียบ คาดเดาเหตุการณ์ วิเคราะห์เจตนาของผู้เขียน และข้อคิดที่ได้รับจากเรื่องที่อ่าน ทั้งนี้ วิธีสอน OK5R เป็นวิธีสอนที่ช่วยให้นักเรียนได้เชื่อมโยงความรู้เดิมกับความรู้ใหม่ ทำให้สามารถเข้าใจเรื่องที่อ่านได้ดียิ่งขึ้น ดังนั้น การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการอ่านเพื่อความเข้าใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ก่อนและหลังการสอนโดยใช้วิธีสอน OK5R
ระเบียบวิธีการวิจัย: กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านแสนรัก (นามสมมติ) อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 จำนวน 1 ห้องเรียน มีนักเรียนจำนวน 20 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ 2) แบบทดสอบวัดความสามารถในการอ่านเพื่อความเข้าใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และ t-test (Dependent Samples) ความสามารถในการอ่านเพื่อความเข้าใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้วิธีสอน OK5R หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .01
ผลการวิจัย: ผลการสอนโดยใช้วิธีสอน OK5R มีผลต่อความสามารถในการอ่านเพื่อความเข้าใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ทำให้ความสามารถในการอ่านเพื่อความเข้าใจของนักเรียนสูงขึ้น แสดงให้เห็นว่าวิธีสอน OK5R สามารถนำมาใช้พัฒนาความสามารถในการอ่านเพื่อความเข้าใจของนักเรียนได้ เพราะมีลำดับขั้นตอนการจัดกิจกรรมที่ชัดเจน อีกทั้ง มีความน่าสนใจ ประกอบกับความหลากหลายของกิจกรรมที่ช่วยพัฒนาความสามารถในการอ่านของนักเรียนได้เป็นอย่างดี
สรุปผล: การศึกษาแสดงให้เห็นว่าทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จะดีขึ้นอย่างมากเมื่อใช้วิธีการสอน OK5R สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าแนวทางดังกล่าวทำงานได้ดีเพียงใดในการส่งเสริมการพัฒนาทักษะผ่านกิจกรรมที่วางแผนไว้และน่าสนใจ
เอกสารอ้างอิง
กระทรงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด.
ฉวีลักษณ์ บุณยะกาญจน. (2557). จิตวิทยาการอ่าน. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพมหานคร : สุวีริยาสาส์น.
นวภรณ์ อุ่นเรือน. (2560). ภาษาไทยเพื่อการสื่อสารในงานอาชีพ. กรุงเทพมหานคร : ซีเอ็ดยูเคชั่น.
ประพันธ์ศิริ สุเสารัจ. (2556). การพัฒนาการคิด. กรุงเทพมหานคร :โรงพิมพ์ห้างหุ้นส่วนจำกัด919เทคนิคพริ้นติ้ง.
พิมพันธ์ เดชะคุปต์ และพเยาว์ ยินดีสุข. (2558). การจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
มณีรัตน์ สุกโชติรักษ์. (2549). อ่านเป็น เรียนเก่ง สอนเก่ง. กรุงเทพมหานคร : นานมีบุ๊คส์พับลิงคชั่นส์.
วัชรพล วิบูลยศริน. (2561). วิธีวิทยาการจัดการเรียนรู้ภาษาไทย. กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ศิวิภา ชูเรือง. (2550). การศึกษาความเข้าใจในการอ่านภาษาไทยและความพึงพอใจต่อวิธีการสอนแบบ OK5R ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1. วิทยานิพนธ์ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยทักษิณ.
สนิท ตั้งทวี. (2546). อ่านไทย. กรุงเทพมหานคร : โอเดียนโสตร์.
สนิท สัตโยภาส. (2556). ภาษาไทยเพื่อการสื่อสารและสืบค้น (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพมหานคร : บริษัท 21 เซ็นจูรี่ จำกัด.
สำลี รักสุทธี. (2553). สอนอย่างไรให้เด็กอ่านออก อ่านได้ อ่านคล่อง อ่านเป็น เขียนได้ เขียนคล่อง เขียนเป็น. กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์พัฒนาศึกษา.
สุนันทา มั่นเศรษฐวิทย์. (2545). หลักและวิธีการสอนอ่านภาษาไทย. กรุงเทพมหานคร : บริษัทโรงพิมพ์ไทยวัฒนาพานิช จำกัด.
Dallmann, M. and Boer, J.J. (1978). The teaching of reading. New York: Holt, Reinhart, and Winston.
Pauk, W. (1984). How to Study in College. New York: Houghton Mifflin Custom Publishing.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2024 Interdisciplinary Academic and Research Journal

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ลิขสิทธิ์ในบทความใดๆ ใน Interdisciplinary Academic and Research Journal ยังคงเป็นของผู้เขียนภายใต้ ภายใต้ Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License การอนุญาตให้ใช้ข้อความ เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ของสิ่งพิมพ์ ผู้ใช้ใดๆ เพื่ออ่าน ดาวน์โหลด คัดลอก แจกจ่าย พิมพ์ ค้นหา หรือลิงก์ไปยังบทความฉบับเต็ม รวบรวมข้อมูลเพื่อจัดทำดัชนี ส่งต่อเป็นข้อมูลไปยังซอฟต์แวร์ หรือใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมายอื่นใด แต่ห้ามนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์หรือด้วยเจตนาที่จะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจใดๆ





