อิทธิพลของคุณภาพชีวิตการทำงาน และความผูกพันต่อองค์การที่มีผลต่อภาวะหมดไฟ ในการทำงานของบุคลากรสำนักงานจัดรูปที่ดิน และจัดระบบน้ำเพื่อเกษตรกรรมที่ 9

ผู้แต่ง

  • ศุภชัย เครือคำ สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร https://orcid.org/0009-0002-3615-184X
  • สัญญาศรณ์ สวัสดิ์ไธสง สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร https://orcid.org/0000-0002-6017-7321
  • ละมัย ร่มเย็น สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร https://orcid.org/0000-0001-9969-8688

DOI:

https://doi.org/10.60027/iarj.2024.275377

คำสำคัญ:

คุณภาพชีวิตการทำงาน; , ภาวะหมดไฟในการทำงาน; , ความผูกพันต่อองค์การ

บทคัดย่อ

ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: การทำงานของบุคคลนั้น ไม่ว่าจะเป็นงานลักษณะใดมีผลตอบแทนเช่นใด หรือใช้ความรู้ความสามารถและความรับผิดชอบที่แตกต่างกันอย่างไร ต่างก็มีความเครียดจากการทำงาน ซึ่งความเครียดนั้น หากมีการสะสมไว้ในระยะเวลาที่ยาวนานและไม่ได้รับการแก้ไข อาจนำมาซึ่งภาวะหมดไฟในการทำงาน (Burnout) ดังนั้นการวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณโดยใช้วิธีการสำรวจ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาระดับคุณภาพชีวิตการทำงาน ความผูกพันต่อองค์การและภาวะหมดไฟในการทำงานของบุคลากรสำนักงานจัดรูปที่ดิน และจัดระบบน้ำเพื่อเกษตรกรรมที่ 9 (2) ศึกษาอิทธิพลของคุณภาพชีวิตการทำงานที่ส่งผลต่อภาวะหมดไฟในการทำงานของบุคลากรสำนักงานจัดรูปที่ดิน และจัดระบบน้ำเพื่อเกษตรกรรมที่ 9 (3) ศึกษาอิทธิพลของคุณภาพชีวิตการทำงานที่ส่งผลต่อความผูกพันต่อองค์การของบุคลากรสำนักงานจัดรูปที่ดิน และจัดระบบน้ำเพื่อเกษตรกรรมที่ 9 (4) ศึกษาอิทธิพลของความผูกพันต่อองค์การที่ส่งผลต่อภาวะหมดไฟในการทำงานของบุคลากรสำนักงานจัดรูปที่ดิน และจัดระบบน้ำเพื่อเกษตรกรรมที่ 9

ระเบียบวิธีการวิจัย: กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ บุคลากรของสำนักงานจัดรูปที่ดิน และจัดระบบน้ำเพื่อเกษตรกรรมที่ 9 จำนวน 171 คน ใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบชั้นภูมิ โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือ ในการเก็บรวบรวมข้อมูล สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ

ผลการวิจัย: (1) คุณภาพชีวิตการทำงานของบุคลากรสำนักงานจัดรูปที่ดินและจัดระบบน้ำเพื่อเกษตรกรรมที่ 9 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ความผูกพันต่อองค์การของบุคลากรสำนักงานจัดรูปที่ดิน และจัดระบบน้ำเพื่อเกษตรกรรมที่ 9 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ภาวะหมดไฟในการทำงานของบุคลากรสำนักงานจัดรูปที่ดิน และจัดระบบน้ำเพื่อเกษตรกรรมที่ 9 โดยภาพรวมอยู่ในระดับน้อย ตัวแปรคุณภาพชีวิตการทำงานสามารถร่วมกันทำนายภาวะหมดไฟในการทำงานของบุคลากรสำนักงานจัดรูปที่ดิน และจัดระบบน้ำเพื่อเกษตรกรรมที่ 9 ได้ร้อยละ 37.90 (R2Adj=.379) เมื่อพิจารณาองค์ประกอบย่อยของตัวแปรคุณภาพชีวิตการทำงาน พบว่า การได้รับการยอมรับจากเพื่อนร่วมงาน (β=-.437) และค่าตอบแทนที่เพียงพอและยุติธรรม (β=-.407) มีอิทธิพลทางลบต่อภาวะหมดไฟในการทำงาน ส่วนโอกาสความก้าวหน้าและพัฒนาความสามารถ (β=.363) และความสมดุลระหว่างภาระงานกับชีวิตส่วนตัว (β=.265) มีอิทธิพลทางบวกต่อภาวะหมดไฟในการทำงาน (3) ตัวแปรคุณภาพชีวิตการทำงาน สามารถร่วมกันทำนายความผูกพันต่อองค์การของบุคลากรสำนักงานจัดรูปที่ดิน และจัดระบบน้ำเพื่อเกษตรกรรมที่ 9 ได้ร้อยละ 82.80 (R2Adj=.828) เมื่อพิจารณาองค์ประกอบย่อยของตัวแปรคุณภาพชีวิตการทำงาน พบว่า ตัวแปรที่มีค่าสัมประสิทธิ์การถดถอยสูงที่สุด ได้แก่ ด้านสิทธิส่วนบุคคลในสถานที่ทำงาน (β=.414) รองลงมาคือ ด้านความก้าวหน้าและความมั่นคงในงาน (β=.400) ด้านความเป็นประโยชน์ต่อสังคม (β=.255) ด้านสภาพแวดล้อมการทำงานที่สะดวกและปลอดภัย (β=.141) และด้านค่าตอบแทนที่เพียงพอและยุติธรรม (β=.127) (4) ตัวแปรความผูกพันต่อองค์การ สามารถทำนายภาวะหมดไฟในการทำงานของบุคลากรสำนักงานจัดรูปที่ดิน และจัดระบบน้ำเพื่อเกษตรกรรมที่ 9 ได้ร้อยละ 25.80 (R2Adj=.258) เมื่อพิจารณาองค์ประกอบย่อยของตัวแปรความผูกพันต่อองค์การ พบว่า ตัวแปรที่มีค่าสัมประสิทธิ์การถดถอยสูงที่สุด ได้แก่ ด้านความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะคงไว้ซึ่งความเป็นสมาชิกภาพขององค์กร (β=-.486) ยกเว้นด้านความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าและการยอมรับเป้าหมายและค่านิยมขององค์กร และด้านความเต็มใจที่จะทุ่มเทความพยายามอย่างมากเพื่อประโยชน์ขององค์กร

สรุปผล: การศึกษานี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของระดับความเหนื่อยหน่ายของพนักงานที่ได้รับอิทธิพลจากคุณภาพชีวิตการทำงานและความมุ่งมั่นขององค์กร องค์กรสามารถปรับปรุงความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานและลดอันตรายจากความเหนื่อยหน่ายโดยให้ความสำคัญกับองค์ประกอบต่างๆ เช่น โอกาสในการเลื่อนตำแหน่ง ค่าตอบแทนที่ยุติธรรม และวัฒนธรรมการทำงานและสภาพแวดล้อมที่สนับสนุน ผลลัพธ์เหล่านี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการดำเนินการป้องกันเพื่อจัดการกับตัวแปรในที่ทำงานที่นำไปสู่ความเหนื่อยหน่าย ซึ่งในที่สุดจะส่งเสริมพนักงานที่แข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

เอกสารอ้างอิง

กัญญา บุดดาจันทร์. (2563). คุณภาพชีวิตการทำงานที่ส่งผลต่อความผูกพันต่อองค์การของบุคลากรสายสนับสนุนสังกัดโรงพยาบาลนครพนม. วิทยานิพนธ์รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต: มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร.

เชิดชาย ฉิมบุรุษ. (2563). ปัจจัยคุณภาพชีวิตในการทำงานที่ส่งผลต่อภาวะหมดไฟในการทำงานของครูในโรงเรียนที่สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 4 จังหวัดสระบุรี. วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.

เฌอพัชญ์ ใจสะอาด. (2562). ปัจจัยที่มีผลต่อภาวะหมดไฟในการทำงานของพนักงานฝ่ายทรัพยากรบุคคล บริษัท เอ็นเอ็มบี-มินีแบไทย จำกัด. รายงานการวิจัย. กรุงเทพฯ: คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยรามคำแหง.

ธนพร พงศ์บุญชู. (2559). อิทธิพลกำกับของภาวะผู้นำที่มีต่อความสัมพันธ์ระหว่างความเครียดในการทำงาน ภาวะหมดไฟในการทำงานและพฤติกรรมการทำงานที่เบี่ยงเบน. การค้นคว้าอิสระบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต: คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

ปมิตตา เจริญรัตนอัมพร. (2563). ลักษณะส่วนบุคคล การสื่อสารภายในองค์การ และความผูกพันต่อองค์การ กับภาวะหมดไฟในการทำงานของพนักงานบริษัทเอกชน. วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

ประยุทธ อิศดุลย์. (2552). การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างแรงจูงใจในการทำงานกับความผูกพันต่อองค์กรของพนักงานบริษัท เอเชียน สแตนเลย์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด. ปริญญานิพนธ์บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร.

ปิยะพงศ์ นันทวงศ์. (2550). ความพึงพอใจในงานและความผูกพันต่อองค์กรของพนักงาน ในโรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ของบริษัทฯ ในกลุ่มสมบูรณ์. วิทยานิพนธ์ปริญญาวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการ: สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง.

พรชัย สิทธิศรัณย์กุล. (2562). BURNOUT หมดไฟในการทำงาน ภาวะคุกคามคุณภาพชีวิตแห่งโลกยุคใหม่. Retrieved on 16 April 2023. from: https://chulalongkornhospital.go.th/kcmh/burnout

พรพิมล พงษ์โหมด (2560).คุณภาพชีวิตในการทำงาน ความเหนื่อยหน่ายในงานและความตั้งใจลาออก ของพยาบาลแผนกวิกฤตโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาจิตวิทยาอุตสาหกรรมและองค์การ: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

พรหมพร ภู่คุ้ม. (2562). ความสัมพันธ์ระหว่างคุณภาพชีวิตในการทำงาน พฤติกรรมต่อต้านการปฏิบัติงาน และความตั้งใจในการลาออกของพนักงานบริษัทเอกชนวัยเริ่มทำงาน. วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

พระมหารัฐพงษ์ พรมหากุล. (2563). อิทธิพลของปัจจัยส่วนบุคคลและคุณภาพชีวิตการทำงานที่ส่งผลต่อความผูกพันต่อองค์การของบุคลากรโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษากลุ่มที่ 8. วิทยานิพนธ์รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต. สกลนคร: มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร.

ภูรดา ไทยสงวนวรกุล. (2556). ความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้การปฏิบัติตามหลักไตรสิกขา คุณภาพชีวิต ในการทำ งานกับภาวะหมดไฟ กรณีศึกษาเจ้าหน้าที่พลศึกษาในเขตภาคกลาง. วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต: มหาวิทยาลัยรามคำแหง.

วุฒิพงษ์ พร้อมสุข. (2561). อิทธิพลของวัฒนธรรมองค์การ คุณภาพชีวิตการทำงานที่มีผลต่อความผูกพันต่อองค์การของข้าราชการตำรวจ สังกัดกองบังคับการตำรวจภูธรขอนแก่น กลุ่มเลย 5. วิทยานิพนธ์รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต: มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร.

ศรีสกุล เฉียบแหลม. (2562). ภาวะหมดไฟในการทำงาน. จันทบุรี: วิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้าจันทบุรี.

สำนักงานจัดรูปที่ดิน และจัดระบบน้ำเพื่อเกษตรกรรมที่ 9, (2565). ข้อมูลสถิติบุคลากรของสำนักงานจัดรูปที่ดิน และจัดระบบน้ำเพื่อเกษตรกรรมที่ 9. สำนักงานจัดรูปที่ดิน และจัดระบบน้ำเพื่อเกษตรกรรมที่ 9

สิน พันธุ์พินิจ. (2554). เทคนิคการวิจัยทางสังคมศาสตร์. กรุงเทพฯ: บริษัทวิทยพัฒน์ จำกัด.

อิสราภรณ์ รัตนคช. (2551). ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคลและคุณภาพชีวิตการทํางานกับความผูกพันต่อองค์การ ของบุคลากรสายสนับสนุนที่ปฏิบัติงาน : กรณีศึกษาเฉพาะมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตปัตตานี. รายงานการวิจัย. ปัตตานี: มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตปัตตานี.

เอกลักษณ์ ชมพูชัย. (2561). การศึกษาคุณภาพชีวิตการทำงานที่ส่งผลต่อความผูกพันต่อองค์กร กรณีศึกษา พนักงานที่ทำงานอยู่ภายในการดูแลของบริษัท สกิลพาวเวอร์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด (แมนพาวเวอร์ สาขาลำพูน). วิทยานิพนธ์บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต: มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่.

Freudenberger, H. J. (1974). Staff burn-out. Journal of Social Issues, 30(1), 159-165.

Halbesleben, J. R., & Buckley, M. R. (2004). Burnout in organizational life. Journal of Management, 30(6), 859-879.

Javed, R., Amjad, M., Faqeer-Ul-Ummi, U.Y., & Bukhari, R. (2014). Investigating factors affecting employee workplace deviant behavior. International Journal of Innovation & Applied Studies, 9(3), 1073-1078.

Leiter, M. P., & Maslach, C. (2009). Nurse turnover: The mediating role of burnout. Journal of Nursing Management, 17(3), 331-339.

Maslach, C., & Jackson, S. E. (1986). Burnout Research in the Social Services: A Critique. Journal of Social Service Research, 10, 95-105. http://dx.doi.org/10.1300/J079v10n01_09

Maslach, C., & Leiter, M. P. (2016). Understanding the burnout experience: Recent research and its implications for psychiatry. World Psychiatry, 15(2), 103-111.

Maslach, C., Schaufeli, W. B., & Leiter, M. P. (2001). Job burnout. Annual Review of Psychology, 52(1), 397-422.

Steers, R. M. (1977). Antecedents and Outcome of Organizational Commitment. Administrative Science Quarterly.

Walton, R.E. (1973). Quality of Work Life: What Is It? Sloan Management Review, 15, 11-21.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2024-05-30

รูปแบบการอ้างอิง

เครือคำ ศ. ., สวัสดิ์ไธสง ส., & ร่มเย็น ล. . (2024). อิทธิพลของคุณภาพชีวิตการทำงาน และความผูกพันต่อองค์การที่มีผลต่อภาวะหมดไฟ ในการทำงานของบุคลากรสำนักงานจัดรูปที่ดิน และจัดระบบน้ำเพื่อเกษตรกรรมที่ 9. Interdisciplinary Academic and Research Journal, 4(3), 249–274. https://doi.org/10.60027/iarj.2024.275377

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิชาการ