ผลการใช้ชุดกิจกรรมการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองเพื่อส่งเสริมการควบคุมตนเองของเด็กปฐมวัย
DOI:
https://doi.org/10.14456/iarj.2023.266คำสำคัญ:
ชุดกิจกรรม, การควบคุมตนเอง, เด็กปฐมวัยบทคัดย่อ
เพื่อให้เด็กปฐมวัยสามารถดำรงชีวิตและเติบโตเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ ทั้งด้านการดำรงชีวิตและการทำงานจำเป็นต้องเสริมสร้างให้เด็กปฐมวัยสามารถกำกับควบคุมความคิด อารมณ์ และพฤติกรรมของตนเองเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายได้ ซึ่งการควบคุมตนเอง เป็นหนึ่งองค์ประกอบสำคัญในทักษะชีวิต และหนึ่งใน Soft Skills ที่ไม่สามารถเรียนรู้ผ่านการอ่านคู่มือหรือตำราได้ จำเป็นต้องผ่านกระบวนการเรียนรู้จากประสบการณ์เท่านั้น ดังนั้นการวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลการใช้ชุดกิจกรรมการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองเพื่อส่งเสริมการควบคุมตนเองของเด็กปฐมวัย กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยคือ ผู้ปกครองของเด็กปฐมวัยที่มีอายุระหว่าง 5 – 6 ปี ระดับชั้นเด็กเล็ก โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร (ฝ่ายประถม) ที่กำลังศึกษาใน ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2566 จำนวน 8 ครอบครัว ระยะเวลาที่ใช้ในการทดลอง 7 สัปดาห์ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ประกอบด้วย 1) ชุดกิจกรรมการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองเพื่อส่งเสริมการควบคุมตนเองของเด็กปฐมวัย จำนวน 8 ชุด 16 กิจกรรม 2) แบบสังเกตพฤติกรรมการควบคุมตนเองของเด็กระหว่างการใช้ชุดกิจกรรมกับผู้ปกครอง 3) แบบสัมภาษณ์ความคิดเห็นผู้ปกครองเกี่ยวกับชุดกิจกรรมการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองเพื่อส่งเสริมการควบคุมตนเองของเด็กปฐมวัย วิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า เด็กปฐมวัยที่ได้รับการใช้ชุดกิจกรรมการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองเพื่อส่งเสริมการควบคุมตนเองของเด็กปฐมวัย มีพฤติกรรมการควบคุมตนเองเพิ่มขึ้น ได้แก่ ด้านการจำและนำไปใช้ พบว่า เด็กสามารถจำข้อมูลและอธิบายเชื่อมโยงเหตุการณ์หรือการกระทำได้อย่างเหมาะสม มีการจดจ่อ มีสมาธิในการทำงานของตนได้อย่างต่อเนื่อง และสามารถรับผิดชอบหน้าที่ของตนเองที่ได้รับมอบหมายจนสำเร็จ ด้านการยั้งคิด ไตร่ตรอง พบว่า เด็กสามารถตั้งเป้าหมายและวางแผนการทำงานของตนเองให้สำเร็จได้ด้วยตนเอง สามารถแสดงอารมณ์ของตนเองได้สอดคล้องกับสถานการณ์ ควบคุมความรู้สึกของตน แสดงพฤติกรรมในชีวิตประจำวันได้อย่างเหมาะสมและผู้ปกครองมีความพึงพอใจต่อรูปแบบกิจกรรมซึ่งมีความน่าสนใจ เหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน มีการจัดเตรียมสื่ออุปกรณ์ได้อย่างครบถ้วน มีคำอธิบายที่ชัดเจนทำให้ง่ายต่อการใช้ชุดกิจกรรม ปัญหาที่พบระหว่างการใช้ชุดกิจกรรมคือข้อจำกัดของเวลาในการทำกิจกรรมของผู้ปกครองซึ่งจัดกิจกรรมในช่วงเวลากลางคืน ทั้งนี้ผู้ปกครองมีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับการส่งเสริมพฤติกรรมการควบคุมตนเองของเด็กปฐมวัยมากขึ้น สามารถนำความรู้ที่ได้รับไปสอนลูกเพิ่มเติมในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี มีความประทับใจต่อชุดกิจกรรมก่อให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีภายในครอบครัว และได้เห็นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการควบคุมตนเองของลูกดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2559). หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560. กรุงเทพฯ : กระทรวงศึกษาธิการ
กุลยา ตันติผลาชีวะ. (2554). การมีส่วนร่วมของผู้ปกครองกับโรงเรียน. การศึกษาปฐมวัย, 5(4), 30 - 37.
จุฑาทิพย์ โอบอ้อม. (2556). การพัฒนาโปรแกรมการให้ความรู้ผู้ปกครองเพื่อส่งเสริมทักษะชีวิตของเด็กปฐมวัย. ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต (ปฐมวัยศึกษา) สาขาวิชาปฐมวัยศึกษา ภาควิชาการศึกษา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
ทิศนา แขมมณี. (2559). ชุดกิจกรรมการเรียนการสอนและการฝึกทักษะกระบวนการกลุ่มชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. กรุงเทพฯ : ภาควิชาประถมศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
เบญจวรรณ วิสุทธิเสน. (2562). ผลของการจัดกิจกรรมเล่นไม้บล็อกเป็นกลุ่มที่มีต่อทักษะการจดจ่อและควบคุมตนเองของเด็กปฐมวัย. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต (ปฐมวัยศึกษา) สาขาวิชาปฐมวัยศึกษา ภาควิชาการศึกษา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
สุปรียา ผาสุกสถิตพงศ์ และ ปิยะนันท์ หิรัณย์ชโลทร. (2565). ผลการใช้ชุดกิจกรรมการมีส่วนร่วมของผู้ปกครอง “PLAY AT HOME” เพื่อส่งเสริมการกำกับตนเองในเด็กปฐมวัย. วารสารนวัตกรรมการศึกษาและการวิจัย. 7(2), 438 – 454.
อรวรรณ สุวรรณศรี และ ปิยะนันท์ หิรัณย์ชโลทร. (2559). การศึกษาผลการใช้ชุดกิจกรรมการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองเพื่อส่งเสริมทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัย. วารสารศึกษาศาสตร์ปริทัศน์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. 31(2), 89-96.
อัจฉราลักษณ์ ทั่งทอง และปิยะนันท์ หิรัณย์ชโลทร. (2564). การให้ความรู้ผู้ปกครองเพื่อส่งเสริมความเป็นพลเมืองของเด็กปฐมวัยโดยใช้ชุดกิจกรรม “หนูน้อยสู้ภัยโควิด-19”. สิกขา วารสารศึกษาศาสตร์. 10(1), 167-181.
อารีนา มะแดเฮาะ ปิยะนันท์ หิรัณย์ชโลทร และชลาธิป สมาหิโต. (2664). การใช้ชุดการเรียนรู้ “Di Buemang” เพื่อส่งเสริมความคิดรวบยอดทางภูมิศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย. วารสารการบริหารจัดการและนวัตกรรมท้องถิ่น. 4(4), 28-38.
Bandura, A. (1986). Social Foundations of Thought and Action: A Social Cognitive Theory. Englewood Cliffs, NJ: Prentice Hall.
Center on the Developing Child at Harvard University (2014). Enhancing and Practicing Executive Function Skills with Children from Infancy to Adolescence. Retrieved August 30, 2021, from: http://www.developingchild.harvard.edu.
Dewey, J. (1959). Experience and education. New York: Macmillan Publishing Company.
Diamond, A. (2012). Executive Functions. REVIEW IN ADVANCE 5(12), 19.2-19.20 and Program Planning. Applied Behavioral Sciences, 7(10), 466-492.
Epstein, J. L. (1995). School/ family/community partnerships: Caring for the children we share. Phi Delta Kappan, 76(9), 701-712.
Galinsky, E. (2010). How Do We Teach Children The Most Important Life Skills?: Prepared for the 14th Annual CCF Conference: Families as They Are: How do We Use What We Know? Retrieved October 13, 2021, from https://sites.utexas.edu/contemporaryfamilies/files/2013/11/2010-Fact_Galinsky_How-Do-We-Teach-Children.pdf
Heckman, (2012). Invest in Early Childhood Development: Reduce Deficits, Strengthen the Economy. Retrieved October 13, 2021, from: https://heckmanequation.org/resource/invest-in-early-childhood-development-reduce-deficits-strengthen-the-economy/
NAEYC (2016). Focus and Self Control. Teaching Young Children. 9(3), 10-13.
National Parent Education Network. (2022). NPEN Core Principles. Retrieved February 20, 2023, form https://npen.org/about-npen/core-principles
Unicef. (2019). Unicef Early Childhood Development Kit for Emergencies. Retrieved October15, 2021, from https://www.unicef.org/evaldatabase/files/UNICEF_ECD _Kit_Synthesis.pdf
Vygotsky, L.S. (1995). Fantasi och kreativitet i barndomen [Imagination and Creativity in Childhood]. Goteborg: Daidalos.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2023 Supaporn Samaun, Piyanan Hirunchalothorn, Chalatip Samahito

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ลิขสิทธิ์ในบทความใดๆ ใน Interdisciplinary Academic and Research Journal ยังคงเป็นของผู้เขียนภายใต้ ภายใต้ Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License การอนุญาตให้ใช้ข้อความ เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ของสิ่งพิมพ์ ผู้ใช้ใดๆ เพื่ออ่าน ดาวน์โหลด คัดลอก แจกจ่าย พิมพ์ ค้นหา หรือลิงก์ไปยังบทความฉบับเต็ม รวบรวมข้อมูลเพื่อจัดทำดัชนี ส่งต่อเป็นข้อมูลไปยังซอฟต์แวร์ หรือใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมายอื่นใด แต่ห้ามนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์หรือด้วยเจตนาที่จะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจใดๆ





