โมเดลการบริหารแบบ 7S ที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตอำเภอคำตากล้า จังหวัดสกลนคร
DOI:
https://doi.org/10.60027/iarj.2024.275457คำสำคัญ:
ประสิทธิภาพ; , องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น; , โมเดลการบริหารแบบ 7Sบทคัดย่อ
ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: ในการบริหารงานของทุกองค์การ เพื่อให้องค์กรประสบผลสำเร็จและบรรลุเป้าหมายตามที่กำหนดไว้นั้น จำเป็นที่จะต้องมีการประยุกต์ใช้รูปแบบการบริหารงานโดยรูปแบบ 7s ของ McKinsey ได้นำมาเป็นเครื่องมือที่ถูกนำมาใช้ในการบริหาร ฉะนั้นโมเดลการบริหารแบบ 7S ตามแนวคิด 7s ของ McKinsey จึงเป็นเครื่องมือการบริหารงานรูปแบบใหม่ที่มีความเหมาะสมในการประเมินสถานภาพองค์การ ดังนั้นการวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณโดยใช้วิธีการสำรวจ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) ระดับโมเดลการบริหารแบบ 7S และประสิทธิภาพขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตอำเภอคำตากล้า จังหวัดสกลนคร 2) อิทธิพลของโมเดลการบริหารแบบ 7S ที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตอำเภอคำตากล้า จังหวัดสกลนคร
ระเบียบวิธีการวิจัย: กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ บุคลากรองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตอำเภอคำตากล้า จังหวัดสกลนคร จำนวน 148 คน ใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบชั้นภูมิ โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล และสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ
ผลการวิจัย: (1) โมเดลการบริหารแบบ 7S ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ประสิทธิภาพขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (2) ตัวแปรโมเดลการบริหารแบบ 7S สามารถร่วมกันทำนายระดับประสิทธิภาพขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ร้อยละ 88.10 (R2Adj=.881) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เมื่อพิจารณาองค์ประกอบย่อยของตัวแปรโมเดลการบริหารแบบ 7S พบว่า ตัวแปรที่มีค่าสัมประสิทธิ์การถดถอยสูงที่สุด ได้แก่ ด้านระบบงาน (β=.690) รองลงมาคือ ด้านยุทธศาสตร์ (β=.363) ด้านโครงสร้างหน่วยงาน (β=.261) ด้านบุคคล (β=.116) และด้านทักษะ (β=.108) ยกเว้นด้านรูปแบบการบริหาร และด้านค่านิยมร่วม
สรุปผล: โมเดลการบริหารแบบ 7S ด้านโครงสร้างหน่วยงาน ด้านบุคคล และด้านทักษะ ส่งผลต่อประสิทธิภาพขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตอำเภอคำตากล้า จังหวัดสกลนคร
เอกสารอ้างอิง
กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น. (2565). รายงานการศึกษาวิเคราะห์ผลการประเมินประสิทธิภาพขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (LPA). กรุงเทพฯ: กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น.
กษิรา นิติธนนันต์. (2563). องค์กรที่มีประสิทธิภาพตามแนวคิดปัจจัย 7 ประการของ McKinsey. วิทยานิพนธ์รัฐประศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิต: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์.
ขวัญใจ อับมา. (2566). ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์และวัฒนธรรมองค์การที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตอำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม. วิทยานิพนธ์รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิตมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร.
ณัฐพล อินธิแสง. (2564). อิทธิพลของการบริหารทรัพยากรมนุษย์ที่มีต่อประสิทธิภาพขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตอำเภอเมืองสกลนคร. วิทยานิพนธ์รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต: มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร.
แดนไทย ต๊ะวิไชย, สานิต ศิริวิศิษฐ์กุล และ อนันต์ ธรรมชาลัย. (2561). ปัจจัยการจัดการที่ส่งผลต่อประสิทธิผลการบริหารงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดน่าน. รายงานการวิจัย สาขาการจัดการ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ.
ธิษิรินทร์ ปัญญายุทธศักดิ์. (2563). ปัจจัยตามหลักแนวคิด 7S ที่ส่งผลต่อประสิทธิผลการดำเนินงานของเทศบาลเมืองสัตหีบ. การค้นคว้าอิสระรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
นันทวัฒน์ พรเลิศกชกร. (2565). ปัจจัยการบริหารจัดการตามแนวคิด 7S ของแมคคินซีย์ที่ส่งผลต่อการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ของธุรกิจโรงแรมในประเทศไทย. สารนิพนธ์บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต: มหาวิทยาลัยสยาม.
บุญชม ศรีสะอาด. (2554). การวิจัยเบื้องต้น. (พิมพ์ครั้งที่ 9). กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.
พระมหาสนอง ปจฺโจปการี (จำนิล). (2561). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อประสิทธิภาพในการบริหารงานของเทศบาลตำบลท่าอุเทน อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม. รายงานการวิจัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาลัยสงฆ์นครพนม.
พีระยุทธ ศิลาพรหม. (2564). ปัจจัยที่ส่งผลต่อการบริหารจัดการของเทศบาลนครอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี. รายงานการวิจัย สาขารัฐประศาสนศาตร์ คณะรัฐศาสตร์ วิทยาลัยพิชญบัณฑิต.
เรียวฤดี รันศรี. (2565). อิทธิพลของปัจจัยทางการบริหาร ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ ที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการให้บริการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตอำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม. วิทยานิพนธ์รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร.
ฤทธิชัย บุญธรรม และวิไลลักษณ์ เรืองสม. (2562). รูปแบบการบริหารงานแบบ 7s framework กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น. รายงานการวิจัย มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา.
สมคิด บางโม. (2558). องค์การและการจัดการ. (พิมพ์ครั้งที่ 6). กรุงเทพฯ: วิทยพัฒน์.
สำนักงานส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น อำเภอคำตากล้า. (2565). ข้อมูลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอำเภอคำตากล้า จังหวัดสกลนคร. สกลนคร: สำนักงานส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น อำเภอคำตากล้า.
สุนีรัตน์ แก้ววิศิษฏ์. (2566). ปัจจัยที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขต อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น. วิทยานิพนธ์บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสกลนคร.
เสาวนารถ เล็กเลอสินธุ์. (2562). การบริหารจัดการองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดภาคกลาง. รายงานการวิจัย คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชพฤกษ์.
Daft, R.L. (2018). Organization theory and design. Cengage Learning.
Hitt, M.A., Ireland, R.D., & Hoskisson, R.E. (2017). Strategic management: Concepts and cases: Competitiveness and globalization. Cengage Learning.
Krejcie, R.V., & Morgan, D.W. (1970). Determining sample size for research activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607-610.
Lussier, R.N., & Hendon, J.R. (2016). Human resource management: Functions, applications, and skill development. SAGE Publications.
Noe, R.A., Hollenbeck, J.R., Gerhart, B., & Wright, P.M. (2019). Human resource management: Gaining a competitive advantage. McGraw-Hill Education.
Northouse, P.G. (2018). Leadership: Theory and practice. SAGE Publications.
Peters, T.J., & Waterman, R.H. (1980). In search of excellence: Lessons from America's best-run companies. Harper & Row.
Robbins, S.P., & Judge, T.A. (2019). Organizational behavior. Pearson.
Schein, E.H. (2010). Organizational culture and leadership. John Wiley & Sons.
Senge, P.M. (1990). The fifth discipline: the Art & Practice of Learning Organization. New York: Doubleday Currence,
Waterman Jr, R. H., Peters, T.J., and Phillips, J. R. (1980). The structure is not an organization. Business Horizons, 23(3), 14-26.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2024 Interdisciplinary Academic and Research Journal

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ลิขสิทธิ์ในบทความใดๆ ใน Interdisciplinary Academic and Research Journal ยังคงเป็นของผู้เขียนภายใต้ ภายใต้ Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License การอนุญาตให้ใช้ข้อความ เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ของสิ่งพิมพ์ ผู้ใช้ใดๆ เพื่ออ่าน ดาวน์โหลด คัดลอก แจกจ่าย พิมพ์ ค้นหา หรือลิงก์ไปยังบทความฉบับเต็ม รวบรวมข้อมูลเพื่อจัดทำดัชนี ส่งต่อเป็นข้อมูลไปยังซอฟต์แวร์ หรือใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมายอื่นใด แต่ห้ามนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์หรือด้วยเจตนาที่จะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจใดๆ





