การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนเคมี เรื่อง กรด-เบส ที่ส่งเสริมทักษะการคิดแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล 2 เทศบาลเมืองนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์
DOI:
https://doi.org/10.60027/iarj.2024.275554คำสำคัญ:
รูปแบบการสอนวิชาเคมี; , ทักษะการคิดแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์บทคัดย่อ
ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: การศึกษาวิชาวิทยาศาสตร์สาขาเคมีในประเทศไทยเป็นสาขาหนึ่งที่ไม่เพียงแต่ปรับปรุงหลักสูตรและเนื้อหาให้ทันสมัย แต่พยายามปรับปรุงคุณภาพของการสอน ซึ่งในการจัดการเรียน การสอนจะต้องเน้นให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจในแนวคิดทางวิทยาศาสตร์และสามารถนำองค์ความรู้ดังกล่าวไปประยุกต์ได้ ให้ผู้เรียนได้รับการพัฒนาความคิดขั้นสูง การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนารูปแบบการเรียนการสอนการสอนเคมี เรื่อง กรด-เบสที่ส่งเสริมทักษะการคิดแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 2) ศึกษาผลการใช้รูปแบบการสอนเคมี เรื่อง กรด-เบส ที่ส่งเสริมทักษะการคิดแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
ระเบียบวิธีการวิจัย:
กลุ่มตัวอย่างที่ทดลองใช้รูปแบบเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 จำนวน 31 คน โรงเรียนเทศบาล 2 เทศบาลเมืองนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลได้แก่ รูปแบบการเรียนการสอนเคมี เรื่อง กรด-เบส ที่ส่งเสริมทักษะการคิดแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 แบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบทดสอบการคิดแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ และแบบวัดความพึงพอใจต่อการเรียนรู้ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติ t–test (Dependent)
ผลการศึกษา: 1. รูปแบบการเรียนการสอนเคมี เรื่อง กรด-เบส ที่ส่งเสริมทักษะการคิดแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ซึ่งขั้นตอนการเรียนการสอนมี 6 ขั้นตอน ได้แก่ (1) สร้างความสนใจ (E: Engagement) (2) การอภิปราย (D: Discussion) (3) การปฏิบัติ (P: Practice) (4) สะท้อนความคิด (R: Reflection Thinking) (5) จัดหมวดหมู่สาระ (O: Organization) (6) ทดสอบความสามารถ (T: Talent test) 2. ผลการใช้รูปแบบการเรียนการสอนเคมี เรื่อง กรด-เบส ที่ส่งเสริมทักษะการคิดแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 พบว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 การคิดแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนรู้ด้วยรูปแบบการเรียนการสอนเคมี เรื่อง กรด-เบส ที่ส่งเสริมทักษะการคิดแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 และนักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการเรียนการสอนเคมี เรื่อง กรด-เบส ที่ส่งเสริมทักษะการคิดแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 อยู่ในระดับมาก
สรุปผล: รูปแบบการเรียนการสอนเคมีซึ่งประกอบด้วย 6 องค์ประกอบและระยะต่างๆ แสดงให้เห็นว่ามีความเหมาะสมสูงและมีผลการเรียนรู้ที่ดีขึ้นอย่างมาก ความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ และระดับความพึงพอใจทางคณิตศาสตร์ สิ่งนี้เน้นย้ำว่าสิ่งนี้สนับสนุนการเรียนรู้แบบองค์รวมและการพัฒนาทักษะของนักเรียนได้ดีเพียงใด
เอกสารอ้างอิง
กัญญารัตน์ โคจร และคณะ. (2554). การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้การคิดแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ เรื่อง สารและสมบัติของสารสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1. วารสารวิจัย มหาวิทยาลัยขอนแก่น. 1(2), 1-20.
ทิศนา แขมมณี. (2558). ศาสตร์การสอน: องค์ความรูเพื่อการจัดกระบวนการเรียนรูที่มีประสิทธิภาพ. พิมพ์ครั้งที่ 19. กรุงเทพฯ: ด่านสุทธาการพิมพ์,.
ธนศักดิ์ เจริญธรรม. (2565). การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาเคมี เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและการคิดอย่างมีวิจารณญาณ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 16(3): กรกฎาคม – กันยายน.
วิชาการโรงเรียนเทศบาล 2 เทศบาลเมืองนางรอง. (2561). รายงานการประเมินตนเอง (SAR). โรงเรียนเทศบาล 2 เทศบาลเมืองนางรอง.
วีณา ประชากูล และประสาท เนืองเฉลิม. (2559). รูปแบบการเรียนการสอน. พิมพ์ครั้งที่ 3. มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
ศรีผกา เจริญยศ มาเรียม นิลพันธุ์ และมารุต พัฒผล. (2563). การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนว Active Learning เพื่อเสริมสร้างมโนทัศน์การเรียนรู้เคมีแลทักษะ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ ของนักเรียนชั้นมัธยม ศึกษาตอนปลาย. วารสารสุทธิปริทัศน์. 34 (109), 46-57.
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2555). ครูคณิตศาสตร์มืออาชีพเส้นทางสู่ความสำเร็จ. กรุงเทพฯ: 3–คิวมีเดีย.
อมรัชญา ชินศร. (2558). การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2. วิทยานิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต หลักสูตรและการสอน มหาวิทยาลัยราชภัฎวไลยอลงกรณ์ในพระบรมราชูปถัมภ์.
Darling-Hammond, L., Wei, R.C., Andree, A., Richardson, N., & Orphanos, S. (2009). Professional learning in the learning profession: A status report on teacher development in the United States and abroad. National Staff Development Council.
Gallagher, S.A., & Stepien, W.J. (1996). Content acquisition in problem-based learning: Depth versus breadth in American studies. Journal for the Education of the Gifted, 19(3), 257-275.
Guskey, T. R., & Yoon, K. S. (2009). What works in professional development? Phi Delta Kappan, 90(7), 495-500.
Hamari, J., Koivisto, J., & Sarsa, H. (2014). Does gamification work? -- A literature review of empirical studies on gamification. In 2014 47th Hawaii International Conference on System Sciences (pp. 3025-3034). IEEE.
Hmelo-Silver, C.E., Duncan, R.G., & Chinn, C.A. (2007). Scaffolding and achievement in problem-based and inquiry learning: A response to Kirschner, Sweller, and Clark (2006). Educational Psychologist, 42(2), 99-107.
Jonassen, D.H., & Hung, W. (2008). All problems are not equal: Implications for problem-based learning. Interdisciplinary Journal of Problem-Based Learning, 2(2), 6.
Joyce, B.R., Weil, M., & Calhoun, E. (2011). Models of Teaching. Boston: Pearson/Allyn and Bacon Publishers.
Lopes, C., Vaz-de-Melo, P., & Rosa, A. (2019). The role of active learning methodologies on students' motivation. In Proceedings of the European Conference on Games Based Learning (Vol. 3, p. 382). Academic Conferences International Limited.
Merrill, M.D. (2002). First principles of instruction. Educational Technology Research and Development, 50(3), 43-59.
Mitchell, W.E., & Konalik, T.F. (1999). Creative Problem Solving. n.p.: Unpublished.
Nguyen, Q., Rivas, R., Kar, P., Luong, A., Li, Y., & Hwang, D. (2020). Adaptive learning systems: A review and conceptual framework for modeling and evaluation. IEEE Access, 8, 22191-22212.
Schunk, D.H., & Mullen, C.A. (2012). Self-efficacy as an engaged learner. In Handbook of research on student engagement (pp. 219-235). Springer.
Slavin, R.E. (1990). Cooperative Learning: Theory, Research and Practice. New Jersey: Prentice-Hall.
Treffinger, D.J., Isaksen, S.G., & Dorvol, K.B. (2005). Creative Problem Solving (CPS Version 6.1TM) A Contemporary Framework for Managing Change. Sarasota: Center for Creative Learning and Creative Problem-Solving Group.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2024 Interdisciplinary Academic and Research Journal

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ลิขสิทธิ์ในบทความใดๆ ใน Interdisciplinary Academic and Research Journal ยังคงเป็นของผู้เขียนภายใต้ ภายใต้ Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License การอนุญาตให้ใช้ข้อความ เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ของสิ่งพิมพ์ ผู้ใช้ใดๆ เพื่ออ่าน ดาวน์โหลด คัดลอก แจกจ่าย พิมพ์ ค้นหา หรือลิงก์ไปยังบทความฉบับเต็ม รวบรวมข้อมูลเพื่อจัดทำดัชนี ส่งต่อเป็นข้อมูลไปยังซอฟต์แวร์ หรือใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมายอื่นใด แต่ห้ามนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์หรือด้วยเจตนาที่จะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจใดๆ





