ยุทธศาสตร์การสร้างความเป็นสมัยใหม่แก่สังคมอินเดียของราชาราม โมหัน รอย
DOI:
https://doi.org/10.14456/iarj.2023.281คำสำคัญ:
ยุทธศาสตร์; , ความทันสมัย; , ปรัชญาสังคม; , ราชาราม โมหัน รอยบทคัดย่อ
ราชาราม โมหัน รอย (RajaRam Mohan Roy) เกิดเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ค.ศ. 1772 สังกัดวรรณะพราหมณ์ ในเมืองเมอร์ซิดาบัดในรัฐเบงกอล ประเทศอินเดีย ผลงานของราชาราม โมหัน รอยนั้นมีมากมายทั้งที่เป็นงานเขียน และผลที่เกิดจากการต่อสู้เพื่อปฏิรูปสังคมฮินดู นอกจากนั้นรอยได้ก่อตั้งอาตมิยสภาขึ้นเพื่อสร้างความเข้าใจระหว่างคนในศาสนา บทความนี้มีวัตถุประสงค์ 2 ประการ คือ 1) ศึกษาปรัชญาสังคมของราชาราม โมหัน รอย 2) ศึกษายุทธศาสตร์การฟื้นฟูสังคมและสร้างเป็นสมัยใหม่แก่สังคมอินเดียของราชาราม โมหัน รอย ผู้ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นบิดาแห่งอินเดียสมัยใหม่ โดยใช้วิธีการศึกษาหนังสือ ตำรา เอกสารที่เกี่ยวข้อง แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ เรียบเรียงด้วยวิธีการพรรณนาวิเคราะห์ จากการศึกษาพบว่า (1) แก่นแกนปรัชญาสังคมของราชาราม โมหัน รอยพัฒนาบนพื้นฐานแนวคิดเอกนิยมและปรัชญาตะวันตก ความเป็นเอกนิยมนั้นคือ สังคมสามารถเป็นหนึ่งโดยไม่มีชนชั้นวรรณะได้ ส่วนปรัชญาตะวันตกนั้นพัฒนาบนพื้นฐานเหตุผลนิยมและความเป็นมนุษยนิยม รอยได้ใช้เหตุผลนิยมเป็นเครื่องมือในการวิพากษ์หลักการทางศาสนาที่ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยเหตุผล ส่วนความเป็นมนุษยนิยมนั้นรอยได้หยิบยืมมาจากหลักคำสอนของศาสนาคริสต์ ระบบวรรณะเป็นปัญหาพื้นทางทางภววิทยาทางสังคมอินเดีย ดังนั้น หลักเอกนิยมและมนุษยนิยมนี้จึงแก้ปัญหาในเชิงทฤษฎีทางสังคมในอินเดียสมัยฟื้นฟูได้ และสิ่งสำคัญที่สุดในทางสังคมคือ เสรีภาพในการพูดผ่านช่องทางวารสารและสมาคมพรหมสมาช (2) นอกจากนั้น ราชาราม โมหัน รอยได้วางยุทธศาสตร์สำคัญแก่สังคมอินเดีย 4 ด้าน ได้แก่ ยุทธศาสตร์ด้านศาสนา ยุทธศาสตร์ด้านการศึกษา ยุทธศาสตร์ด้านการเมือง และยุทธศาสตร์ด้านสังคม ยุทธศาสตร์ทั้งหมดสร้างขึ้นด้วยกระบวนการวิพากษ์ด้วยเหตุผลนิยมผสมผสานกับหลักมนุษยนิยมและประโยชน์นิยมแบบตะวันตก ในทัศนะของรอยการศึกษาเป็นเครื่องชี้วัดพื้นฐานด้านการพัฒนาสังคม รอยจึงได้เริ่มต้นด้วยการปักหมุดหมายด้านการศึกษาด้วยการเพิ่มแนวคิดปฏิบัตินิยมในปรัชญาการศึกษาแทนที่จิตนิยม เพิ่มความรู้วิทยาศาสตร์สมัยใหม่ในหลักสูตรการศึกษา และใช้กระบวนการตีความเพื่อสร้างความหมายใหม่ในหลักการสำคัญทางศาสนาเพื่อสร้างระเบียบใหม่แก่สังคมเพื่อแก้ปัญหาเกี่ยวกับความเชื่อทางศาสนาและพิธีกรรมที่เป็นรากเหง้าของปัญหาสังคม
เอกสารอ้างอิง
จำนงค์ ทองประเสริฐ, แปล. (2541). บ่อเกิดลัทธิประเพณีอินเดียเล่ม 2 ภาค 5-6. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: ราชบัณฑิตยสถาน.
ปรีชา ช้างขวัญยืน. (2529). ระบบปรัชญาการเมืองในมานวธรรมศาสตร์. กรุงเทพฯ พนอศิริเพลส.
ปรีชา ช้างขวัญยืน. (2524). การใช้เหตุผล.กรุงเทพฯ : วิชาการ.
ปัญญา เสนาเวียง และ วิชัย วัชรเวคะวิชญ์. (2565).วิธีการการตีความทางปรัชญาตามแนวศาสตร์การตีความของราชาราม โมหัน รอย. วารสารปรัชญาและศาสนา มหาวิทยาลัยขอนแก่น. 7 (1), 42-61.
ปัญญา เสนาเวียง. (2560ก). การประยุกต์ใช้จริยศาสตร์ประโยชน์นิยม เพื่อปฏิรูปสังคมอินเดียของราชาราม โมหัน รอย. วารสารวิถีสังคมมนุษย์. 5 (2), 236-251.
ปัญญา เสนาเวียง. (2560ข). ญาณวิทยาของราชาราม โมหัน รอย. วารสารปรัชญาและศาสนา มหาวิทยาลัยขอนแก่น. 2 (2), 1-25.
วิสุทธ์ บุษยกุล. (2520). วิสุทธิ์นิพนธ์. กรุงเทพฯ: โอเดียนสโตร์
สุนทร ณ รังษี. (2545). ปรัชญาอินเดีย: ประวัติและลัทธิ. พิมพ์ครั้งที่ 3, กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
Deopurkar, R.T. (1964). The Evolution of the Philosophy Education in Modern India. A Thesis for the degree of Doctor of Philosophy Submitted to the Maharaja Sayajirao University of Baroda
Ghose, C.J. (1901). The English Works of Raja Ram Mohun Roy. Culcutta: Kuntaline Press.
Pankratz, N.J. (1975). The Religious Thought of RajaRoy, R. Fulfillment of the Requirements for the Degree Doctor of Philosophy. McMaster University.
Roy, R. (1823). The Precept of Jesus. London: Unitarian Society.
Sarkar, C.H. (1914). The Life and Letters of RajaRam Mohun Roy. 2nd. Calcutta: India.
Schouten, P.J. (2008). Jesus as Guru. Rodopi Amsterdam: Netherlands.
Seal, B. (1949). Tuhfat–ul-muwahhidin (A Gift of Mono-theism). Calcutta. Cotton Press.
Sharmar, A., (1998). The Concept of Universal Religion in Modern Hindu Thought. United Kingdom: Palgrave Macmillan.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2023 Warirat Sangwong, Danwichai Sairaksa, Prasartporn Sikongplee, Panya Senawaing, Somjai Jomhong

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ลิขสิทธิ์ในบทความใดๆ ใน Interdisciplinary Academic and Research Journal ยังคงเป็นของผู้เขียนภายใต้ ภายใต้ Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License การอนุญาตให้ใช้ข้อความ เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ของสิ่งพิมพ์ ผู้ใช้ใดๆ เพื่ออ่าน ดาวน์โหลด คัดลอก แจกจ่าย พิมพ์ ค้นหา หรือลิงก์ไปยังบทความฉบับเต็ม รวบรวมข้อมูลเพื่อจัดทำดัชนี ส่งต่อเป็นข้อมูลไปยังซอฟต์แวร์ หรือใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมายอื่นใด แต่ห้ามนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์หรือด้วยเจตนาที่จะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจใดๆ





