การพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมเพื่อเพิ่มความสามารถในการจัดการเรียนรู้ ด้านทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับครูประถมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 1

ผู้แต่ง

  • สุภาพ วิเศษศรี นักศึกษาสาขาหลักสูตรและการเรียนการสอนคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม https://orcid.org/0009-0001-7535-6218
  • ณัฏฐชัย จันทชุม อาจารย์คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม https://orcid.org/0000-0003-4413-1806
  • ทิพาพร สุจารี คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม https://orcid.org/0000-0003-0411-5174

DOI:

https://doi.org/10.60027/iarj.2023.271282

คำสำคัญ:

หลักสูตรฝึกอบรม, , ความสามารถในด้านการจัดการเรียนรู้, , ทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ

บทคัดย่อ

ภูมิหลังและวัตถุกประสงค์: การคิดอย่างมีวิจารณญาณเป็นกระบวนการคิดที่ใช้เหตุผลพิจารณาใตร่ตรองอย่างรอบคอบโดยการศึกษาข้อมูล หลักฐาน แยกแยะข้อมูลและหาแนวทางแก้ปัญหานั่นๆได้เพื่อนำสู่การตัดสินใจ การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐาน สภาพปัจจุบัน และความต้องการในการฝึกอบรม (2) พัฒนาหลักสูตรฝึกอบรม (3) ทดลองใช้หลักสูตรฝึกอบรม และ (4) ประเมินหลักสูตรฝึกอบรม

ระเบียบวิธีการวิจัย: การวิจัยโดยใช้กระบวนการวิจัยและพัฒนา แบ่งออกเป็น 4 ระยะ ประกอบด้วย ระยะที่ 1 ศึกษาข้อมูลพื้นฐาน สภาพปัจจุบัน และความต้องการในการฝึกอบรม จากกลุ่มตัวอย่างที่เป็นครูผู้สอนในโรงเรียนกลุ่มเครือข่ายบริหารสถานศึกษาแบบบูรณาการ จำนวน 136 คน กำหนดกลุ่มตัวอย่างโดยใช้ตารางเครจซี่และมอร์แกน สุ่มตัวอย่างโดยวิธีการสุ่มอย่างง่าย และกลุ่มเป้าหมาย ที่ใช้ในการสัมภาษณ์ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษาโรงเรียนประถมศึกษา ศึกษานิเทศก์ และครูผู้สอน จำนวน 15 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง ระยะที่ 2) พัฒนาหลักสูตรฝึกอบรม และหาประสิทธิภาพโดยผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน ระยะที่ 3 ทดลองใช้หลักสูตรกับครูผู้สอนในกลุ่มเครือข่ายบริหารสถานศึกษาแบบบูรณาการ จำนวน 30 คน และระยะที่ 4 ประเมินหลักสูตรฝึกอบรม เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ แบบทดสอบ แบบสอบถาม และแบบประเมินแผนการจัดการเรียนรู้ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการวิจัย:  (1) สภาพปัจจุบันในการจัดการเรียนรู้ด้านทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ โดยรวมอยู่ในระดับมาก และความต้องการในการฝึกอบรมฯ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (2) ผลการพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมฯ พบว่า หลักสูตรฝึกอบรม มีองค์ประกอบ 7 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา 2) หลักการของหลักสูตร 3) จุดมุ่งหมายของหลักสูตร 4) เนื้อหาสาระของหลักสูตร 5) กิจกรรมการฝึกอบรม 6) สื่อและแหล่งเรียนรู้ และ 7) การวัดและการประเมินผล ผลการตรวจสอบคุณภาพหลักสูตร พบว่า หลักสูตรฝึกอบรม โดยรวมมีระดับความสอดคล้องอยู่ในระดับมากที่สุด มีความเหมาะสม โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (3) ผลการทดลองใช้หลักสูตรฝึกอบรมฯ พบว่า ครูที่เข้ารับการฝึกอบรม โดยรวมมีความรู้ ความสามารถด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณหลังการฝึกอบรมผ่านเกณฑ์ร้อยละ 80 คิดเป็นร้อยละ 100 และครูสามารถจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ด้านทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ ได้ระดับคุณภาพดีมาก คิดเป็นร้อยละ 100 และครูมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมฝึกอบรม โดยรวมทุกด้านอยู่ในระดับมากที่สุด และ (4) ผลการประเมินหลักสูตรฝึกอบรมฯ พบว่า แผนการจัดการเรียนรู้ของครูที่เข้ารับการฝึกอบรม โดยรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด และนักเรียนระดับประถมศึกษา มีความคิดเห็นต่อการจัดการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด

สรุปผล: ผลการวิจัยแสดงว่า สภาพการจัดการเรียนรู้ด้านทักษะการคิดมีวิจารณญาณระดับมากและความต้องการในการฝึกอบรมมีระดับมากที่สุด โดยหลักสูตรฝึกอบรมมีองค์ประกอบ 7 องค์ประกอบที่มีความสอดคล้องและเหมาะสมระดับมากที่สุด ครูที่เข้ารับการฝึกอบรมมีความรู้และความสามารถด้านการคิดมีวิจารณญาณ 80-100% และมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมฝึกอบรมระดับมากที่สุด และการประเมินหลักสูตรฝึกอบรมพบว่า แผนการจัดการเรียนรู้ของครูและความคิดเห็นของนักเรียนทั้งหมดอยู่ในระดับมากที่สุด

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงศึกษาธิการ (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ สกสค.

ชญาภา น่าบัณฑิตย์ (2556). รูปแบบการพัฒนาครูด้านกระบวนการสอนคิดอย่างมีวิจารณญาณ โรงเรียนขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต 1. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาการบริหารจัดการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.

ชนาธิป พรกุล (2544). การสอนกระบวนการคิด : ทฤษฎีและการนาไปใช้. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ทิศนา แขมมณี (2554). ทฤษฎีการเรียนรู้เพื่อพัฒนากระบวนการคิด. กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการปฏิรูปการศึกษาแห่งชาติ.

ธนศักดิ์ เจริญธรรม (2561). การพัฒนาโปรแกรมพัฒนาครูวิทยาศาสตร์ในการ จัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมการคิดอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนโรงเรียนมัธยมศึกษา. วิทยานิพนธ์การศึกษาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชา การบริหารและพัฒนาการศึกษา. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.

ธนากร วงศ์ศรีเฝือก (2563). การพัฒนาโปรแกรมเสริมสร้างการจัดการเรียนรู้ของครูเพื่อส่งเสริมการคิดอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนในโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน. วิทยานิพนธ์การศึกษาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารและพัฒนาการศึกษา. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.

สงัด อุทรานันท์ (2537). พื้นฐานและหลักการพัฒนาหลักสูตร. กรุงเทพฯ: วงเดือนการพิมพ์.

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 1, (2564). แผนปฏิบัติการประจำปี พ.ศ. 2564. สุรินทร์ : กลุ่มนโยบายและแผน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 1.

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2558). แนวทางในการจัดทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21. กรุงเทพฯ: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่ง ประเทศไทย จำกัด.

สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2560). ข้อเสนอยุทธศาสตร์การปฏิรูปการศึกษา. กรุงเทพฯ : เซ็นจูรี่.

สิทธิพล อาจอินทร์. (2550). รูปแบบการพัฒนาทักษะการสอนคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับครูวิทยาศาสตร์ประถมศึกษา. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน มหาวิทยาลัยขอนแก่น.

สุคนธ์ สินธพานนท์ และคณะ (2552). พัฒนาทักษะการคิดตามแนวปฏิรูปการศึกษา. กรุงเทพฯ :เทคนิคพริ้นติ้ง.

สุรางค์ โค้วตระกูล. (2554). จิตวิทยาการศึกษา. พิมพ์ครั้งที่ 12. กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย.

สุวิทย์ มูลคํา. (2559). กลยุทธ์การสอนคิดเชิงกลยุทธ์. กรุงเทพฯ : ภาพพิมพ์.

Oliva, P.F. (1992). Developing the Curriculum. 3rd edition. New York: Harper Collins.

Saylor, J.G., & Alexander, M. W. (1994). Planning Curriculum for School. 3rd edition. New York: Holt Rinehart and Winston.

Taba, H. (1978). Curriculum Development: Theory and Practices. New York: Harcourt, Brace and World Inc.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2023-11-26

รูปแบบการอ้างอิง

วิเศษศรี ส. ., จันทชุม ณ. ., & สุจารี ท. . (2023). การพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมเพื่อเพิ่มความสามารถในการจัดการเรียนรู้ ด้านทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับครูประถมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 1. Interdisciplinary Academic and Research Journal, 3(6), 239–256. https://doi.org/10.60027/iarj.2023.271282

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิชาการ