การดำเนินงานด้านสถานศึกษาปลอดภัยของสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสระบุรี เขต 2
DOI:
https://doi.org/10.60027/iarj.2024.276412คำสำคัญ:
ความปลอดภัยของสถานศึกษา;, การส่งเสริมพัฒนาการดำเนินงานบทคัดย่อ
ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบความคิดเห็นของบุคลากรเกี่ยวกับการดำเนินงานด้านสถานศึกษาปลอดภัยในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสระบุรี เขต 2 โดยจำแนกตามตำแหน่ง ขนาดสถานศึกษา และประสบการณ์ในการทำงาน นอกจากนี้ยังมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแนวทางในการส่งเสริมและพัฒนาการดำเนินงานด้านสถานศึกษาปลอดภัยในสถานศึกษาที่อยู่ในสังกัดเดียวกัน
ระเบียบวิธีการวิจัย: กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นบุคลากรของสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสระบุรี เขต 2 จำนวน 317 คน โดยได้มาด้วยวิธีการสุ่มแบบแบ่งชั้น (Stratified Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบสอบถามที่มีมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ซึ่งมีค่า IOC อยู่ระหว่าง 0.80 – 1.00 และค่าความเชื่อมั่น (Cronbach’s Alpha) เท่ากับ 0.79 นอกจากนี้ยังใช้แบบสัมภาษณ์ที่มีโครงสร้างเพื่อเก็บข้อมูลเพิ่มเติม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลประกอบด้วย ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที (t-test) และการวิเคราะห์ความแปรปรวน (ANOVA หรือ F-test)
ผลการศึกษา: ผลการวิจัยพบว่า: (1) การดำเนินงานด้านสถานศึกษาปลอดภัย ของสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสระบุรี เขต 2 โดยรวมและในแต่ละด้าน พบว่าอยู่ในระดับ "มาก" ทุกด้าน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการดำเนินงานด้านสถานศึกษาปลอดภัยได้รับการดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพในทุกมิติ (2) ผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบ การดำเนินงานด้านสถานศึกษาปลอดภัย จำแนกตามตำแหน่ง พบว่ามีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ขณะที่การจำแนกตามขนาดสถานศึกษาและประสบการณ์ในการทำงาน พบว่าไม่มีความแตกต่างกัน (3) แนวทางการดำเนินงาน ด้านสถานศึกษาปลอดภัยในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสระบุรี เขต 2 พบว่า: 1) ด้านมาตรการป้องกัน ควรดำเนินการจัดทำแผนความปลอดภัยที่ครอบคลุมทุกมิติ 2) ด้านมาตรการปลูกฝัง ควรจัดอบรมเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับความปลอดภัยให้แก่ครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน 3) ด้านมาตรการปราบปราม ควรกำหนดแนวทางปฏิบัติในการจัดการหรือการระงับเหตุ รวมถึงการช่วยเหลือเมื่อเกิดเหตุในสถานศึกษา และสร้างความรับรู้ร่วมกันในทุกภาคส่วน
สรุปผล: การดำเนินงานด้านสถานศึกษาปลอดภัยของสถานศึกษา ควรมีการจัดทำแผนความปลอดภัยสถานศึกษาที่ครอบคลุมทุกมิติ สถานศึกษามีจัดสภาพแวดล้อมและบรรยากาศที่มีความปลอดภัยต่อนักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา มีแนวทางปฏิบัติการจัดการหรือการระงับเหตุ การช่วยเหลือเมื่อเกิดเหตุในสถานศึกษา และมีการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการด้านความปลอดภัยของสถานศึกษา ให้แก่ครู บุคลากร ทางการศึกษาและนักเรียน
เอกสารอ้างอิง
บุญชม ศรีสะอาด. (2553). การวิจัยเบื้องต้น. กรุงเทพฯ : สุวีริยาสาส์น.
ปัญญ์ชิตา สมบัติเพิ่ม. (2565). แนวทางการดำเนินงานสถานศึกษาปลอดภัยของสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากาฬสินธุ์. วารสารสหวิทยาการวิจัยและวิชาการ, 2 (6), 687 – 708.
พงศราญ ไกรดำ. (2565). การประเมินโครงการสถานศึกษาปลอดภัย โรงเรียนภูเก็ตปัญญานุกูลสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ. ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฎสุราษฎร์ธานี.
รชตภรณ์ ขัยประภา. (2566). แนวทางการบริหารจัดการความปลอดภัยในสถานศึกษาโรงเรียนสันทรายหลวงอำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 2. วารสารบัณฑิตศึกษาปริทรรศน์ มจร วิทยาเขตแพร่, 9(1), 91 -108.
ไวกูณฐ์ เหมือนทอง. (2565). การประเมินโครงการสถานศึกษาปลอดภัย ของโรงเรียนอนุบาลสวี (บ้านนาโพธิ์)สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชุมพร เขต 2. วารสารบัณฑิตศึกษาปริทรรศน์ มจร, 9(11), 1 -17.
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสระบุรี เขต 2. (2566). แผนปฏิบัติการการจัดการศึกษาประจำปี 2566. สระบุรี : สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสระบุรี เขต 2.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2564). คูมือการดำเนินงานความปลอดภัยสถานศึกษา. กรุงเทพฯ : สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน.
สุเมธ ไทยกลาง. (2565). การพัฒนาครูในการจัดกิจกรรมสนับสนุนการเรียนรู้ เพื่อสร้างความปลอดภัยในโรงเรียนวัดคีรีวง สังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 1. ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฎสุราษฎร์ธานี. สุราษฎร์ธานี.
Hinds, K. and Park, A. (2000). Parents’ demand for childcare in Scotland. Retrieved November 17, 2011, From: http://www.scotland.gov.uk/library3/social/in 64-02.asp.
Krejcie, R.V., & Morgan, D.W. (1970). Determining sample size for research activities. Education and Psychological Management, 30(3), 607-610.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2024 Interdisciplinary Academic and Research Journal

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ลิขสิทธิ์ในบทความใดๆ ใน Interdisciplinary Academic and Research Journal ยังคงเป็นของผู้เขียนภายใต้ ภายใต้ Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License การอนุญาตให้ใช้ข้อความ เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ของสิ่งพิมพ์ ผู้ใช้ใดๆ เพื่ออ่าน ดาวน์โหลด คัดลอก แจกจ่าย พิมพ์ ค้นหา หรือลิงก์ไปยังบทความฉบับเต็ม รวบรวมข้อมูลเพื่อจัดทำดัชนี ส่งต่อเป็นข้อมูลไปยังซอฟต์แวร์ หรือใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมายอื่นใด แต่ห้ามนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์หรือด้วยเจตนาที่จะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจใดๆ





