การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่ส่งผลต่อการให้เหตุผลเชิงพีชคณิต การสื่อสารและการนำเสนอทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
DOI:
https://doi.org/10.14456/iarj.2023.241คำสำคัญ:
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน; , การให้เหตุผลเชิงพิชคณิต; , การสื่อสารและการนำเสนอทางคณิตศาสตร์บทคัดย่อ
การจัดการเรียนการสอนปัจจุบันปัญหา คือ นักเรียนไม่ชอบคิดและขาดทักษะการแก้ปัญหาไม่สามารถประยุกต์ความรู้ไปใช้แก้ปัญหาได้ ซึ่ง ประสบการณ์ในการแก้ปัญหาในชั้นเรียนนี้จะเป็นรากฐานสำคัญนำมาสู่การพัฒนาวิธีการคิดและเสริมสร้างความสามารถในการแก้ปัญหา การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาระดับการให้เหตุผลเชิงพีชคณิตทางคณิตศาสตร์ เรื่อง สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 2) เพื่อศึกษาการสื่อสารและการนำเสนอทางคณิตศาสตร์เรื่อง สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และ 3) เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่ส่งผลต่อการให้เหตุผลเชิงพีชคณิต การสื่อสารและการนำเสนอทางคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนวาปีปทุม จำนวนนักเรียน 218 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แบบทดสอบการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ 2) แบบทดสอบการสื่อสารและการนำเสนอทางคณิตศาสตร์ สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการศึกษาพบว่า 1) ระดับการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ของนักเรียน เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย ได้แก่ ระดับที่ 3 (ร้อยละ 33.49) รองลงมา คือ ระดับ 4 (ร้อยละ 22.94) ระดับ 1 (ร้อยละ 22.02) และระดับ 2 (ร้อยละ 21.56) 2) การสื่อสารและการนำเสนอทางคณิตศาสตร์ของนักเรียน เรียงลำดับจากมากไปหาน้อยได้ดังนี้ ระดับดี (ร้อยละ 27.5) ระดับปานกลาง (ร้อยละ 55) ระดับปรับปรุง (ร้อยละ 17.5) 3) นักเรียนที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์อ่อน มีระดับการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ ระดับ 1 และ ระดับ 2 มีระดับคุณภาพการสื่อสารและการนำเสนอทางคณิตศาสตร์ ระดับควรปรับปรุง (ร้อยละ 37.16) นักเรียนที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ปานกลาง มีระดับการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ ระดับ 3 มีระดับคุณภาพการสื่อสารและการนำเสนอทางคณิตศาสตร์ ระดับพอใช้ (ร้อยละ 34.86) นักเรียนที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์เก่ง มีระดับการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ ระดับ 4 มีระดับคุณภาพการสื่อสารและการนำเสนอทางคณิตศาสตร์ ระดับดี (ร้อยละ 27.98)
เอกสารอ้างอิง
กรวิกา ปานศักดิ์, วนินทร สุภาพ และจักรกฤษ กลิ่นเอี่ยม. (2562). การพัฒนาความสามารในการสื่อสารทางคณิตศาสตร์และการนำเสนอด้วยการจัดการเรียนรู้แบบเสริมต่อการเรียนรู้ เรื่อง จำนวนจริง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 13(2), 32-44.
กระทรวงศึกษาธิการ. (2560). ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางกลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
กิตติ พัฒเนตระกูลสุข. (2546). การเรียนการสอนคณิตศาสตร์ในระดับมัธยมศึกษาของประเทศไทย ล้มเหลวจริงหรือ. วารสารคณิตศาสตร์, 46(532), 54-58.
ฝ่ายวิชาการ โรงเรียนวาปีปทุม. (2565). รายการการสำรวจผลการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนในโรงเรียนวาปีปทุม. มหาสารคาม: โรงเรียนวาปีปทุม อำเภอวาปีปทุม
พรพิมล แก้วละมุล. (2562). การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความสามารถในการให้เหตุผลเชิงสัดส่วนกับการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1. ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต: มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.
พรรณทิพา พรหมรักษ์. (2552). การพัฒนากระบวนการเรียนการสอนโดยใช้กระบวนการวางนัขทั่วไปเพื่อส่งเสริมความสามารถในการให้หตุผลทางพีชคณิตและการสื่อสารทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 3. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
พิมพ์สุภา วุ่นเหลี่ยม.(2563). ความสามารถในการแก้ปัญหาและการสื่อสารทางคณิตศาสตร์ เรื่อง สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียวของ นักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้วิธีการแบบเปิด. มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (2565). รายงานผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน O-NETม.3 ปี 2564. กรุงเทพฯ: สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ.
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2551). ทักษะ/กระบวนการทางคณิตศาสตร์. กรุงเทพฯ: ห้างหุ้นส่วนจำกัด ส เจริญการพิมพ์.
อาริยา ไพโรจน์. (2564). การศึกษาความสามารถในการสื่อสารและการสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบ TGT สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1. กำแพงเพชร : มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร
อิสริยะ อรัญมิตร. (2560). การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์กับการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์ เรื่อง ตรรกศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4. ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต : มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.
Jones, G.A., Thornton, C.A., Langrall, C.W., & Tarr, J.E. (1999). Understanding Students Probabilistic Reasoning. In L.V. Stiff & F.R. Curcio (Eds.), Developing Mathematical Reasoning in Grades K-12 (pp. 146-156). Reston, VA: National Council of Teachers of Mathematics.
Basir, M.A., Waluya, S., Dwijanto, & Isnarto. How Students use cognitive structures to process information in algebraic reasoning? European Journal of Educational Research.11(2), 821-836. doi:10.12973/eu-jer.11.2.821
Yamane, T. (1973). Statistics: An Introductory Analysis. 3rd Edition, New York: Harper and Row.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2023 Wasuthida Boonying, Navapon Nontapa

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ลิขสิทธิ์ในบทความใดๆ ใน Interdisciplinary Academic and Research Journal ยังคงเป็นของผู้เขียนภายใต้ ภายใต้ Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License การอนุญาตให้ใช้ข้อความ เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ของสิ่งพิมพ์ ผู้ใช้ใดๆ เพื่ออ่าน ดาวน์โหลด คัดลอก แจกจ่าย พิมพ์ ค้นหา หรือลิงก์ไปยังบทความฉบับเต็ม รวบรวมข้อมูลเพื่อจัดทำดัชนี ส่งต่อเป็นข้อมูลไปยังซอฟต์แวร์ หรือใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมายอื่นใด แต่ห้ามนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์หรือด้วยเจตนาที่จะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจใดๆ





