ผลสมรรถภาพทางกายของนักศึกษาคณะบริหารธุรกิจชั้นปีที่ 1 ในรายวิชากีฬาเพื่อสุขภาพ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี
DOI:
https://doi.org/10.60027/iarj.2024.272267คำสำคัญ:
สมรรถภาพทางกาย; , ความหนาของไขมันใต้ผิวหนัง; , การนั่งงอตัวไปข้างหน้า; , แรงบีบมือ; , การยืน – นั่งบนเก้าอี้; , การวิ่งอ้อมหลัก; , การก้าวเป็นจังหวะ,บทคัดย่อ
ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: การทดสอบสมรรถภาพทางกาย เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งในการเรียนการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษารวมถึงนักศึกษาศึกษาศาสตร์ที่ศึกษาในรายวิชากีฬาเพื่อสุขภาพ ซึ่งเป็นดัชนีบ่งชี้ให้ครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสมรรถภาพทางกายของนักศึกษาคณะบริหารธุรกิจชั้นปีที่ 1 ในรายวิชากีฬาเพื่อสุขภาพ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ปีการศึกษา 2565
ระเบียบวิธีการวิจัย: กลุ่มตัวอย่างเป็นนักศึกษาคณะบริหารธุรกิจชั้นปีที่ 1 ในรายวิชากีฬาเพื่อสุขภาพ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ปีการศึกษา 2565 ชั้นปีที่ 1 จำนวนทั้งสิ้น 67 คน แบ่งเป็นชาย 6 คนและ หญิง 61 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ยค่า ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และร้อยละ
ผลการวิจัย: สมรรถภาพทางกายของนักศึกษาชายและนักศึกษาหญิง มีสมรรถภาพทางกาย ความหนาของไขมันใต้ผิวหนังอยู่ในระดับดี มากที่สุดคิดเป็นร้อยละ 46.49 และ 45.80 นั่งงอตัวไปข้างหน้าอยู่ในระดับดี มากที่สุดคิดเป็นร้อยละ 45.09 และ 46.87 แรงบีบมือ อยู่ในระดับดีมาก มากที่สุดคิดเป็นร้อยละ 38.63 และ 32.38 ยืน – นั่งบนเก้าอี้ 60 วินาที อยู่ในระดับดีมาก มากที่สุดคิดเป็นร้อยละ 56.90 และ 57.96 วิ่งอ้อมหลักอยู่ในระดับดีมาก มากที่สุดคิดเป็นร้อยละ 35.13 และ 35.78 ก้าวเป็นจังหวะ 3 นาที อยู่ในระดับปานกลางมากที่สุดคิดเป็นร้อยละ 33.41 และ 30.6
สรุปผล: กลุ่มตัวอย่างมีสมรรถภาพทางกายส่วนใหญ่อยู่ในระดับดี และดีมากแสดงว่านักศึกษาได้มีการดูแลตนเองเพื่อให้มีสมรรถภาพทางกายที่ดี แต่ถึงอย่างไรก็ตามมีบางด้านที่จะต้องดำเนินการปรับปรุงเพื่อกระตุ้นให้มีการพัฒนาสมรรถภาพทางกายดีกว่าปัจจุบัน คือความอดทนของระบบหัวใจและการไหลเวียนเลือดอยู่ในระดับปานกลาง
เอกสารอ้างอิง
กรมพลศึกษา (2562). ฐานข้อมูลสมรรถภาพทางกายของประชาชนในประเทศไทย. สำนักวิทยาศาสตร์การกีฬา.
กรมพลศึกษา. (2556). การยืดเหยียดกล้ามเนื้อแบบ Dynamic Stretching สำหรับนักกีฬา. กรุงเทพฯ: กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา.
จตุรงค์ เหมรา. (2560). หลักการและการปฏิบัติ: การทดสอบสมรรถภาพทางกาย. หจก.ลำปาง บรรณกิจพริ้งติ้ง.
เจริญ กระบวนรัตน์. (2552). การยืดเหยียดกล้ามเนื้อ Stretching Exercise. กรุงเทพฯ: ศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
เจริญ กระบวนรัตน์. (2557). วิทยาศาสตร์การฝึกสอนกีฬา: SCIENCE OF COACHING. กรุงเทพฯ : บริษัทสินธนาก๊อปปี้เซ็นเตอร์ จำกัด
ชูศักดิ์ เวชแพศย์. (2515). สรีรวิทยาการออกกำลังกาย. กรุงเทพ ฯ : ภาควิชาสรีรวิทยา มหาวิทยาลัยมหิดล.
ณัฐพล ผาลีพัฒน์. (2556). สารศูนย์กีฬาและสุขภาพ. มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
ปรีชาเวท สุขเกิน. (2564). สมรรถภาพทางกายด้านความอ่อนตัวและด้านความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ของนักศึกษาคณะศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ ประจำภาคเหนือ. วิทยานิพนธ์หลักสูตรศึกษาศาสตรมหาบัณทิต สาขาวิชาพลศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติวิทยาเขตเชียงใหม่.
พัชมน ถวัลย์วาณิชกุล วรรณพร ทองตะโก และถนอมวงศ์ กฤษณ์เพ็ชร. (2560). ผลของโปรแกรม การฝึกแบบวงจรด้วยกลุ่มเพื่อนที่มีต่อสมรรถภาพทางกายของวัยรุ่นหญิงที่มีภาวะน้ำหนักเกิน. วารสารวิทยาศาสตร์การกีฬาและสุขภาพ. 18 (1), 77-92.
พิชิต ภูติจันทร์ และคณะ (2542). วิทยาศาสตร์การกีฬา. กรุงเทพฯ: แสงศิลป์การพิมพ์
รัญชนา หน่อคำ, ศิริรัตน์ ปานอุทัย, ทศพล คำผลศิริ. (2559). ผลของการออกกำลังกายแบบก้าวตามตารางต่อการทรงตัวในผู้สูงอายุ. พยาบาลสาร, 43 (3), 58-68.
วรวุฒิ สวัสดิชัย (2551).สมรรถภาพทางกายของนักศกษามหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ชั้นปีที่ 1 ปีการศึกษา 2550. ปริญญานิพนธ์ กศ.ม. (พลศึกษา). กรุงเทพ ฯ : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
Action for Healthy Kids. (2023). Fitness Testing. Retrieved from: https://www.actionforhealthykids.org/activity/fitness-testing/
J. Flowers Health Institute. (2023). Physical Fitness Testing for Mental Health. Retrieved from: https://jflowershealth.com/physical-fitness-testing/
Kumar, S., & Singh, A., (2023). Importance of Physical Fitness Assessment. Retrieved from: https://www.linkedin.com/pulse/importance-physical-fitness-assessment-anirudh-singh
Quinn, E. (2023). How a Fitness Test Is Performed. Retrieved from: https://www.verywellfit.com/what-a-fitness-test-can-tell-you-about-your-health-3120283
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2024 Piyawat Talubtong, Nannapat Pholtan

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ลิขสิทธิ์ในบทความใดๆ ใน Interdisciplinary Academic and Research Journal ยังคงเป็นของผู้เขียนภายใต้ ภายใต้ Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License การอนุญาตให้ใช้ข้อความ เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ของสิ่งพิมพ์ ผู้ใช้ใดๆ เพื่ออ่าน ดาวน์โหลด คัดลอก แจกจ่าย พิมพ์ ค้นหา หรือลิงก์ไปยังบทความฉบับเต็ม รวบรวมข้อมูลเพื่อจัดทำดัชนี ส่งต่อเป็นข้อมูลไปยังซอฟต์แวร์ หรือใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมายอื่นใด แต่ห้ามนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์หรือด้วยเจตนาที่จะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจใดๆ





