การจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบจำลองเป็นฐานเพื่อส่งเสริมการคิดอย่างมีวิจารณญาณและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง เซลล์และการทำงานของเซลล์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
DOI:
https://doi.org/10.14456/iarj.2023.284คำสำคัญ:
การจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบจำลองเป็นฐาน;, การคิดอย่างมีวิจารณญาณ; , ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนบทคัดย่อ
การพัฒนาการศึกษาในศตวรรษที่ 21 ควรปลูกฝังนักเรียนให้มีทักษะการคิดอย่างวิจารณญาณ เพื่อให้นักเรียนสามารถคิดวิเคราะห์ แยกแยะ ข้อมูลข่าวสารที่ได้รับ และสามารถปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป การจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบจำลองเป็นฐาน เป็นการส่งเสริมให้นักเรียนลงมือปฏิบัติ โดยเริ่มตั้งแต่กระบวนการคิด การสืบค้นข้อมูล การศึกษาข้อเท็จจริง แล้วนำมาพิจารณาวิเคราะห์อย่างสมเหตุสมผล นำไปสู่การลงข้อสรุป แล้วนำมาสร้างแบบจำลอง ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้นักเรียนการคิดอย่างมีวิจารณญาณ การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อเปรียบเทียบการคิดอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้ โดยใช้แบบจำลองเป็นฐาน 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบจำลองเป็นฐาน เรื่อง เซลล์และการทำงานของเซลล์ โดยเทียบกับเกณฑ์ ร้อยละ 70 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/6 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนบรบือวิทยาคาร จำนวน 26 คน ได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบจำลองเป็นฐาน รายวิชาชีวิทยา หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง เซลล์และการทำงานของเซลล์ จำนวน 8 แผน ใช้เวลา 12 ชั่วโมง ผลการประเมินความเหมาะสมการจัดการเรียนรู้ โดยใช้แบบจำลองเป็นฐานจากผู้เชี่ยวชาญ 5 ท่าน พบว่ามีความเหมาะสมอยู่ในระดับเหมาะสมมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 4.46-4.60 ( = 0.02-0.15) 2) แบบทดสอบวัดการคิดอย่างมีวิจารณญาณ ตามแนวคิดของ Ennis and Millman ชนิดปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 20 ข้อ มีค่า IOC อยู่ระหว่าง 0.80-1.00 ค่าอำนาจจำแนกอยู่ในระหว่าง 0.46-0.69 และความเชื่อมั่นของแบบทดสอบทั้งฉบับเท่ากับ 0.92 และ 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง เซลล์และการทำงานของเซลล์ ตามแนวคิดของ Klopfer ชนิดปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 20 ข้อ มีค่า IOC อยู่ระหว่าง 0.60-1.00 ค่าความยากอยู่ในระหว่าง 0.32-0.76 ค่าอำนาจจำแนกอยู่ในระหว่าง 0.24-0.75 และความเชื่อมั่นของแบบทดสอบ ทั้งฉบับเท่ากับ 0.89 ผลการวิจัยพบว่า 1) การคิดอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หลังได้รับการจัด การเรียนรู้โดยใช้แบบจำลองเป็นฐาน นักเรียนมีการคิดอย่างมีวิจารณญาณหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า นักเรียนมีการคิดอย่างมีวิจารณญาณมากที่สุดในด้านความสามารถในการอุปนัย และมีการคิดอย่างมีวิจารณญาณน้อยที่สุดในด้านความสามารถในการพิจารณาความน่าเชื่อถือของแหล่งข้อมูลและการสังเกต 2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หลังได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบจำลองเป็นฐานสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .05
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
กระทรวงศึกษาธิการ. (2560). ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560). กรุงเทพฯ: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
จงกล บุญรอด และอลิศรา ชูชาติ. (2557). ผลของการจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์โยใช้แบบจำลอง MORE ที่มีผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์และความสามารถในการสร้างคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น. Online Journal of Education, 10(2), 238-248.
ชัยวัฒน์ สุทธิรัตน์. (2553). เทคนิคการใช้คำถามพัฒนาการคิด. นนทบุรี: สหมิตรพริ้นติ้งแอนด์พับลิสชิ่ง.
ชาตรี ฝ่ายคำตา และภรทิพย์ สุภัทรชัยวงศ์. (2557). การจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบจำลองเป็นฐานModel-Based Learning. วารสารศึกษาศาสตร์ปริทัศน์, 29(3), 86-99.
ปรีญานันต์ นวลจันทร์. (2563). ผลการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบจำลองเป็นฐานที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์และความสามารถในการคิดอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต: มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ในพระบรมราชูปถัมภ์: ปทุมธานี.
ภัทราวดี มากมี. (2554). การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-based Learning).วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย, 5(1), 7-14.
รัตนาภรณ์ ศุภพร, สุรเดช อนันตสวัสดิ์ และวิทัศน์ ฝักเจริญผล. (2562). การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องระบบอวยัวะในร่างกายของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยการใช้แบบจำลองเป็นฐาน. วารสารศาสตร์การศึกษาและการพัฒนามนุษย์, 3(2), 62-71
สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ. (2561). สรุปผลการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET). Retrieved on 18 May 2022, from: http://www.newonetresult.niets.or.th/AnnouncementWeb/Login.aspx.
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2555). แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 11 พ. ศ. 2555-2559. กรุงเทพฯ: สำนักนายกรัฐมนตรี.
สำนักงานรับรองมาตฐานและประเมินคุณภาพ. (2555).การประเมินคุณภาพภายนอกรอบสาม (พ.ศ. 2554-2558) ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานฉบับสถานศึกษา. กรุงเทพฯ: บริษัทพิมพ์ดีจำกัด.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2560). แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2579. กรุงเทพฯ:บริษัทพริกหวานกราฟฟิคจำกัด.
อรลออ เผือกนอก. (2563). การจัดการเรียนรู้ชีววิทยาเรื่องการแบ่งเซลล์ ด้วยวิธีการสืบเสาะหาความรู้โดยใช้แบบโมเดลเป็นฐาน. วารสารชุมชนแห่งการเรียนรู้วิชาชีพครู, 1(1), 14-29.
Coll, R.K. (2006). Metaphor and Analogy in Science Education. Netherlands: Springer.
Ennis, R.H., & Millman, J. (1985). Cornell Critical Thinking Test, Level Z. California: Midwest Publications.
Gobert, J.D., & Buckley, B.C. (2002). Introduction to Model-Based Teaching and Learning in Science Education. International Journal of Science Education, 22(9), 891-894.
Hodgson, T. (1995). Secondary Mathematics Modeling: Issues and Challenges. School Science and Mathematics, 95(7), 351-358.
Klopfer, L.E. (1971). Individualized Science: Relevance for the 1970's. Science Education, 55(4), 441-448.
Schwarz, C. V., Reiser, B. J., Davis, E. A., Kenyon, L., Acher, A., Fortus, D., Shwartz, Y., Hug, B., & Krajcik, J. (2009). Developing a Learning Progression for Scientific Modeling: Making Scientific Modeling Accessible and Meaningful for Learners. Journal of Research in Science, 46(6), 632-654.
Windschitl, M., & Thompson, J. (2006). Transcending Simple Forms of School Science Investigation: The Impact of Preservice Instruction on Teachers’ Understandings of Model-Based Inquiry. American Educational Research Journal, 43(4), 783-835.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2023 Pornpimon Phothaisong, Panwilai Dokmai

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ลิขสิทธิ์ในบทความใดๆ ใน Interdisciplinary Academic and Research Journal ยังคงเป็นของผู้เขียนภายใต้ ภายใต้ Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License การอนุญาตให้ใช้ข้อความ เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ของสิ่งพิมพ์ ผู้ใช้ใดๆ เพื่ออ่าน ดาวน์โหลด คัดลอก แจกจ่าย พิมพ์ ค้นหา หรือลิงก์ไปยังบทความฉบับเต็ม รวบรวมข้อมูลเพื่อจัดทำดัชนี ส่งต่อเป็นข้อมูลไปยังซอฟต์แวร์ หรือใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมายอื่นใด แต่ห้ามนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์หรือด้วยเจตนาที่จะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจใดๆ





