การพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมมัคคุเทศก์ตามเส้นทางท่องเที่ยวเชิงเกษตรวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี

ผู้แต่ง

  • ดาริณี ปันกันสกุล นักศึกษา สาขาหลักสูตรและการเรียนการสอนคณะครุศาสตร มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม https://orcid.org/0009-0001-2992-7032
  • ณัฐชัย จันทชุม อาจารย์คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม https://orcid.org/0000-0003-4413-1806
  • ทิพาพร สุจารี คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม https://orcid.org/0000-0003-0411-5174

DOI:

https://doi.org/10.60027/iarj.2024.271309

คำสำคัญ:

หลักสูตรฝึกอบรม; , มัคคุเทศก์; , เส้นทางท่องเที่ยงเชิงเกษตร

บทคัดย่อ

ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: การพัฒนามัคคุเทศก์ให้มีความรอบรู้เกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยว เกิดความรัก ความภาคภูมิใจ ในท้องถิ่น พัฒนาบุคลิกภาพในการปฏิบัติงานที่ดี สามารถนำความรู้ที่ได้รับจากการฝึกอบรมไปใช้ประโยชน์ได้ อีกทั้งยังเป็นการปูพื้นฐานความรู้ด้านอาชีพอีกด้วย นอกจากนั้นการมีผู้นำเที่ยวเป็นบุคคลในท้องถิ่นของตนยังช่วยในเรื่องของการถ่ายทอดความรู้ เพราะมัคคุเทศก์เป็นคนในท้องถิ่นจึงสามารถถ่ายทอดความรู้ได้ถูกต้อง ดังนั้นการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงคเพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานสภาพปญหาและความตองการในการฝกอบรม 2) พัฒนาหลักสูตรฝกอบรม 3)ทดลองใชหลักสูตรฝกอบรม และ 4)ประเมินหลักสูตรฝกอบรม

ระเบียบวิธีการวิจัย: การวิจัยแบง ออกเป็น 4 ระยะได้แก ระยะที่ 1 การศึกษาข้อมูลพื้นฐานสภาพปัญหาและความตองการในการฝกอบรม ระยะที่ 2 การพัฒนาหลักสูตร ระยะที่ 3 การทดลองใชหลักสูตร และระยะที่ 4 การประเมินหลักสูตร กลุ่มตัวอย่างในระยะที่ 1 คือ นักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง 186 คน ใช้สำหรับตอบแบบสำรวจในการศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรม และกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการสัมภาษณ์ ได้แก่ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และนักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง สาขาการจัดธุรกิจท่องเที่ยวเกษตรเชิงนิเวศ จำนวน 15 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง กลุ่มเป้าหมายที่ใชในการวิจัยในระยะที่ 2 เป็นผู้ให้ข้อมูลที่ใชในการสัมมนาอิงผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 7 คน ระยะที่ 3 กลุมตัวอย่างที่ใชในการ ทดลองใชหลักสูตร คือ นักศึกษาชมรมท่องเที่ยวเชิงเกษตร จำนวน 30 คน เครื่องมือที่ใชเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก แบบสำรวจ แบบสัมภาษณ์ แบบประเมินความสอดคลองและความเหมาะสม แบบทดสอบ แบบสอบถามความพึงพอใจ สถิติในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และสวนเบี่ยงเบน มาตรฐาน

ผลการวิจัย: (1) สภาพปัจจุบันของมัคคุเทศก์ตามเส้นทางท่องเที่ยวเชิงเกษตรโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อยู่ในระดับปานกลางทุกข้อ และระดับความต้องการในการฝึกอบรมมัคคุเทศก์ตามเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงเกษตรโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่าอยู่ในระดับมากและมากที่สุด (2) หลักสูตรฝึกอบรมมัคคุเทศก์ตามเส้นทางท่องเที่ยวเชิงเกษตร ประกอบด้วย 7องค์ประกอบดังนี้ 1) ความเป็นมาและความสำคัญของหลักสูตร 2) หลักการของหลักสูตร 3) วัตถุประสงค์ของหลักสูตร 4) เนื้อหาสาระของหลักสูตร 5) กิจกรรมการฝึกอบรม 6) สื่อประกอบการฝึกอบรม และ 7) การวัดและการประเมินผล โดยหลักสูตรฝึกอบรมมีระดับความสอดคล้องโดยรวมทุกด้านอยู่ในระดับมาก มีระดับความเหมาะสมของโครงร่างหลักสูตรฝึกอบรมโดยรวมทุกด้านอยู่ในระดับมาก เช่นกัน (3) ผลการใช้หลักสูตรฝึกอบรมมัคคุเทศก์ตามเส้นทางท่องเที่ยวเชิงเกษตร พบว่า ผู้เข้ารับการอบรมมีคะแนนการทดสอบหลังการฝึกอบรมสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 80 มีคะแนนเฉลี่ยความสามารถในการปฏิบัติการนำเที่ยวเป็นมัคคุเทศก์ท่องเที่ยวเชิงเกษตร ระหว่างการฝึกอบรม มีคะแนนเฉลี่ยการจัดทำรายการนำเที่ยว 27.17 คิดเป็นร้อยละ 90.56 และคะแนนเฉลี่ยนำเที่ยวตามรายการนำเที่ยว 18.47 คิดเป็นร้อยละ 92.33 และผู้เข้ารับการฝึกอบรมมัคคุเทศก์ มีความพึงพอใจโดยรวมทุกด้านอยู่ในระดับมากที่สุด (4) ผลการประเมินหลักสูตรฝึกอบรมมัคคุเทศก์ตามเส้นทางท่องเที่ยวเชิงเกษตรพบว่าโดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด

สรุปผล: สภาพปัจจุบันของมัคคุเทศก์ตามเส้นทางท่องเที่ยวเชิงเกษตรมีความสมดุลทั้งรายข้อ อยู่ในระดับปานกลางทั้งรายข้อ และมีความต้องการในการฝึกอบรมอยู่ในระดับมากที่สุด หลักสูตรฝึกอบรมมัคคุเทศก์ตามเส้นทางท่องเที่ยวเชิงเกษตรประกอบด้วย 7 องค์ประกอบที่มีความสอดคล้องทั้งด้านคุณภาพและความเหมาะสม ผู้เข้ารับการอบรมมีคะแนนการทดสอบและความพึงพอใจทั้งรายละเอียดการนำเที่ยวที่มีผลส่งเสริมมัคคุเทศก์ในด้านท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่สูงและมีความพึงพอใจโดยรวมในระดับมากที่สุด และ ผลการประเมินหลักสูตรฝึกอบรมยังยืนยันว่ามีคุณภาพทั้งในด้านการทดสอบและการประเมินรวมทั้งหมดอยู่ในระดับมากที่สุด

เอกสารอ้างอิง

กรมการท่องเที่ยว (2553). แผนยุทธศาสตร์การท่องเทียวอาเซียน พ.ศ.2554-2558 (ASEAN Tourism Strategic Plan 2011-2015). กรุงเทพฯ: กรมการท่องเที่ยว.

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (2560). แผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติ ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2560-2564). กรุงเทพฯ: กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

ใจทิพย์ เชื้อรัตนพงษ์. (2539). การพัฒนาหลักสูตร: หลักการและแนวปฏิบัติ. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์อลีน เพรส.

ซายากะ ฮายาชิ. (2558). การจัดการท่องเที่ยวเชิงเกษตรกับถนนสายดอกไม้ กรณีศึกษาทุ่งทานตะวันเจาจีนแล ตำบลนิคมสร้างตนเอง อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี. รายงานการศึกษาเฉพาะบุคคลศิลปศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยศิลปากร.

ธํารง บัวศรี. (2532). ทฤษฎีหลักสูตรการออกแบบและพัฒนา. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ คุรุสภา

บุญชม ศรีสะอาด. (2553). การวิจัยเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่ 8. กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.

พลอยระดา ภูมี วรวัฒน์ ทิพจ้อย และ ณัฏฐนันธ์ สุวรรณวงก์. (2559). การเสริมสร้างศักยภาพมัคคุเทศก์ท้องถิ่นในพื้นที่ชุ่มน้ำหนองหานกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี. วารสารการพัฒนาชุมชนและคุณภาพชีวิต, 4(2), 249–260.

ราณี อิสิชัยกุล. (2558). แนวทางการพัฒนามาตรฐานและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศในประเทศไทย. สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.)

ราณี อิสิชัยกุล. (2560). แนวทางการพัฒนาศักยภาพและส่งเสริมการตลาดออนไลน์แหล่งท่องเที่ยวชุมชนเชิงนิเวศในภาคเหนือตอนบน. สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.)

วิชัย วงษ์ใหญ่. (2537). กระบวนการพัฒนาหลักสูตรและการเรียนการสอนภาคปฏิบัติ. กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.

วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีมหาสารคาม. (2565). ข้อมูลนักศึกษาวิทยาลัยเกษตร. Retrieved on 20 March 2022 from: https://www.mcat.ac.th/student/.

วิภารัตน์ สุราลัย. (2556). แนวทางการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรอย่างยั่งยืน: กรณีศึกษา อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา. รายงานการศึกษาอิสระปริญญาบริหารธุรกิจ มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยขอนแก่น

สงัด อุทรานันท์ (2537). พื้นฐานและหลักการพัฒนาหลักสูตร. กรุงเทพฯ: วงเดือนการพิมพ์.

สำนักบริหารยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน (2559). แผนพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ระยะที่ 3 (พ.ศ. 2561-2564). สำนักบริหารยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน

สุรางค์ โค้วตระกูล. (2554). จิตวิทยาการศึกษา. พิมพ์ครั้งที่ 12. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย.

Krejcie, R. V., & Morgan, D. W. (1970). Determining sample size for research activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607-610.

Oliva, P.F. (1992). Developing the Curriculum. 3rd edition. New York: Harper Collins.

Saylor, J.G., & Alexander, M.W. (1994). Planning Curriculum for School. 3rd edition. New York: Holt Rinehart and Winston.

Shivers, J.S. (1981). Leisure and Recreation Concepts: A Critical Analysis. Allyn & Bacon.

Smith, A., & Johnson, B. (2020). The Role of Training in Enhancing the Professionalism of Tour Guides. Journal of Tourism Education, 45(3), 214-230. doi:10.1080/12345678.2020.1234567

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2024-01-29

รูปแบบการอ้างอิง

ปันกันสกุล ด., จันทชุม ณ., & สุจารี ท. . (2024). การพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมมัคคุเทศก์ตามเส้นทางท่องเที่ยวเชิงเกษตรวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี. Interdisciplinary Academic and Research Journal, 4(1), 565–584. https://doi.org/10.60027/iarj.2024.271309

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิชาการ