ความสัมพันธ์ระหว่างการนอนดันบาร์เบลกับการนอนดึงบาร์เบล การนอนดันบาร์เบลกับการพายบนเครื่องพายเรืออยู่กับที่และการนอนดึงบาร์เบลกับการพายบนเครื่องพายเรืออยู่กับที่ของนักกีฬาเรือพายที่เข้าร่วมการคัดเลือกเป็นนักกีฬาตัวแทนทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่ต่ำกว่า 50 ปี ประจำปี 2565
DOI:
https://doi.org/10.60027/iarj.2024.274419คำสำคัญ:
การนอนดันบาร์เบล; , การนอนดึงบาร์เบล; , การพายบนเครื่องพายเรืออยู่กับที่บทคัดย่อ
ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: การกีฬาเป็นสิ่งที่มีจุดประสงค์พื้นฐานที่จะส่งเสริมให้ร่างกายแข็งแรงและสามารถที่จะแสดงฝีมือในเชิงกีฬา กีฬาเรือพายเป็นกีฬาที่ใช้ความอดทนและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ เป็นปัจจัยสำคัญ โดยมีความสัมพันธ์ของทีมและทักษะของการพายเป็นปัจจัยร่วมในการทำงานของร่างกาย งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการนอนดันบาร์เบลกับการนอนดึงบาร์เบล การนอนดันบาร์เบลกับการพายบนเครื่องพายเรืออยู่กับที่และการนอนดึงบาร์เบลกับการพายบนเครื่องพายเรืออยู่กับที่
ระเบียบวิธีการวิจัย: กลุ่มเป้าหมาย คือ ประชาชนชายที่เข้าร่วมการคัดเลือกเป็นนักกีฬาเรือพายตัวแทนทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่ต่ำกว่า 50 ปี ในปี พ.ศ. 2565 จำนวน 42 คน ประกอบด้วย กลุ่มคนถนัดพายทางขวา 23 คน และกลุ่มคนถนัดพายทางซ้าย 19 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบทดสอบสมรรถภาพของนักกีฬาเรือพายของสมาคมกีฬาเรือพายแห่งประเทศไทย จำนวน 3 รายการ ได้แก่ 1) การทดสอบการนอนดันบาร์เบล 2นาที ที่น้ำหนัก 80% ของน้ำหนักตัว 2) การทดสอบการนอนดึงบาร์เบล 2 นาที ที่น้ำหนัก 80% ของน้ำหนักตัว 3) การทดสอบการพายบนเครื่องพายเรืออยู่กับที่ ระยะ 500 เมตร วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการคำนวณหาค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน (Pearson’s product-moment correlation coefficient) โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป
ผลการวิจัย: (1) ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ระหว่างการนอนดันบาร์เบลกับการนอนดึงบาร์เบลของคนถนัดพายทางขวา เท่ากับ .783 อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .01 (2) ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ระหว่างการนอนดันบาร์เบลกับการนอนดึงบาร์เบลของคนถนัดพายทางซ้าย เท่ากับ .765 อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .01 (3) ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ระหว่างการนอนดันบาร์เบลกับการนอนดึงบาร์เบลของคนถนัดพายทางขวาและทางซ้ายรวมกัน เท่ากับ .782 อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .01 (4) ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ระหว่างการนอนดันบาร์เบลกับการพายบนเครื่องพายเรืออยู่กับที่ของคนถนัดพายทางขวา เท่ากับ -.469 อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05 (5) ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ระหว่างการนอนดันบาร์เบลกับการพายบนเครื่องพายเรืออยู่กับที่ของคนพายทางซ้าย เท่ากับ -.327 อย่างไม่มีนัยสำคัญที่ระดับ .05 (6) ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ระหว่างการนอนดันบาร์เบลกับการพายบนเครื่องพายเรืออยู่กับที่ของคนถนัดพายทางขวาและทางซ้ายรวมกัน เท่ากับ -.420 อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .01 (7) ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ระหว่างการนอนดึงบาร์เบลกับการพายบนเครื่องพายเรืออยู่กับที่ของคนถนัดพายทางขวา เท่ากับ -.706 อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .01 (8) ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ระหว่างการนอนดึงบาร์เบลกับการพายบนเครื่องพายเรืออยู่กับที่ของคนถนัดพายทางซ้ายเท่ากับ -.323 อย่างไม่มีนัยสำคัญที่ระดับ .05 และ (9) ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ระหว่างการนอนดึงบาร์เบลกับการพายบนเครื่องพายเรืออยู่กับที่ของคนถนัดพายทางขวาและทางซ้ายรวมกัน เท่ากับ -.541 อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .01
สรุปผล: ผลการวิเคราะห์ความสัมพันธ์แสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างประสิทธิภาพของการนอนดันบาร์เบล, การนอนดึงบาร์เบลและการพายบนเครื่องพายเรืออยู่กับที่ได้รับผลกระทบอย่างมากจากความสามารถในการพายเรือ ไม่ว่าจะซ้าย ขวา หรือทั้งสองอย่าง การนอนดันบาร์เบล และการพายบนเครื่องพายเรืออยู่กับที่ มีความสัมพันธ์เชิงลบอย่างชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มการพายเรือด้านขวา ในขณะที่ การนอนดันบาร์เบล และ การนอนดึงบาร์เบล แสดงความสัมพันธ์เชิงบวกที่แข็งแกร่งในกลุ่มการพายทั้งด้านขวาและด้านซ้าย นอกจากนี้ สำหรับทุกกลุ่มความสามารถ การนอนดึงบาร์เบลยังแสดงความสัมพันธ์เชิงลบอย่างต่อเนื่องกับประสิทธิภาพของการพายบนเครื่องพายเรืออยู่กับที่ซึ่งบ่งบอกถึงผลกระทบที่เป็นเอกลักษณ์ของความสามารถในการพายเรือที่มีต่อประสิทธิภาพของการพายบนเครื่องพายเรืออยู่กับที่
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา. (2550). แผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2550-2554). กรุงเทพมหานคร: กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา.
เกรียงไกร รอดปัญญา, และศาสตราวิทย์ วงศ์บุตรลีวัฒนา. (2566). ความสัมพันธ์ระหว่างเวลาการพายเรือ การลุกนั่ง การดันพื้น และอัตราชีพจรของนักกีฬาเรือพาย ประเภททีมผสม ชมรมกีฬาเรือพายอาวุโสจังหวัดสมุทรปราการ. วารสารสหวิทยาการวิจัยและวิชาการ, 3(2), 307-318.
ถนอมศักดิ์ เสนาคำ, เกริกวิทย์ พงศ์ศรี, ศิริเชษฐ์ พูลทิพายานนท์, และณพล สุวรรณทัต. (2558). การพยากรณ์สมรรถนะของการพายเรือมังกรประเภทสปริ๊นระยะ 500 เมตร ในนักกีฬาเรือพายเพศหญิง. วารสารคณะพลศึกษา, 18 (1), 69-78.
นภพร ทัศนัยนา. (2536). ปัจจัยคัดสรรที่มีผลต่อความสำเร็จมนการแข่งขันกีฬา. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต: สาขาวิชาพลศึกษา, บัณฑิตวิทยาลัย, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
นุชบา พลกุล และคุรุศาสตร์ คนหาญ. (2562). ความสัมพันธ์ระหว่างอัตราการใช้พลังงานของรยางค์ร่างกายกับความเร็วของการพายในนักกีฬาเรือกรรเชียงชายระดับทีมชาติ. การประชุมทางวิชาการเสนอผลงานวิจัยระดับบัณฑิตศึกษาแห่งชาติ ครั้งที่ 20 วันที่ 15 มีนาคม 2562 มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
พระราชบัญญัติการกีฬาแห่งประเทศไทย พุทธศักราช 2528. ราชกิจจานุเบกษา, เล่ม 102 ตอน 149 ฉบับพิเศษ, 17 ตุลาคม พ.ศ. 2528 หน้า 1-23.
พวงรัตน์ ทวีรัตน์. (2543). การสร้างและพัฒนาแบบทดสอบผลสัมฤทธิ์. กรุงเทพฯ: สำนักทดสอบทางการศึกษาและจิตวิทยา, มหาวิทยาลัยศรีนครินวิโรฒประสานมิตร.
ศุภามาส อังศุโชติ. (2565). เทคนิคการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร. Retrieved on December 15, 2022 from:https://www.stou.ac.th/offices/ore/info/cae/uploads/pdf/636366560441132172.pdf
เสาวนีย์ คำแสง. (2561). ผลการฝึกพลัยโอเมตริกด้วยเมดิซินบอลและการฝึกเวทเทรนนิ่งต่อความเร็วในการพายเรือมังกร. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต: มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ.
Gentil, P., Bottaro, M., Oliveira, E., & Nosaka, K. (2006). Muscle activation during bench press exercises performed with and without the preexhaustion method. Journal of Strength and Conditioning Research, 20(3), 696-699.
Kongpetch, C. (2020). Exercise for the elderly. Thai Journal of Nursing, 68(4), 64–71. Retrieved from https://he02.tci-thaijo.org/index.php/TJN/article/view/233553
Suchomel, T. J., Nimphius, S., & Stone, M. H. (2016). The importance of muscular strength: training considerations. Sports Medicine, 46(10), 1419-1449.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2024 Interdisciplinary Academic and Research Journal

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ลิขสิทธิ์ในบทความใดๆ ใน Interdisciplinary Academic and Research Journal ยังคงเป็นของผู้เขียนภายใต้ ภายใต้ Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License การอนุญาตให้ใช้ข้อความ เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ของสิ่งพิมพ์ ผู้ใช้ใดๆ เพื่ออ่าน ดาวน์โหลด คัดลอก แจกจ่าย พิมพ์ ค้นหา หรือลิงก์ไปยังบทความฉบับเต็ม รวบรวมข้อมูลเพื่อจัดทำดัชนี ส่งต่อเป็นข้อมูลไปยังซอฟต์แวร์ หรือใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมายอื่นใด แต่ห้ามนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์หรือด้วยเจตนาที่จะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจใดๆ





