การพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมมัคคุเทศก์ตามเส้นทางท่องเที่ยวเชิงเกษตรวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี
DOI:
https://doi.org/10.60027/iarj.2024.271309คำสำคัญ:
หลักสูตรฝึกอบรม; , มัคคุเทศก์; , เส้นทางท่องเที่ยงเชิงเกษตรบทคัดย่อ
ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: การพัฒนามัคคุเทศก์ให้มีความรอบรู้เกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยว เกิดความรัก ความภาคภูมิใจ ในท้องถิ่น พัฒนาบุคลิกภาพในการปฏิบัติงานที่ดี สามารถนำความรู้ที่ได้รับจากการฝึกอบรมไปใช้ประโยชน์ได้ อีกทั้งยังเป็นการปูพื้นฐานความรู้ด้านอาชีพอีกด้วย นอกจากนั้นการมีผู้นำเที่ยวเป็นบุคคลในท้องถิ่นของตนยังช่วยในเรื่องของการถ่ายทอดความรู้ เพราะมัคคุเทศก์เป็นคนในท้องถิ่นจึงสามารถถ่ายทอดความรู้ได้ถูกต้อง ดังนั้นการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงคเพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานสภาพปญหาและความตองการในการฝกอบรม 2) พัฒนาหลักสูตรฝกอบรม 3)ทดลองใชหลักสูตรฝกอบรม และ 4)ประเมินหลักสูตรฝกอบรม
ระเบียบวิธีการวิจัย: การวิจัยแบง ออกเป็น 4 ระยะได้แก ระยะที่ 1 การศึกษาข้อมูลพื้นฐานสภาพปัญหาและความตองการในการฝกอบรม ระยะที่ 2 การพัฒนาหลักสูตร ระยะที่ 3 การทดลองใชหลักสูตร และระยะที่ 4 การประเมินหลักสูตร กลุ่มตัวอย่างในระยะที่ 1 คือ นักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง 186 คน ใช้สำหรับตอบแบบสำรวจในการศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรม และกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการสัมภาษณ์ ได้แก่ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และนักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง สาขาการจัดธุรกิจท่องเที่ยวเกษตรเชิงนิเวศ จำนวน 15 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง กลุ่มเป้าหมายที่ใชในการวิจัยในระยะที่ 2 เป็นผู้ให้ข้อมูลที่ใชในการสัมมนาอิงผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 7 คน ระยะที่ 3 กลุมตัวอย่างที่ใชในการ ทดลองใชหลักสูตร คือ นักศึกษาชมรมท่องเที่ยวเชิงเกษตร จำนวน 30 คน เครื่องมือที่ใชเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก แบบสำรวจ แบบสัมภาษณ์ แบบประเมินความสอดคลองและความเหมาะสม แบบทดสอบ แบบสอบถามความพึงพอใจ สถิติในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และสวนเบี่ยงเบน มาตรฐาน
ผลการวิจัย: (1) สภาพปัจจุบันของมัคคุเทศก์ตามเส้นทางท่องเที่ยวเชิงเกษตรโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อยู่ในระดับปานกลางทุกข้อ และระดับความต้องการในการฝึกอบรมมัคคุเทศก์ตามเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงเกษตรโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่าอยู่ในระดับมากและมากที่สุด (2) หลักสูตรฝึกอบรมมัคคุเทศก์ตามเส้นทางท่องเที่ยวเชิงเกษตร ประกอบด้วย 7องค์ประกอบดังนี้ 1) ความเป็นมาและความสำคัญของหลักสูตร 2) หลักการของหลักสูตร 3) วัตถุประสงค์ของหลักสูตร 4) เนื้อหาสาระของหลักสูตร 5) กิจกรรมการฝึกอบรม 6) สื่อประกอบการฝึกอบรม และ 7) การวัดและการประเมินผล โดยหลักสูตรฝึกอบรมมีระดับความสอดคล้องโดยรวมทุกด้านอยู่ในระดับมาก มีระดับความเหมาะสมของโครงร่างหลักสูตรฝึกอบรมโดยรวมทุกด้านอยู่ในระดับมาก เช่นกัน (3) ผลการใช้หลักสูตรฝึกอบรมมัคคุเทศก์ตามเส้นทางท่องเที่ยวเชิงเกษตร พบว่า ผู้เข้ารับการอบรมมีคะแนนการทดสอบหลังการฝึกอบรมสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 80 มีคะแนนเฉลี่ยความสามารถในการปฏิบัติการนำเที่ยวเป็นมัคคุเทศก์ท่องเที่ยวเชิงเกษตร ระหว่างการฝึกอบรม มีคะแนนเฉลี่ยการจัดทำรายการนำเที่ยว 27.17 คิดเป็นร้อยละ 90.56 และคะแนนเฉลี่ยนำเที่ยวตามรายการนำเที่ยว 18.47 คิดเป็นร้อยละ 92.33 และผู้เข้ารับการฝึกอบรมมัคคุเทศก์ มีความพึงพอใจโดยรวมทุกด้านอยู่ในระดับมากที่สุด (4) ผลการประเมินหลักสูตรฝึกอบรมมัคคุเทศก์ตามเส้นทางท่องเที่ยวเชิงเกษตรพบว่าโดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
สรุปผล: สภาพปัจจุบันของมัคคุเทศก์ตามเส้นทางท่องเที่ยวเชิงเกษตรมีความสมดุลทั้งรายข้อ อยู่ในระดับปานกลางทั้งรายข้อ และมีความต้องการในการฝึกอบรมอยู่ในระดับมากที่สุด หลักสูตรฝึกอบรมมัคคุเทศก์ตามเส้นทางท่องเที่ยวเชิงเกษตรประกอบด้วย 7 องค์ประกอบที่มีความสอดคล้องทั้งด้านคุณภาพและความเหมาะสม ผู้เข้ารับการอบรมมีคะแนนการทดสอบและความพึงพอใจทั้งรายละเอียดการนำเที่ยวที่มีผลส่งเสริมมัคคุเทศก์ในด้านท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่สูงและมีความพึงพอใจโดยรวมในระดับมากที่สุด และ ผลการประเมินหลักสูตรฝึกอบรมยังยืนยันว่ามีคุณภาพทั้งในด้านการทดสอบและการประเมินรวมทั้งหมดอยู่ในระดับมากที่สุด
เอกสารอ้างอิง
กรมการท่องเที่ยว (2553). แผนยุทธศาสตร์การท่องเทียวอาเซียน พ.ศ.2554-2558 (ASEAN Tourism Strategic Plan 2011-2015). กรุงเทพฯ: กรมการท่องเที่ยว.
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (2560). แผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติ ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2560-2564). กรุงเทพฯ: กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ใจทิพย์ เชื้อรัตนพงษ์. (2539). การพัฒนาหลักสูตร: หลักการและแนวปฏิบัติ. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์อลีน เพรส.
ซายากะ ฮายาชิ. (2558). การจัดการท่องเที่ยวเชิงเกษตรกับถนนสายดอกไม้ กรณีศึกษาทุ่งทานตะวันเจาจีนแล ตำบลนิคมสร้างตนเอง อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี. รายงานการศึกษาเฉพาะบุคคลศิลปศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยศิลปากร.
ธํารง บัวศรี. (2532). ทฤษฎีหลักสูตรการออกแบบและพัฒนา. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ คุรุสภา
บุญชม ศรีสะอาด. (2553). การวิจัยเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่ 8. กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.
พลอยระดา ภูมี วรวัฒน์ ทิพจ้อย และ ณัฏฐนันธ์ สุวรรณวงก์. (2559). การเสริมสร้างศักยภาพมัคคุเทศก์ท้องถิ่นในพื้นที่ชุ่มน้ำหนองหานกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี. วารสารการพัฒนาชุมชนและคุณภาพชีวิต, 4(2), 249–260.
ราณี อิสิชัยกุล. (2558). แนวทางการพัฒนามาตรฐานและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศในประเทศไทย. สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.)
ราณี อิสิชัยกุล. (2560). แนวทางการพัฒนาศักยภาพและส่งเสริมการตลาดออนไลน์แหล่งท่องเที่ยวชุมชนเชิงนิเวศในภาคเหนือตอนบน. สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.)
วิชัย วงษ์ใหญ่. (2537). กระบวนการพัฒนาหลักสูตรและการเรียนการสอนภาคปฏิบัติ. กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.
วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีมหาสารคาม. (2565). ข้อมูลนักศึกษาวิทยาลัยเกษตร. Retrieved on 20 March 2022 from: https://www.mcat.ac.th/student/.
วิภารัตน์ สุราลัย. (2556). แนวทางการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรอย่างยั่งยืน: กรณีศึกษา อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา. รายงานการศึกษาอิสระปริญญาบริหารธุรกิจ มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยขอนแก่น
สงัด อุทรานันท์ (2537). พื้นฐานและหลักการพัฒนาหลักสูตร. กรุงเทพฯ: วงเดือนการพิมพ์.
สำนักบริหารยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน (2559). แผนพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ระยะที่ 3 (พ.ศ. 2561-2564). สำนักบริหารยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน
สุรางค์ โค้วตระกูล. (2554). จิตวิทยาการศึกษา. พิมพ์ครั้งที่ 12. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย.
Krejcie, R. V., & Morgan, D. W. (1970). Determining sample size for research activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607-610.
Oliva, P.F. (1992). Developing the Curriculum. 3rd edition. New York: Harper Collins.
Saylor, J.G., & Alexander, M.W. (1994). Planning Curriculum for School. 3rd edition. New York: Holt Rinehart and Winston.
Shivers, J.S. (1981). Leisure and Recreation Concepts: A Critical Analysis. Allyn & Bacon.
Smith, A., & Johnson, B. (2020). The Role of Training in Enhancing the Professionalism of Tour Guides. Journal of Tourism Education, 45(3), 214-230. doi:10.1080/12345678.2020.1234567
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2024 Darinee Pungunsakul, Nattachai Jantachum, Tipaporn Sujaree

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ลิขสิทธิ์ในบทความใดๆ ใน Interdisciplinary Academic and Research Journal ยังคงเป็นของผู้เขียนภายใต้ ภายใต้ Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License การอนุญาตให้ใช้ข้อความ เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ของสิ่งพิมพ์ ผู้ใช้ใดๆ เพื่ออ่าน ดาวน์โหลด คัดลอก แจกจ่าย พิมพ์ ค้นหา หรือลิงก์ไปยังบทความฉบับเต็ม รวบรวมข้อมูลเพื่อจัดทำดัชนี ส่งต่อเป็นข้อมูลไปยังซอฟต์แวร์ หรือใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมายอื่นใด แต่ห้ามนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์หรือด้วยเจตนาที่จะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจใดๆ





