สมรรถนะทางเทคโนโลยีดิจิทัลของผู้บริหารสถานศึกษายุค 4.0

ผู้แต่ง

  • นุ่นนภา เหล่าเจริญ วิทยาลัยการจัดการนวัตกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ ประเทศไทย https://orcid.org/0009-0002-8906-8089
  • พงษ์สุวรรณ ศรีสุวรรณ วิทยาลัยการจัดการนวัตกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ ประเทศไทย https://orcid.org/0009-0001-1557-2349
  • ภูมิภควัธจ์ ภูมพงศ์คชศร วิทยาลัยการจัดการนวัตกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ ประเทศไทย https://orcid.org/0009-0009-3779-9710

DOI:

https://doi.org/10.60027/iarj.2024.276226

คำสำคัญ:

สมรรถนะ;, เทคโนโลยีดิจิทัล; , ผู้บริหารสถานศึกษา

บทคัดย่อ

ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: สมถรรนะทางเทคโนโลยีดิจิทัลของผู้บริหารสถานศึกษาในยุค 4.0 เน้นการปรับตัวและพัฒนาทักษะให้เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีในสถานศึกษา การสร้างสมถรรนะดิจิทัลนี้ เน้นการเรียนรู้ตลอดเวลาเพื่อปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและการพัฒนาทักษะในการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารจัดการสถานศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษายุค 4.0 จำเป็นต้องเป็นผู้นำที่มีความรู้ความเข้าใจทั้งในด้านเทคโนโลยีและการศึกษาเพื่อให้สามารถนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประสิทธิภาพในการบริหารจัดการสถานศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพและครอบคลุมทุกด้านของการบริหารและการพัฒนาในสถานศึกษาในยุคดิจิทัล การพัฒนาสมถรรนะทางเทคโนโลยีดิจิทัลจึงเป็นสิ่งสำคัญในการเตรียมความพร้อมและปรับตัวให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีในสถานศึกษาในปัจจุบันและอนาคต

ระเบียบวิธีการศึกษา: ปัจจุบันการพัฒนาสมรรถนะดิจิทัลของครูเป็นเรื่องสำคัญขององค์กรการศึกษาทั่วโลก ดังจะเห็นได้จากต่างประเทศได้มีการกำหนดกรอบแนวทางพัฒนาสมรรถนะดิจิทัลของนักการศึกษาเพื่อใช้เป็นกรอบแนวทางพัฒนาสมรรถนะของนักการศึกษา จำนวน 5 ฉบับ ประกอบด้วย (1) กรอบการพัฒนาสมรรถนะดิจิทัลของนักการศึกษายุโรป (European Framework for the Digital Competence of Educators: DigCompEdu) (2) กรอบการพัฒนาสมรรถนะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของครูที่กำหนดโดย UNESCO (UNESCO ICT Competency Framework for Teachers: ICT CFT) (3) กรอบการพัฒนาวิชาชีพการสอนแบบดิจิทัล (Digital Teaching Professional Framework: DTPF) (4) กรอบการพัฒนาสมรรถนะดิจิทัลวิชาชีพครู (Professional digital competence framework for teachers: PDCF) และ (5) กรอบการพัฒนาสมรรถนะดิจิทัลทั่วไปของครู (The Common Digital Competence Framework for Teachers: CDCFT)

ผลการศึกษา: การพัฒนาศักยภาพความเป็นนวัตกรการศึกษาให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุดนั้น ต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน โดยองค์กรต้องมีการจัดการที่เอื้อต่อการเรียนรู้ที่จะนำไปสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรมของบุคลากร ทั้งในระดับบุคคล ระดับกลุ่ม และระดับองค์กร หรือเรียกได้ว่า เป็นการจัดการเพื่อความยั่งยืนเชิงนวัตกรรม (Management for innovative sustainability) โดยมุ่งจัดการให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ รวมถึงมีการจัดการความรู้และการจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศที่เหมาะสม ปัญหาอุปสรรคที่พบคือ ผู้บริหารยังใช้การบริหารแบบเดิม ๆ ไม่สอดคล้องกับการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ขาดการใช้สื่อนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยังไม่ส่งเสริมให้ครูใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการจัดการเรียนการสอน และการวัดผลประเมินผล ส่วนปัญหาเกี่ยวกับการพัฒนาสมรรถนะดิจิทัลของครูในประเทศไทย คือ การที่ยังไม่มีการพัฒนากรอบการพัฒนาสมรรถนะดิจิทัลของครูและบุคลากรทางการศึกษา ยังมีเพียงการกำหนดระดับสมรรถนะดิจิทัลของครูและบุคลากรทางการศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็น 3 ระดับคือ สมรรถนะดิจิทัลขั้นพื้นฐาน สมรรถนะดิจิทัลขั้นกลาง และสมรรถนะดิจิทัลขั้นสูง และแบ่งการพัฒนาเป็น 7 ขั้น แต่ยังไม่ได้กำหนดสมรรถนะดิจิทัลที่ต้องพัฒนาในแต่ละระดับ

สรุปผล: กล่าวได้ว่าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด เจ้าหน้าที่ด้านการศึกษาจะต้องได้รับการส่งเสริมให้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และมีความคิดสร้างสรรค์ กรอบการทำงานที่มีโครงสร้างสำหรับการประเมินและเพิ่มประสิทธิภาพความสามารถด้านดิจิทัลของครูมีความจำเป็นในการเอาชนะอุปสรรคต่างๆ เช่น เทคนิคการจัดการที่ล้าสมัย และการขาดการบูรณาการเทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งจะช่วยส่งเสริมนวัตกรรมในระยะยาวในด้านการศึกษา

เอกสารอ้างอิง

กณิชชา ศิริศักดิ์. (2559). การวิจัยหลักสูตรวิชาชีพครูเพื่อพัฒนาแนวทางการส่งเสริมสมรรถนะดิจิทัล. วิทยานิพนธ์ ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฎิต สาขาวิชาวิธีวิทยาการวิจัยการศึกษา. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

กนิชชา ศิริศักดิ์. (2559). การวิจัยหลักสูตรวิชาชีพครูเพื่อพัฒนาแนวทางการส่งเสริมสมรรถนะดิจิทัล. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2562). สรุปผลการสำรวจข้อมูลสถานภาพการรู้เท่าทันสื่อและสารสนเทศของประเทศไทยปี พ.ศ. 2562: Media and Information Literacy Summary Survey Report Thailand 2019. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม.

กิตติพศ โกนสันเทียะ. (2565). สมรรถนะดิจิทัล สมรรถนะใหม่สําหรับครูยุคปัจจุบัน. วารสารศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลัยทักษิณ, 22 (2),14–37

ไพฑูรย์ สินลารัตน์. (2559). การศึกษา 4.0 เป็นยิ่งกว่าการศึกษา. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

รับขวัญ ภูษาแก้ว. (2557). กลยุทธ์การบริหารคนเก่งและองค์การสมรรถนะสูงสำหรับโรงเรียน มัธยมศึกษา. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาบริหารการศึกษา จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย.

สุธรรม ธรรมทัศนานนท์. (2562). การบริหารสถานศึกษาสู่คุณภาพการศึกษายุคใหม่. ขอนแก่น : แอนนา.

European Union (2006). European Union country report 2006. Retrieved from: https://www.unccd.int/sites/default/files/prais-legacy/European%20Union/2006/European%20Union%20-%20DCP%20-%202006%20eng.pdf

Gallardo-Echenique, E., Oliveira, J., & Marqués Molías, L., & Esteve, F. (2015). Digital Competence in the Knowledge Society. MERLOT Journal of Online Learning and Teaching (JOLT). 11. 1-16.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2024-06-07

รูปแบบการอ้างอิง

เหล่าเจริญ น., ศรีสุวรรณ พ. ., & ภูมพงศ์คชศร ภ. . (2024). สมรรถนะทางเทคโนโลยีดิจิทัลของผู้บริหารสถานศึกษายุค 4.0. Interdisciplinary Academic and Research Journal, 4(3), 881–892. https://doi.org/10.60027/iarj.2024.276226

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิชาการ