การบังคับใช้พระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ. 2545 ของสถานประกอบกิจการในจังหวัดสมุทรปราการ
DOI:
https://doi.org/10.60027/iarj.2024.276177คำสำคัญ:
พระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ. 2545; , สถานประกอบกิจการ; , การพัฒนาแรงงานบทคัดย่อ
ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: ในปัจจุบัน สิ่งเหล่านี้รวมถึงการปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์เศรษฐกิจโลกที่เกิดจากแนวโน้มอุตสาหกรรม 4.0 ซึ่งก็คือการก้าวไปสู่เทคโนโลยีใหม่และการดำเนินธุรกิจที่สร้างสรรค์ ในโลกเศรษฐกิจร่วมสมัย แรงงานจะเป็นกลไกหลักในการเปลี่ยนแปลง การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาระดับการดำเนินการตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ. 2545 2) เพื่อศึกษาระดับผลการบังคับใช้พระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ. 2545 3) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการดำเนินการกับผลการบังคับใช้พระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ. 2545 และ 4) เพื่อศึกษาข้อเสนอแนะแนวทางความสำเร็จในการนำพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ. 2545
ระเบียบวิธีการวิจัย: กลุ่มตัวอย่างได้แก่ ตัวแทนสถานประกอบกิจการในข่ายบังคับตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ. 2545 ประจำปี พ.ศ. 2565 ของจังหวัดสมุทรปราการ จำนวน 309 คน ได้จากการคำนวณจากสูตรของ Yamane และใช้วิธีการสุ่มอย่างมีระบบ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย เป็นแบบสอบถามปลายปิดแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 50 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ .98 และแบบสอบถามปลายเปิด สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ การแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณเชิงเส้นตรง โดยวิธี Stepwise ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ .01
ผลการวิจัย (1) ระดับการดำเนินการตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ. 2545 ของสถานประกอบกิจการในจังหวัดสมุทรปราการ โดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง (2) ระดับผลการบังคับใช้พระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ. 2545 ของสถานประกอบกิจการในจังหวัดสมุทรปราการ โดยรวมอยู่ในระดับมาก (3) ความสัมพันธ์ระหว่างการดำเนินการกับผลการบังคับใช้พระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ. 2545 ของสถานประกอบกิจการในจังหวัดสมุทรปราการ พบว่า การดำเนินการมีความสัมพันธ์กับผลการบังคับใช้พระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ. 2545 โดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 มีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์พหุคูณเท่ากับ .673 (R=.673) ตัวแปรอิสระทั้งหมดสามารถอธิบายการผันแปรของตัวแปรได้เท่ากับร้อยละ 45.4 มีค่า R2 = .454 และมีค่า F = 84.396 ซึ่งมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 ซึ่งแสดงว่า ตัวแปรอิสระมีความสัมพันธ์กับผลการบังคับใช้พระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ. 2545 ของสถานประกอบกิจการในจังหวัดสมุทรปราการ มีตัวแปรที่เข้าสู่สมการ 3 ตัวแปร ได้แก่ ตัวแปรด้านการได้รับคำปรึกษาแนะนำและความช่วยเหลือจากกรมพัฒนาฝีมือแรงงานในด้านต่าง ๆ ตัวแปรด้านการไม่อยู่ในข่ายบังคับกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานและกฎหมายแรงงานสัมพันธ์ (เฉพาะกรณีฝึกเตรียมเข้าทำงาน) และตัวแปรด้านสิทธิได้รับยกเว้นภาษีเงินได้เป็นกรณีพิเศษสำหรับค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมฝีมือแรงงาน และ (4) ข้อเสนอแนะการบังคับใช้พระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ. 2545 ของสถานประกอบกิจการในจังหวัดสมุทรปราการ มีดังนี้ ควรมีการจัดโครงการอบรมพัฒนาความรู้เกี่ยวกับสิทธิในการนำคนต่างด้าวเข้ามาเป็นช่างฝีมือแก่ผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่อง ควรมีการจัดทำคู่มือเกี่ยวกับสิทธิและสิทธิประโยชน์จากการนำคนต่างด้าวเข้ามาเป็นช่างฝีมือ ควรอบรมให้ความรู้สร้างความเข้าใจในหลักเกณฑ์การฝึกอบรมเพื่อดำเนินการยื่นสิทธิการได้รับยกเว้นภาษีเงินได้
สรุปผล: ผลการศึกษาสรุปว่า แม้ว่าผลการปฏิบัติงานในธุรกิจของสมุทรปราการจะอยู่ในระดับปานกลาง แต่การดำเนินการตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ. พ.ศ. 2545 มีผลกระทบเชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญ การปรับปรุงผลลัพธ์ขององค์กรและการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติจำเป็นต้องมีการบังคับใช้และความคิดริเริ่มด้านการฝึกอบรมที่เข้มงวดยิ่งขึ้น
เอกสารอ้างอิง
กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (2566).แผนปฏิบัติ ราชการ ระยะ 5 ปี (พ.ศ.2566-2570). กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน, กระทรวงแรงงาน.
กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน, กระทรวงแรงงาน. (2564). เอกสารแนะนำกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน. กรุงเทพมหานคร: ผู้แต่ง.
กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน, กองส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน. (2560). คู่มือแนะนำการใช้พระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ. 2545 สำหรับเจ้าหน้าที่. กรุงเทพมหานคร: ผู้แต่ง.
กระทรวงแรงงานประเทศไทย. (2545). พระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ. พ.ศ. 2545 (2545). กรุงเทพฯ: กระทรวงแรงงาน.
ชาติเฉลิม สุรชัยชาญ. (2544). ปัจจัยที่มีผลต่อความต้องการพัฒนาขีดความสามารถในการทำงานของกำลังแรงงานไทย. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ทิวา ดอนลาว, สมพร เฟืองจันทร์, เพ็ญศรี นิรินัง และวิวัฒน์ กรมดิษฐ์. (2565). อนาคตแรงงานไทยภายใต้ภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลง. Journal of Administrative and Management Innovation, 9(1), 35-44.
ธัชวัฒน์ พากพูลไพร และชาติ วรรณกุล. (2557). ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาฝีมือแรงงานของสถานประกอบการจังหวัดกาฬสินธุ์. ในการประชุมนำเสนอผลงานวิจัยบัณฑิตศึกษา (น. 1898-1909). ขอนแก่น: มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
นริศรา บุญเที่ยง. (2562). ความพร้อมในการฝึกอบรม กระบวนการฝึกอบรม และความพึงพอใจในการฝึกอบรมที่มีผลต่อแรงจูงใจในการนำการฝึกอบรมไปพัฒนาในการทำงานของพนักงานธนาคารพาณิชย์ในโซนถนนรัชดาภิเษก. วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต: มหาวิทยาลัยกรุงเทพ.
พัฒนา สุขประเสริฐ (2541). กลยุทธ์ในการฝึกอบรม. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
ศิริพงษ์ ลดาวัลย์ ณ อยุธยา. (2551). เอกสารประกอบการสอนกระบวนวิชาการบริหารแรงงาน. เชียงใหม่ : คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี. (2559).แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 พ.ศ. 2560-2564. กรุงเทพฯ: สำนักงาน คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ.
เสกสรร จิตพงษ์. (2560). แนวทางการพัฒนาฝีมือแรงงานในจังหวัดยโสธร รองรับการเปิดประชาคมอาเซียน. วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต: มหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม.
อัญชิษฐา ชาญณรงค์ (2560) . แนวทางการพัฒนาประสิทธิภาพการให้บริการประชาชนของสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 11 สุราษฎร์ธานี. วารสารสถาบันวิจัยญาณสังวร, 9(2) , 92-93.
Boonpattarakan, A. (2012). The role of the Skill Development Promotion Act in enhancing vocational education and training standards in Thailand. International Journal of Training and Development, 16(3), 212-230.
Pholphirul, P. (2014). Evaluating the enforcement and impact of the Skill Development Promotion Act in Thailand. Labour Market Research and Policy Journal, 19(4), 321-339.
Rungfamai, K. (2015). An analysis of the effectiveness of tax incentives under the Skill Development Promotion Act. Asian Economic Policy Review, 10(1), 85-102.
Tansakul, S. (2010). The impact of the Skill Development Promotion Act on workforce training in Thailand. Journal of Southeast Asian Economies, 27(2), 123-138.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2024 Interdisciplinary Academic and Research Journal

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ลิขสิทธิ์ในบทความใดๆ ใน Interdisciplinary Academic and Research Journal ยังคงเป็นของผู้เขียนภายใต้ ภายใต้ Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License การอนุญาตให้ใช้ข้อความ เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ของสิ่งพิมพ์ ผู้ใช้ใดๆ เพื่ออ่าน ดาวน์โหลด คัดลอก แจกจ่าย พิมพ์ ค้นหา หรือลิงก์ไปยังบทความฉบับเต็ม รวบรวมข้อมูลเพื่อจัดทำดัชนี ส่งต่อเป็นข้อมูลไปยังซอฟต์แวร์ หรือใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมายอื่นใด แต่ห้ามนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์หรือด้วยเจตนาที่จะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจใดๆ





